คนของโลก : ชินโสะ อาเบะ นายกฯ ญี่ปุ่นผู้เลือกก้าวออกจากตำแหน่ง

ไม่นานนักหลังจากชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ทำสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยระยะเวลาดำรงตำแหน่งยาวนานมากกว่า 7 ปี

นายอาเบะด้วยวัย 65 ปีต้องออกมาแถลงลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากอาการป่วยลำไส้อักเสบที่กลับมากำเริบอีกครั้ง หลังจากอาการเดียวกันนั้นทำให้นายอาเบะต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2006-2007

การประกาศลาออกของนายอาเบะ เปิดทางให้พรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยได้สรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่จะมานั่งเป็นนายกรัฐมนตรีแทนที่นายอาเบะ ไปจนถึงสิ้นสุดวาระในเดือนกันยายน ปี 2021 นี้

อาเบะเคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยวัยเพียง 52 ปี ในการดำรงตำแหน่งครั้งแรกเมื่อปี 2006 ในเวลานั้นอาเบะกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “การเปลี่ยนแปลงและคนรุ่นใหม่”

แต่อาเบะเองก็เป็นนักการเมืองรุ่นที่ 3 ในครอบครัวนักการเมืองชนชั้นสูงของสังคมญี่ปุ่นที่เกิดมาพร้อมกับแนวคิดอนุรักษนิยมเช่นกัน

 

การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยแรกเต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย ทั้งเรื่องอื้อฉาวและความขัดแย้งทางการเมือง ปิดท้ายด้วยการลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลทางสุขภาพ ทำให้อาเบะกลายเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหลายต่อหลายคนที่อยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานนัก

อาเบะกลับมานั่งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในปี 2012 หลังจากเข้ารับการรักษาตัวด้วยยาตัวใหม่ที่ทำให้อาการป่วยดีขึ้น

อาเบะเข้าสู่ตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวหลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มในปี 2011 รวมไปถึงวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูคุชิมา พร้อมๆ กับแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่เรียกว่า “อาเบะโนมิกส์”

อาเบะเพิ่มงบฯ การใช้จ่ายของรัฐบาล การผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน และลดขั้นตอนในระบบราชการลง นอกจากนี้ ยังพยายามกระตุ้นอัตราการเกิดของประชากรด้วยนโยบายทำให้บรรยากาศในที่ทำงานเอื้อกับการมีทายาท โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่

นอกจากนี้ ยังผลักดันให้มีการขึ้น “ภาษีการบริโภค” เพื่อนำงบประมาณไปสนับสนุนนโยบายโรงเรียนอนุบาลเรียนฟรี

รวมไปถึงอุดหนุนระบบประกันสังคมที่กำลังอยู่ในสภาวะงบประมาณตึงตัว

 

ความสำเร็จในการบริหารงานของอาเบะมีอยู่หลายด้านด้วยกัน

ไม่ว่าจะด้านความมั่นคง ในการตั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่นขึ้นในปี 2013 ซึ่งนำไปสู่การออกกฎหมายเพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถร่วมปฏิบัติการด้านความมั่นคงกับชาติพันธมิตรในต่างประเทศได้

นับเป็นหนึ่งในความพยายามในการปลดล็อกให้ญี่ปุ่นสามารถดำเนินการทางการทหารได้มากกว่าการมีกองกำลังป้องกันตนเอง ตามรัฐธรรมนูญที่สหรัฐอเมริการ่างไว้หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ ยังมีความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

สามารถนำญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงสงครามการค้ากับสหรัฐ

สามารถทำข้อตกลงทางการค้าสำคัญๆ กับสหภาพยุโรป รวมถึงกับจีนได้

 

อย่างไรก็ตาม อาเบะเองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายเรื่อง ทั้งการขึ้นภาษีการบริโภคจาก 8% เป็น 10% ในปี 2019 ปัญหาเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต รวมไปถึงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ล่าช้า รวมถึงความผิดหวังของประชาชนจากการต้องเลื่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงโตเกียว ในปี 2020 ออกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ความไม่พอใจดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมในตัวนายอาเบะตกต่ำลงมากที่สุดนับตั้งแต่เข้าสู่ตำแหน่งในปี 2012 เมื่อบวกกับปัญหาสุขภาพแล้วทำให้ไม่เป็นที่น่าประหลาดใจนักเมื่อนายอาเบะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

การเมืองญี่ปุ่นหลังการลาออกของนายอาเบะ ถูกมองว่าจะยังคงค่อนข้างมีเสถียรภาพต่อไป เมื่อตัวแทนของพรรคแอลดีพีที่ยังคงมีเสียงข้างมากในสภา จะยังคงอยู่ในอำนาจต่อไป และตัวแทนชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีที่จะมาแทนที่นายอาเบะ ก็ยังคงเดินหน้าในแนวทางของนายอาเบะต่อไป

อย่างน้อยก็จนถึงปี 2021