Denmark ประเทศที่อาจจะเป็นสวรรค์และโมเดลที่ไทยน่าเอาแบบอย่างมาในหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทชั้นนำของโลกที่ชื่อดังหนึ่งในนั้นคือ เ Grundfos บริษัทผู้ผลิตปั๊มน้ำรายใหญ่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก สัญชาติเดนมาร์ก รวมถึงการผลิตมอเตอร์มาตรฐานและมอเตอร์แบบจุ่มใต้น้ำ ไปจนถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความทันสมัยสำหรับการตรวจสอบและการควบคุมการทำงานของปั๊มครบวงจร ซึ่งมีนวัตกรรมใหม่ๆ ภายในอาคารที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและการนำน้ำในระบบมาใช้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุดดังที่ได้กล่าวไปในตอนที่ผ่านๆมา

คราวนี้เราเดินทางมาเพื่อเยี่ยม Grundfos Center ชมโรงงานที่นี่ เยี่ยมบ้านของผู้ก่อตั้ง รวมถึงนั่งคุยกับผู้บริหารอย่างเป็นกันเอง

ซึ่งเราได้มีโอกาสฟังบรรยายเรื่องสถานการณ์น้ำของโลกที่น่าวิกฤตจากผู้เชี่ยวชาญ คือคุณ Pia Yasuko Rask, Director Safe Water ที่มีโอกาสลงพื้นที่ทั่วโลกเกี่ยวกับสถานการณ์ความขาดแคลนน้ำ และสภาพพื้นที่ต่างๆ ที่ยังต้องการระบบที่ดี ซึ่งมีการเก็บข้อมูลในการวิจัยไว้ด้วย ความต้องการน้ำสะอาด ยิ่งในปี2030ก็ยิ่งมีความต้องการสูงเพิ่มขึ้นไปอีก

การเดินทางครั้งนี้ยังได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนกระทรวงสิ่งแวดล้อมพบกับเจ้าหน้าที่ Kim Madsbjerg ที่มาฉายภาพการจัดการน้ำ การจัดเก็บภาษี ที่เขาทำกันอย่างครบวงจรทั้งประเทศ ซึ่งการทำแบบครบวงจรเช่นนี้ได้ หรือกระทั่งไปดูแหล่งกักเก็บน้ำระบบบำบัดน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงผู้คนในเมือง (Marbjerg Water Works)

สิ่งที่ประทับใจในการเดินทางครั้งนี้ คือ Grundfos guest house Frisholt สถานที่ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นบ้านพักรับรองแขกของบริษัทในลักษณะที่มีความอบอุ่นเป็นกันเอง

และที่นี่ถูกใช้รับรองแขก คู่ค้าทางธุรกิจ ที่เดินทางมาจากทั่วโลก ถ้าเรามีโอกาสเห็นตรงส่วนนี้ประกอบกับการเยี่ยมชมออฟฟิศของเขาที่เดนมาร์ก จะรู้เลยว่า วิถีชีวิตและวิธีคิดต่อผู้คนที่เขามองเป็นอย่างไร

ที่ Guest house Frisholt มีทั้งเชฟ มีทั้งพนักงานที่ดูแลลูกค้าอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากย่าน Bjerringbro ของ Denmark มีธรรมชาติโอบล้อม ไม่มีตึกสูง แต่บรรยากาศดีมากๆ เงียบสงบ เขาจึงวางระบบที่นี่อย่างครบวงจร มีห้องสันทนาการ มีบาร์ มีห้องเล่นกีฬา ห้องฟังเพลง ห้องรับแขก การตกแต่งตามสไตล์ต่างๆ

ซึ่งอดคิดถึงประเทศไทยไม่ได้ว่าถ้ามีสักองค์กรที่นำแบบฉบับวิธีคิดและการดูแลปฏิบัติต่อพนักงานไปจนถึงลูกค้า-ผู้มาติดต่อธุรกิจได้จะยิ่งน่าสนใจเพียงใด

อย่างไรก็ตาม ก็ได้แต่วาดหวังว่า “การคิดทั้งระบบ” การคิดที่คิดถึงส่วนรวมไม่ใช่แค่เรื่องขององค์กร หรือผลประกอบการ แต่คือความยั่งยืนของโลกและคุณภาพชีวิตของผู้คน จะกลายเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอสำคัญขององค์กรใดองค์หนึ่งในบ้านเรา

เราได้แต่เฝ้ารอคอยวันนั้นให้มาถึงโดยเร็ว