คำอธิบาย “ฐานคิด” 6 คำถาม จาก “สรรเสริญ แก้วกำเนิด”

ไม่ว่า 4 คำถามในเดือนพฤษภาคม ไม่ว่า 6 คำถามในเดือนพฤศจิกายน
อย่าไปถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อย่าไปถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
และอย่าไปถามแม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจ้าของคำถาม
เพราะถามอย่างไรก็จะไม่ “เข้าใจ”
เรื่องนี้ต้อง “ฟัง” จาก พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เพียงผู้เดียวก็จะ “บรรลุ”
กระจ่าง สว่างแจ้งในบัดดล

คำไขของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เริ่มจากความอึดอัดใจของ นายกฯ “ที่มีมาตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง”
รู้สึกว่า “สิ่งที่ทำไปมั่นใจว่าเป็นสิ่งดี”
ไม่ว่าจะเป็น “ยุทธศาสตร์ชาติ” ไม่ว่าจะเป็น “การปฏิรูป” ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาต่างๆตลอด 3 ปี
“สังคมกลับมีความเห็นทั้งชอบและไม่ชอบ”
จึงพยายาม “สื่อสาร” กับ “ประชาชน” โดยตรงว่าสิ่งที่รัฐบาลทำมาคิดว่าดีหรือไม่
“หากเห็นว่าดีแล้วจะเสียดายสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำมาหรือไม่ ถ้าเสียดายขอให้ช่วยคิดว่าในวันข้างหน้าที่การเมืองเป็นปกติเข้ามาแล้วเดินหน้านโยบายต่างจากนี้ ประชาชนคิดว่า นายกฯควรใช้วิธีใดเพื่อรักษาสิ่งที่ทำมาให้คงอยู่”
ชัดเจน แจ่มแจ้ง ไม่จำเป็นต้อง “แปล”

หากสรุปตามสำนวนของ “นักการเมือง” ไม่ว่าจะจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์
นี่คือ “การหาเสียง”
คล้ายกับเป็นการรักษา “ยุทธศาสตร์ชาติ” แต่แท้จริงก็คือ รักษา “มรดก คสช.” นี่จึงไม่เพียงเป็นเหตุผลของการยังไม่ “ปลดล็อก”
ที่สำคัญก็คือ ไม่แน่ใจว่าหากผ่านกระบวนการ “เลือกตั้ง” แล้ว
สิ่งที่เป็น “มรดก” อันก่อร่างสร้างมาเป็นเวลา 3 ปีเศษจะยังคงอยู่หรือไม่
คำอธิบายจาก พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด คือคำตอบทุกสิ่ง