“บิ๊กหมู” สู่ Old Soldier พบกันเมื่อชาติต้องการ “บิ๊กเจี๊ยบ” สู่ ทบ.1 แท็กทีมสุภาพบุรุษมัฆวาน รับไม้ต่อ

กองทัพบก เตรียมพร้อมที่จะต้อนรับ ผบ.ทบ. คนที่ 40 ตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว

ท่ามกลางความตื่นเต้นและตื่นตัว เพราะเป็นการมี ผบ.ทบ. จากเหล่ารบพิเศษ อีกครั้งในรอบ 10 ปี

แถมเป็น ผบ.ทบ. ที่มีบุคลิก นุ่ม นิ่ง สุขุม แบบรบพิเศษ ที่ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. กลางสถานการณ์ที่ยังถูกเรียกว่า ไม่ปกติ และกำลังจะก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน ทั้งทางการเมือง สู่การเลือกตั้ง และก้าวสู่ “การเปลี่ยนผ่านประเทศ” ในไม่ช้า

อันเป็นเหตุผลสำคัญที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า “เหมาะสมกับสถานการณ์”

จึงไม่แปลกที่แม้จะยังไม่ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. และแม้แต่ตอนที่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ บัญชีรายชื่อโยกย้ายทหารลงมา แต่ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผช.ผบ.ทบ. ที่เชื่อกันว่า จะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ ก็ดูจะเครียด พร้อมรับภาระอันหนักอึ้ง

มีรายงานว่า พล.อ.เฉลิมชัย ได้พูดคุยเรื่องแนวทางในการทำงานกับแม่ทัพภาค ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 16 แล้ว ทั้ง บิ๊กเปี๊ยก พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 ที่คาดว่าจะขึ้นมาเป็นห้าเสือ ทบ.

และ บิ๊กเอียด พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่กำลังจะเกษียณราชการกันยายนนี้

พล.อ.เฉลิมชัย ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. ในจังหวะที่เตรียมทหารรุ่น 16 ก็ขึ้นมาพร้อมกัน ทั้ง บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ที่คาดว่าจะเป็นปลัดกลาโหม

และ บิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง เสนาธิการทหารอากาศ ที่คาดว่าจะขึ้นเป็น ผบ.ทอ. และมีอายุราชการถึงกันยายน 2561 เท่า พล.อ.เฉลิมชัย

แถมทั้งมี บิ๊กแอ๊ว พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เป็นเลขาธิการ สมช. อีกด้วย

โดยยังมี บิ๊กจุก พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ รอง ผบ.สส. ที่จะเกษียณ มานั่งทำงานหน้าห้องให้ พล.อ.ประวิตร ตามเดิม

ขณะที่คาดกันว่า บิ๊กโชย พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผช.ผบ.ทบ. สายวงศ์เทวัญ น้องรักนายกฯ ที่กำลังจะเกษียณ น่าจะได้เป็นรัฐมนตรีในอนาคต

 

งานเลี้ยงรุ่น ตท.16 หรือ จปร.27 เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่กองทัพภาคที่ 1 ที่มีทั้ง พล.อ.เฉลิมชัย พล.อ.ชัยชาญ พล.อ.ทวีป พล.อ.กัมปนาท ไปร่วมงาน จึงถือเป็นการแสดงออกถึงความแนบแน่นของ จปร.27 และยึดมั่นในความเป็น “สุภาพบุรุษมัฆวาน”

มีรายงานว่า ผองเพื่อนก็ได้ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ พร้อมให้ระมัดระวังตัวในการทำงานทุกฝีก้าว ในวันที่ขึ้นเป็น “ทบ.1”

รวมถึงการลดการเตะฟุตบอลในแต่ละสัปดาห์ ที่เคยเตะทุกเย็นวันอังคารและศุกร์ เพราะมีคนสะกิดให้รักษาเนื้อรักษาตัว เพราะหากเตะฟุตบอลบ่อยเกินไป อาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุ

รวมทั้งทุกครั้งที่ลงมาเตะฟุตบอลที่สนามหญ้าหน้า บก.ทบ. ก็มักโดนนักข่าวมารุมล้อม ก็อาจเสี่ยงต่อการตกเป็นข่าวในสิ่งที่ไม่อยากให้นำเสนอ

รวมถึง บิ๊กเจี๊ยบ เองก็ไม่อยากให้ตนเองถูกห้อมล้อม หรือโดดเด่น เพราะไม่อยากจะเกินหน้าใคร

เพราะตามประสาทหารรบพิเศษ ชอบทำงาน และอยู่แบบเงียบๆ ลับๆ หรือทำงานปิดทองหลังพระ

เป็นที่รู้กันดีว่า บิ๊กเจี๊ยบ นั้นจะไม่ใช้รถฉลามบก หรือรถนำ ในตอนเย็นเมื่อต้องกลับบ้าน ไม่ว่าบ้านส่วนตัวจะไกลถึงรามอินทรา หรือบางครั้งอาจพักที่แฟลต ทบ. เพราะยังไม่มีบ้านหลวงเป็นหลังให้

แต่จะใช้รถนำเฉพาะเมื่อต้องไปภารกิจในฐานะ ผช.ผบ.ทบ. หรือที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ทบ. เท่านั้น

ยิ่งการที่ พล.อ.เฉลิมชัย ถูกจัดให้เป็นสายรบพิเศษลูกป๋าด้วยแล้ว จึงยิ่งทำให้ถูกจับตามอง แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะออกตัวไปแล้วว่า การเลือก ผบ.ทบ. ครั้งนี้ ไม่มีใครมากดดัน หรือสั่ง

และไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับ ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หรือ บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีลูกป๋า

แต่เป็นการตัดสินใจของผมและ พล.อ.ประวิตร

บิ๊กเจี๊ยบ จึงถูกมองว่า การเป็น ผบ.ทบ. คราวนี้ จะได้นั่ง 2 ปีจนเกษียณ หรือว่าโยกย้ายกันยายน ปี 2560 จะถูกขยับไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด

รวมทั้งบทบาทและบารมีที่เพิ่มมากขึ้นของ พล.อ.เปรม และ พล.อ.สุรยุทธ์ แต่จะหลบฉากไปอยู่เบื้องหลัง ในฐานะพี่ชายและที่ปรึกษาสายรบพิเศษ ของบิ๊กเจี๊ยบ

 

ในขณะที่ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจในการตัดสินใจเลือกบิ๊กเจี๊ยบ เป็น ผบ.ทบ. และเลือก บิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ไปแล้ว

สายบูรพาพยัคฆ์ ตั้งข้อสังเกตว่า บิ๊กป้อม พี่ใหญ่ มีอาการน้อยใจอยู่ไม่น้อย จากการจัดโผทหารครั้งนี้ แต่เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และหัวหน้า คสช. ถือว่ามีอำนาจในการตัดสินใจท้ายสุด

จนอาจมีส่วนทำให้ พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามนักข่าวด้วยความน้อยใจว่า ในเรื่องความพร้อม ในการดูแลความมั่นคง ทั้งเรื่องภาคใต้ ที่เกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่อง จนถึงสถานการณ์ทางการเมือง

“ถ้าคิดว่าผมไม่พร้อม ก็เอาผมออกไปเลย” บิ๊กป้อม กล่าว

หรือแม้แต่การออกตัวว่า “รมช.กลาโหม ทำงานดีกว่าตัว รมต. อีก”

ท่ามกลางกระแสข่าวลือการปรับ ครม. ที่อาจให้ พล.อ.ประวิตร พักผ่อน เป็นแค่รองนายกฯ เก้าอี้เดียว แล้วจะหา รมว.กลาโหม คนใหม่

แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นแค่ข่าวลือ เพราะความเป็นพี่น้องรักใคร่แนบแน่นยาวนาน แบบที่เรียกว่า มีบิ๊กตู่ ก็ต้องมีบิ๊กป้อม

แม้ว่าวันนี้ ผลสำรวจคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะพุ่งสูงขึ้น หลังร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติก็ตาม แต่รัฐบาลนี้จะขาดบิ๊กป้อมไม่ได้

เพราะหาก พล.อ.ประยุทธ์ แตะต้องบิ๊กป้อม ไม่ว่าจะเพราะอยากให้พักผ่อน หรือด้วยเหตุผลอื่น ก็จะทำให้เกิดรอยร้าวในรัฐบาลและ คสช. ทันที

หรือแม้แต่ พล.อ.ประวิตร จะเป็นฝ่ายอยากพักผ่อน หรืออยากลาออก หรืออยากเหลือแค่เก้าอี้เดียวก็ตาม ก็จะส่งผลเสียต่อรัฐบาล คสช. อย่างแรง

จึงไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะรู้ใจพี่ชายที่แสนดีคนดีนี้ เพราะในเวลาที่ออกงานด้วยกัน พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะแสดงออกถึงการใส่ใจพี่ชาย ด้วยการเดินจูงจับมือ ประคองบิ๊กป้อมตลอด

เพื่อหวังให้ทหารในกองทัพได้เห็นความรักใคร่เป็นหนึ่ง ไม่ได้มีปัญหาใดๆ หลังการจัดโผทหาร

แต่ที่เหนือชั้นกว่าคือ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ จะแสดงออกต่อหน้าขุนทหารด้วยการเดินไปส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นรถ และยกมือสวัสดี ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะรีบยกมือไหว้ตอบ

ด้วยเพราะรู้กันดีว่า บิ๊กป้อม มักจะแสดงออกถึงการเคารพบิ๊กตู่ น้องชาย ในฐานะนายกรัฐมนตรีเสมอ

แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผลประชามติ และผลโพลสำนักต่างๆ มีส่วนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในการที่จะตัดสินใจในเรื่องต่างๆ

รวมถึงการเข้ามาดูแลสายงานด้านความมั่นคงเองมากขึ้นด้วย แม้จะเป็นสายงานที่ พล.อ.ประวิตร ดูแลอยู่

ที่น่าสังเกตคือ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาแนะนำสั่งการตำรวจมากขึ้น ทั้งเรื่องการนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว ที่ให้ บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พิจารณาความเหมาะสม

แถมทั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ มักจะพูดถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ แบบทีเล่นทีจริงหลายครั้งว่า จะอยู่ครบวาระจนเกษียณ 2563 หรือไม่

โดยเฉพาะการแซวบิ๊กแป๊ะ ต่อหน้าบิ๊กป้อม และ พล.อ.เปรม ในงานอวยพรวันเกิดที่ผ่านมา

เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นน้องรักของบิ๊กป้อม ที่ดันขึ้น ผบ.ตร. แม้จะอายุน้อย

ว่ากันว่า หาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถูกโยกย้าย ก็ย่อมกระทบต่อความสัมพันธ์บิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม อย่างแรง

เพราะตอนนี้ก็มี บิ๊กปู พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เป็น รอง ผบ.ตร. จ่อคิวอยู่อีกด้วย

ก่อนที่จะมี ผบ.ทบ.คนใหม่ นั้น มีการจับตามองกันมากว่า บิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ที่กำลังจะเกษียณจาก ผบ.ทบ. จะมีเก้าอี้ใดรองรับหรือไม่ นอกเหนือจากการเป็น สนช.

เพราะ พล.อ.ธีรชัย นี่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยหนุน พล.อ.เฉลิมชัย ด้วยการเสนอชื่อให้เป็น ผบ.ทบ. และมีการพบหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด

พล.อ.ธีรชัย ก็ถือเป็นกำลังสำคัญของ คสช. ที่เคยถูกจับตามองว่า จะเป็นรัฐมนตรีใน ครม. ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อจะมีการปรับ ครม. ในช่วง 2 ปีรัฐบาล ที่คาดว่าจะมีขึ้นหลังเดือนกันยายนนี้

รวมทั้งการเป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ พันธุ์แท้ ที่อยู่กับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร มาตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ จนได้ชื่อว่าเป็นน้องรักของบิ๊กป้อม

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกตัวแล้วว่า ไม่มีตำแหน่งที่จะรองรับ พล.อ.ธีรชัย

อีกทั้งไม่อยากให้มองว่า การตั้งบิ๊กทหารที่จะเกษียณ มาเป็นรัฐมนตรี เพื่อเป็นการตอบแทน

แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เพราะถึงขั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า ได้ถาม พล.อ.ธีรชัย แล้วว่า “อยากเป็นอะไรมั้ย” ย่อมหมายถึงการให้ความสำคัญต่อ พล.อ.ธีรชัย อย่างมาก

เพราะอย่าลืมว่า ตอนที่ก่อการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นั้น พล.อ.ธีรชัย เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลังปฏิวัติ เปรียบเสมือนเป็นมือขวาของ ผบ.ทบ. ในเวลานั้นก็คือ บิ๊กตู่

จึงไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไฟเขียวให้ พล.อ.ธีรชัย ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แบบฉลุย แม้ว่าจะมี บิ๊กติ๊ก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายแท้ๆ เป็นคู่แคนดิเดต

อาจเรียกได้ว่าเป็นการตอบแทนบิ๊กหมูเลยก็ว่าได้

แถมเมื่อบิ๊กหมูเป็น ผบ.ทบ.แล้ว บิ๊กตู่ ก็ไฟเขียวให้นั่งควบถึง 3 เก้าอี้ คือเป็น เลขาธิการ คสช. และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ที่คุมกำลังทั้ง 3 เหล่าทัพ และตำรวจ ด้วยตนเอง

แต่ที่น่าสังเกตคือ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ผบ.ทบ. ไม่ได้อยากเป็นอะไร”

แต่ พล.อ.ธีรชัย กลับบอกว่า “ต้องถามนายกฯ”

เพราะอนาคตทางการเมืองของตนเองนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ตนเองจะตอบได้ ต้องถามคนอื่น ถามนายกฯ

ที่น่าสังเกตคือ พล.อ.ธีรชัย ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่เล่นการเมือง หรือไม่รับตำแหน่งทางการเมือง หลังเกษียณ

“การเมืองก็คือการเมือง เป็นเรื่องของอนาคต” บิ๊กหมู เปรย

พร้อมปฏิเสธที่จะผูกมัดตัวเองว่า จะไม่เล่นการเมือง ด้วยคำว่า “ไม่รู้ ไม่ทราบ”

เพราะอย่าลืมว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีเวลาอีกกว่า 1 ปี ตามโรดแม็ป กว่าที่จะมีการเลือกตั้งในปลายปี 2560

รวมทั้งในอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจจะต้องมาเป็นนายกฯ คนนอกต่ออีก

ในอนาคตอันใกล้นี้ หรืออันไม่ยาวไกลนัก ก็อาจมีชื่อ พล.อ.ธีรชัย ร่วม ครม.บิ๊กตู่ หรืออาจมาทำงานเคียงข้างบิ๊กตู่ก็ได้

จากที่เคยคาดหมายกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจตั้ง พล.อ.ธีรชัย เป็น รมช.มหาดไทย มาช่วยเคลียร์พื้นที่รองรับการเลือกตั้ง

หรือเป็น รมช.กลาโหม. แทน บิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร แต่ พล.อ.อุดมเดช ก็ไม่ได้บกพร่องหรือมีความผิดเรื่องใด

เพราะขนาด พล.อ.ประวิตร ยังเอ่ยปากชมว่า “รมช.กลาโหม ทำงานดีกว่า รมต. เสียอีก”

อีกทั้งถ้าเด้ง พล.อ.อุดมเดช ออกจาก ครม. แล้วเอา พล.อ.ธีรชัย มาเสียบแทน ก็จะยิ่งเกิดความขัดแย้งแตกแยกรุนแรงขึ้นไปอีก

เพราะก่อนหน้านี้ ตอนที่ พล.อ.ธีรชัย ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. นั้น ก็สร้างตำนานชำระแค้น พล.อ.อุดมเดช จนเป็นที่ลือลั่นมาแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อน ตท.14 ด้วยกัน

ดังนั้น จึงเป็นบิ๊กทหารสายบูรพาพยัคฆ์ ที่น่าจับตามองอีกคนหลังเกษียณ ว่าจะจบในตำแหน่งใด

“คนไม่ค่อยชอบทหาร พอไปบอกว่า จะตั้งทหารมาเป็น รมต. เพื่อตอบแทน ก็ยิ่งทำให้แตกแยก” นายกฯ ระบุ

แต่อย่างน้อย ก่อนที่ พล.อ.ธีรชัย จะเกษียณ ก็ส่งน้องๆ ขึ้นฝั่งกันหมด ทั้ง ผู้การอู๋ พ.อ.วุฒิชัย นาควานิช น้องชาย ก็ให้ขึ้นเป็น พลตรี ในตำแหน่ง ผบ.พล.ร.9

และ บิ๊กอาร์ท พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช น้องชายอีกคนที่ทำงานการข่าวและภาคใต้ จากที่เคยมีชื่อเป็นแม่ทัพน้อยที่ 4 ที่บิ๊กหมูวางแผนให้มาคุมหน่วยเฉพาะกิจยะลา หลังการปรับกำลังทหาร จากกองทัพภาคที่ 1 ภาค 2 และภาค 3 กลับที่ตั้งหมด และให้กองทัพภาคที่ 4 ดูแลแทนนั้น ก็มีข่าวสะพัดในพื้นที่ว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ จะมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เลยทีเดียว

โดยก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า บิ๊กป้อม ทาบทาม พล.อ.ธีรชัย ให้ลงไปช่วยทำงานในทีม “รัฐบาลส่วนหน้า” แต่ดูเหมือนบิ๊กหมูจะมีเป้าหมายในอนาคตไว้แล้ว เขาจึงปฏิเสธ

จนร่ำลือกันว่า หากน้องชายได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 นั้น นอกจากความสามารถแล้ว ยังเป็นการตอบแทนที่ พล.อ.ธีรชัย ไม่เรียกร้องหรืออยากจะเป็นอะไร หรือได้ตำแหน่งอะไรอีกด้วย

“ขอให้ทำงานให้เต็มที่ ผมเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาดูแลเราเองว่าเราควรจะได้ตำแหน่งอะไร เพราะผมเองก็ไม่เคยหวังว่าจะได้เป็น ผบ.ทบ. แต่ผมก็ได้เป็น เพราะผมทำงาน” บิ๊กหมู กล่าวในการอำลา ผบ.หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ถึงระดับผู้บังคับกองพัน ที่ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนเกษียณ

พร้อมฝากให้ ผบ.หน่วยทุกคน ในฐานะที่เป็นครอบครัวเดียวกัน และทีมกองทัพบก ดูแลกองทัพ ประเทศชาติ และประชาชน เพื่อให้เกิดความสงบสุขให้จงได้

เพราะบิ๊กหมูเอง แม้จะมั่นใจใน ผบ.ทบ.คนใหม่ ว่าเป็นคนมีความสามารถ เป็นคนเก่ง และกองทัพบกยึดระบบก็ตาม

แต่ตามประสานายทหารนักรบ ที่รับราชการทหารมาถึง 38 ปี แม้จะเกษียณ แต่ก็ยังห่วงใยกองทัพและชาติบ้านเมืองเสมอ ยิ่งในห้วงเปลี่ยนผ่านสำคัญเช่นนี้

ในทำนองที่ว่า “พบกันเมื่อชาติต้องการ”

เพราะว่ากันว่า ภารกิจของ “ทีมบิ๊กตู่” ยังอีกยาวไกล และไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเช่นไร และเมื่อใด

fullsizerender

img_0450 img_0448 img_0281 img_0246