ฟัง “ทรัมป์” พูด ว่าด้วย “เอเชีย”

TOPSHOT - US Republican presidential candidate Donald Trump speaks on the last day of the Republican National Convention on July 21, 2016, in Cleveland, Ohio. / AFP PHOTO / JIM WATSON

ถึงตอนนี้เพื่อนอเมริกันหลายคนของผมก็ยังไม่เชื่อสายตาตัวเองอยู่ดีว่า คนอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของพวกเขา

บางคนยอมรับกับผมอย่างหน้าชื่นตาบานว่า แม้แต่ความคิดที่ว่า “ทรัมป์ จะได้เป็นตัวแทนพรรคการเมืองใหญ่ 1 ใน 2 พรรค ยังไม่เคยแว่บเข้ามาอยู่ในหัวสมองผมเลย…ให้ตาย”

แต่ข้อเท็จจริงก็ต้องเป็นข้อเท็จจริงวันยังค่ำ คำถามลวกๆ ของผมก็คือ “ไทยจะเป็นยังไงบ้าง (วะ) เนี่ย?”

คำตอบง่ายๆ กับสายตากลวงๆ ไร้ความหมายของเพื่อนพ้องก็คือ “ไม่รู้ (เว้ย)” ตามด้วย “ห่-เอ้ย หาเสียงกันมาเกือบปี ไม่เคยพูดอะไรเป็นนโยบายเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง (นี่หว่า)”

ถ้าไม่มีข้อมูลเก่าๆ ให้สืบค้น ผมคงไม่รู้ว่า จริงๆ แล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ พูดเรื่องเอเชียเอาไว้ในระหว่างการหาเสียงหลายหนหลายตอนอยู่เหมือนกัน

แต่จะเรียกว่า “นโยบาย” ได้หรือเปล่า?

แล้วทรัมป์จะทำตามนั้นจริงหรือเปล่า?

ยังเป็นคำถามที่ไม่คำตอบครับ

 

อย่างเช่น เมื่อครั้งไปปราศรัยที่เซาธ์แคโลไรนา เมื่อ 30 ธันวาคม ปีที่แล้ว ทรัมป์พูดเรื่องความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นเอาไว้ชวน “สยอง” มากว่า

“ถ้าใครสักคนไปถล่มญี่ปุ่น เราคงเผ่นไปทันทีแล้วเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 3 กันเลยใช่ไหม? ทีนี้ถ้าเรา (อเมริกา) ถูกโจมตี ญี่ปุ่นไม่มาช่วยเรา ฟังดูแล้วก็ไม่เป็นธรรมเท่าไหร่ จริงไม่จริง?”

หรืออย่างเช่น การให้สัมภาษณ์ ซีเอ็นเอ็น เมื่อ 6 มกราคม ที่ผ่านมาว่า

“เรากำลังคุ้มครองพวกเขา ผมเองก็มีเพื่อนหลายคนจากเกาหลีใต้ มาซื้ออพาร์ตเมนต์ของผม เราทำธุรกิจกัน แต่เกาหลีใต้ควรจ่ายเงินเรา และต้องจ่ายพอสมควรกับการคุ้มครองที่ได้รับจากเราด้วยสิ”

ถ้าคิดว่านั่นเป็นวาทกรรมที่มี “ปัญหา” แล้ว ลองฟังทรัมป์พูดเรื่องจีนดูก่อน ประโยคแรกนี้เขาพูดระหว่างการดีเบตในพรรครีพับลิกันด้วยกันเองในเดือนพฤศจิกายนปี 2015

“จีนเป็นปัญหานะ เป็นปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจและในทางที่พวกนั้นกำลังทำอยู่ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ผมหมายความว่า พวกนั้นกำลังกลายเป็นกองทัพขนาดใหญ่ ใหญ่มากมาก”

 

ถัดมาในการดีเบตภายในพรรครีพับลิกันอีกเหมือนกัน ที่รัฐแคโลไรนาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี่เอง ทรัมป์พูดถึงจีนว่า

“สำหรับเรื่องกำแพงภาษีน่ะ ผมเปิดกว้างเลย ถ้าหากพวกเขาไม่ได้ปฏิบัติกับเราอย่างเป็นธรรม เฮ้ การค้าทุกอย่างก็ต้องมีกำแพงภาษีสิ คุณรับมือกับจีนไม่ได้หรอกถ้าไม่มีกำแพงภาษี พวกนั้นทำกับเราอย่างนี้ แต่เราไม่ทำ นี่ไม่ใช่การค้าที่เป็นธรรมนะ”

ถ้าเราตีความตามตัวอักษรในคำพูดของทรัมป์ทั้งสองประโยค ไม่ช้าไม่นาน หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า เราก็คงได้เห็นสงครามสักสงครามหนึ่งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ถ้าไม่ใช่สงครามการค้า ก็เป็นยุทธนาวีระหว่างสองประเทศในทะเลจีนใต้ ไม่ช้าก็เร็วละครับ

ในเรื่องการค้า ทรัมป์ยังแสดงให้เห็นถึงแนวความคิดแบบ “โปรเทกชั่นนิสต์” ที่มีแนวโน้มจะใช้วิธีการปกป้องทางการค้าทุกรูปแบบ ไม่น่าแปลกใจที่เขามอง “ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์แห่งแปซิฟิก” หรือ “ทีพีพี” ที่หลายต่อหลายประเทศคาดหวังกันว่าจะสร้างเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นมาในที่สุดว่า เป็นสิ่งเลวร้าย เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนปี 2015 ที่ทรัมป์ทวีตแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้

“ทีพีพีเป็นการโจมตีต่อธุรกิจอเมริกัน มันไม่ได้ยุติการบิดเบือนค่าเงินของญี่ปุ่น เป็นข้อตกลงที่เลว”

 

ต่อมาในการดีเบตภายในพรรคเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2015 ทรัมป์ไปไกลกว่านั้นอีกระดับ

“ทีพีพีเป็นความตกลงที่เลวร้าย นี่เป็นความตกลงที่ไม่มีทางที่จะนำพาเราไปสู่อะไรอื่นนอกเหนือจากความยุ่งยาก เป็นความตกลงที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้จีนได้เข้ามาร่วม และเหมือนอย่างทุกครั้งที่พวกนั้นเข้ามาร่วมก็คือผ่านทางช่องทางประตูหลัง แล้วก็ฉกฉวยความได้เปรียบไปจากทุกๆ คน”

เป็นจีนอีกแล้ว เป็นจีนที่ทรัมป์หยิบขึ้นมาถล่มบ่อยครั้งมากในการปราศรัยหาเสียง ด้วยเนื้อความซ้ำๆ ว่าด้วยการบิดเบือน กดค่าเงินหยวนให้ต่ำกว่าความเป็นจริง ในการปราศรัยที่สโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก เมื่อกันยายนที่ผ่านมา เขาบอกว่า

“จีนเป็นนักบิดเบือน ระดับปรมาจารย์ ผมจะสั่งให้รัฐมนตรีคลังของผมให้พะยี่ห้อจีนว่าเป็นนักบิดเบือนค่าเงิน และต้องตั้งกำแพงภาษีกับค่าเงินที่บิดเบือนนั่น”

ก่อนหน้านั้น เมื่อต้นปี เขาพูดในทำนองเดียวกันกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่น

“เพื่อนผมกำลังสั่งรถตักโคมัตสึ (จากญี่ปุ่น) อยู่ในตอนนี้เพราะเงินเยนอ่อนค่าลงเสียจนซื้อรถแคเทอร์พิลลาร์ (ของอเมริกัน) ไม่ได้ แล้วเราก็ปล่อยให้พวกนั้นทำกันอย่างนี้ ปล่อยให้ทำกันสบายๆ”

 

ผมว่าหลายๆ ประโยคเหล่านี้คงไม่ทำให้เรารู้จักคนอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ มากขึ้นสักกี่มากน้อย แล้วก็คงได้แต่ภาวนากันว่าทั้งหมดนี้คงเป็นเพียงวาทกรรมประดิษฐ์สำหรับให้รับฟังกันปนเสียงเฮในฤดูกาลเลือกตั้งเสียมากกว่าอย่างอื่น

ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยถามนักการทูตระดับบิ๊กรายหนึ่งว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี? คำตอบของท่านเล่นเอาผมยิ้มได้มาจนถึงทุกวันนี้

“ทรัมป์เหรอ? ก็ พระอาทิตย์จะยังขึ้นทางตะวันออก ตกทางทิศตะวันตกไง”

ป่านนี้ไม่รู้ว่าท่านทำใจยอมรับพระอาทิตย์ของท่านได้หรือยัง!