ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 พฤศจิกายน 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | คนของโลก |
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เดวิน แพทริก เคลลีย์ ชายอเมริกันผิวขาววัย 26 ปี สวมชุดทหารสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า ถืออาวุธปืนเข้าก่อเหตุกราดยิงในโบสถ์เฟิร์สแบพติสต์ ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย ก่อนที่จะลั่นไกปลิดชีวิตตัวเอง
กลายเป็นเหตุกราดยิงครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเท็กซัสไปในทันที
ภาพชายใบหน้ากลมไม่มีรอยยิ้ม ผมดำสั้น ถูกเผยแพร่โดยสื่อท้องถิ่นของสหรัฐอย่างกว้างขวาง พร้อมกับคำถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ท่ามกลางเงามืดของการก่อการร้ายที่สร้างความหวาดกลัวให้สังคมอเมริกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เคลลีย์ อาศัยในนิวบรอนเฟลส์ เมืองเล็กๆ ห่างจากเมืองซันเดอร์แลนด์สปริงส์ รัฐเท็กซัส จุดเกิดเหตุราว 55 กิโลเมตร
สิ่งเดียวที่เคลลีย์มีความเชื่อมโยงกับโบสถ์ดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นการที่ “แม่ยาย” ผู้เคยได้รับข้อความข่มขู่จากเคลลีย์ เป็นสมาชิกคริสต์ศาสนิกชนของโบสถ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจระบุว่า แม่ยายของเคลลีย์ไม่ได้อยู่ที่โบสถ์ขณะเกิดเหตุ
ข้อมูลจากกองทัพอากาศสหรัฐระบุว่า เคลลีย์เคยเป็นอดีตทหารอากาศและเคยถูกตัดสินโดยศาลทหารให้ต้องจำคุกเป็นเวลา 12 เดือนเมื่อปี 2012 หรือ 2 ปีหลังจากเข้ารับราชการทหาร ในข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยาและลูกของตัวเอง ก่อนที่เคลลีย์จะถูกให้ปลดประจำการ ผลจากปัญหาพฤติกรรมในปี 2014
เช่นเดียวกันกับมือปืนกราดยิงคนก่อนหน้า เคลลีย์โพสต์ข้อความแสดงความรุนแรงผ่านโซเชียลมีเดีย วิพากษ์วิจารณ์ศาสนา คริสตจักร รวมไปถึงบรรดาผู้ศรัทธาในศาสนาทั้งหลาย
เฟซบุ๊กของเคลลีย์ ก่อนที่จะถูกลบออกไปมีข้อความของ “มาร์ก ทเวน” นักเขียนชาวอเมริกันชื่อดังที่ระบุว่า “ผมไม่กลัวความตาย ผมตายมานานแล้วหลายพันล้านปีก่อนหน้าที่ผมจะเกิด และผมไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อยกับสิ่งนั้น”
อย่างไรก็ตาม ในบัญชีลิงก์อิน เคลลีย์ อธิบายความสนใจของตนเองว่าเป็นเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ ศิลปะ วัฒนธรรม เด็ก และสิทธิพลเมือง
ขณะที่อดีตเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนระบุว่าพวกเขามักจะรักษาระยะห่างจากเคลลีย์ ผู้ที่มักจะมีพฤติกรรมเป็นปฏิปักษ์และก้าวร้าวอยู่เสมอ
เมื่อครั้งยังประจำการอยู่ในกองทัพอากาศ เคลลีย์เคยประจำการในหน่วยงานด้านการขนส่ง ในฐานทัพอากาศฮอลโลแมน ในรัฐนิวเม็กซิโก ที่มีชายแดนติดกับรัฐเท็กซัส
หลังเคลลีย์ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานทำร้ายภรรยาและลูก “เทสซา” ภรรยาได้ตัดสินใจฟ้องหย่า ขณะที่เคลลีย์ถูกลดขั้น และในที่สุดก็ถูกให้ออกจากการเป็นทหาร หลังการอุทธรณ์โทษไม่เป็นผล
โดยหลังจากออกจากกองทัพอากาศแล้ว เคลลีย์ได้ย้ายไปอยู่รัฐโคโลราโด ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะต้องปรากฏตัวในศาลอีกครั้งในคดีทำร้ายสัตว์ อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวได้ถูกยกฟ้องไป
รายงานระบุว่า เคลลีย์ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประวัติของตัวเองในการยื่นเอกสารเพื่อขอซื้อปืนไรเฟิลที่ร้านจำหน่ายสินค้าปืนและกีฬา ในเมืองซานอันโตนิโอ เมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่านายเคลลีย์นั้นมีปืนในครอบครองจำนวนหนึ่งซึ่งซื้อจากทั้งในโคโลราโด และในเท็กซัส
ที่พักอีกแห่งที่เคลลีย์เคยพักกับภรรยานั้น รายงานระบุว่าอยู่ในพื้นที่ชนบทในเมืองนิวบรอนเฟลส์ เป็นบ้านที่ดัดแปลงมาจากยุ้งฉาง รายล้อมด้วยป่าทึบ
อดีตเพื่อนบ้านของเคลลีย์ ระบุกับสื่อท้องถิ่นว่า เคลลีย์เป็นเพียง “คนธรรมดา” ในพื้นที่ ซึ่งการครอบครองปืนเป็นเรื่องปกติ และว่า ไม่มีอะไร “ผิดปกติ” ที่จะบ่งชี้ว่าเขาจะมีแนวโน้มไปสู่การเป็นฆาตกรกราดยิงได้
“ผมหมายความว่า สิ่งผิดปกติสิ่งเดียวแถวๆ นั้นก็คือเราได้ยินเสียงปืนหลายนัด หลายครั้งในช่วงเวลากลางคืน เราได้ยินเสียงปืนเยอะมาก” มาร์ก มาราวิตซ์ เพื่อนบ้านระบุ
นั่นคือข้อมูลเบื้องหลังก่อนหน้าที่ เดวิน แพทริก เคลลีย์ จะเดินเข้าไปในโบสถ์เฟิร์สแบพติสต์ ราว 11.20 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 5 พฤศจิกายน และสาดกระสุนเข้าใส่ผู้คนจนเสียชีวิต 26 ราย
ผู้อาศัยใกล้โบสถ์ได้ยินเสียงปืน ได้หยิบปืนของตัวเองออกมาพร้อมไล่ตามเคลลีย์ ซึ่งขับรถฟอร์ด เอ็กพลอเรอร์ หลบหนีไป
ก่อนที่ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จะพบศพเคลลีย์พร้อมด้วยแผลกระสุนปืน อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไปราว 12 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย