เชิงบันไดทำเนียบ : ‘บิ๊กป้อมป่วย’ ประคองคลื่น ‘หลุดครม.’ ท้าชนคลื่นใต้น้ำ – จับตา ‘ทัพเรือ’

พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์-คสช. จะไปไหน คุยกับใคร ก็เป็นประเด็นตลอด แม้จะ “ป่วย” ก็ตาม ว่า ‘ป่วยจริง’ หรือ ‘ป่วยการเมือง’ เพราะมาในห้วงกระแส ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลุดครม. (อีกแล้ว) เลยมีการมองว่า เป็นอาการป่วยแก้เกมส์หลุดครม.หรือเปล่า

เหมือนช่วงปลายปีที่งดให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่พูดกับสื่อ ส่งแต่ยิ้มให้ เกือบ 1 สัปดาห์ หลังกระเเสหลุดครม.มาแรง สะเทือนทัพคสช. จนนายกฯต้องออกมาคอนเฟิร์มไม่เคยคิดปรับออก

“ผมไม่เคยคิด วันนี้ท่านก็ทำงานดี ไม่มีข้อบกพร่องตรงไหน หาข้อบกพร่องมาให้เห็น แล้วจะไปว่าท่านอย่างโน้นอย่างนี้ ไปหาข้อบกพร่องมาให้ผม ถ้าหาไม่ได้อย่ามาพูด ผมไม่เคยคิดจะปรับท่านอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เพราะ ‘บิ๊กป้อม’ เชื่อเสมอว่ามีขบวนการหรือคนที่คอยเป็น ‘คลื่นใต้น้ำ’ ถึงขั้นต้องการ ‘ตัดขา’ ให้ขบวนคสช.-รัฐบาลต้องพัง เป้าจึงมาตกที่ ‘บิ๊กป้อม’ ตลอด เพราะเป็นที่พูดกันว่าจะขาดใครไปไม่ได้ มี ‘บิ๊กตู่’ ต้องมี ‘บิ๊กป้อม’ ด้วย

“เป็นการตัดขาตน และจะทำให้รัฐบาลอ่อนแอ อยากให้ตนออก เล่นกันแบบนี้ได้อย่างไร ความจริงแล้ว ไม่มีอะไรเลย ตนยังทำงานได้แม้อายุมากแล้วก็ตาม เพราะผมแข็งใช่ไหม ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าผมอ่อน สื่อจะมาสนใจผมไหม” พล.อ.ประวิตร กล่าว

มรสุมลูกนั้นก็ผ่านไป หลัง ‘บิ๊กป้อม’ เกาะเก้าอี้ครม.แน่น คืนฟอร์มนำทีมทำงาน “ปรองดอง” จนหลายฝ่ายกลับมาจับตาอีกครั้ง และมาถึงปมจัดซื้อเรือดำน้ำจีน ที่ผ่านครม.แบบเงียบๆ ไม่มีแถลงผลประชุม โดยอ้างเป็นเอกสารลับ “มุมแดง”

มาพร้อมข่าวหลุดครม. ที่ ‘บิ๊กป้อม’ (อีกครั้ง) ที่คำตอบไม่ต่างจากปลายปีที่ผ่านมา ไม่หวั่นหลุดเก้าอี้ตัวนี้ พร้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะรู้สึกปลง น้อยใจ หรืออะไรก็ตาม แต่เป็นอารมณ์ในคำพูดที่สัมผัสได้หากฟังดีๆ

“ผมไม่น้อยใจ อายุปาผมเข้าไป 72 ปีแล้ว ผมพร้อมออก อายุขนาดนี้แล้วไม่มีใครทำงานขนาดนี้หรอก ถึงมีก็น้อยมาก ผมก็เสียสละทุกอย่าง” พล.อ.ประวิตร กล่าว

แต่ความ ‘น้อยใจลึกๆ’ ก็แฝงด้วยการท้าทายคนลือ คนคิดขัดขา หรือ คลื่นใต้น้ำที่คิดร้ายกับ ‘บิ๊กป้อม’ ด้วย “บารมี” ที่มี และ “น้องๆ” ที่ ‘บิ๊กป้อม’ ดูแลจำนวนมาก

“โอ้โห ผมก็พร้อมนะ อยากจะให้ออก คุณจะได้หัวเราะกันอย่างสบาย” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ผ่านมาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ข่าว ‘บิ๊กป้อมป่วย’ ก็มาอีกครั้ง แต่เป็นการป่วยที่ทำให้ตกใจไม่น้อย เพราะต้องออกจากที่ประชุม ครม. กลางคัน โดยให้เหตุผลเพียง “ไปธุระ”

แต่นายทหารใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร กล่าวกันว่า ไปพบหมอที่โรงพยายาบาลเพราะมีอาการเจ็บหู และวันรุ่งขึ้นก็ได้ยกเลิกการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมแม่น้ำเจ้าพระยา และไม่มีภารกิจพบสื่อไป 2 วัน

“ช่วงนี้อากาศ ร้อนๆ หนาวๆ มาช่วงร่างกายท่านอ่อนแดพอดี ท่านไม่ได้นอนโรงพยาบาล แต่ทำงานที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ร.1 รอ. โทรสั่งงานแทน เซ็นเอกสารที่กองสูง” นายทหารคนสนิท เผย

การป่วยของ ‘บิ๊กป้อม’ ก็ทำให้น้องๆ ไม่สบายใจหรือส่งกำลังใจให้ไม่น้อย แม้ ‘บิ๊กป้อม’ จะเปรยถึงอายุที่มากแล้วก็ตามอยู่เสมอ ด้วยเป็นสิ่งควบคุมกันไม่ได้ แต่ ‘บิ๊กป้อม’ ก็ดูแลสุขภาพตัวเองไม่น้อย ตื่นเช้ามืดมาเดินในน้ำ ให้น้ำประคองตัวเอง ป้องกันล้มบาดเจ็บ

“ท่านใจสู้ พูดแค่อายุมากแล้ว ไม่ถึงขั้นบ่นท้อถอยอะไร” นายทหารคนสนิท เผย

เพราะมีการมองว่าปัญหาด้าน ‘สุขภาพ’ จะเป็น ‘เหตุผล’ สำคัญในการ ‘วางมือ’ หรือ ‘ลงจากอำนาจ’ ได้แนบเนียนที่สุด และ ไม่สั่นสะเทือน คสช.นัก เพราะเป็นเหตุผลที่ ‘เข้าใจได้’ และ ‘ไม่สามารถปฏิเสธ’ได้

โดยอาการ ‘เจ็บหู’ เป็นที่พูดตรงกันว่าอาจเป็นผลมาจากขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์บ่อย หลังลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา และอากาศเปลี่ยนแปลง ด้วยภารกิจงานมากแค่ไหน มีเหนื่อยบ้าง แม้จะบ่นออกสื่อตลอดว่า “เหนื่อย” แต่กับน้องอาจมีบ้างแต่ไม่บ่อย

“ท่านคุยปกติ โทรมาสั่งงาน” บุคคลใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร เผย

แต่ดูเหมือนจะเป็นมุกทันที เมื่อ ‘บิ๊กป้อม’ เงียบหายไป ใครก็ถาม “หายไปไหน” แถมมีข่าวบินด่วนไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในกระแสช่วงสร้างความปรองดอง จน ‘บิ๊กป้อม’ ได้ฉายา “มิสเตอรดีล” ไปก่อนหน้านี้ แต่ข่าวนี้ก็ไม่ได้มียืนยันว่าจริงหรือไม่

“ไม่จริงที่ท่านไปพบคุณทักษิณ แต่เจ็บหูและไปพบหมอจริง แต่ไม่รู้ว่าคุณหมอว่าอย่างไรบ้าง” บุคคลใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร เผย
อีกคนที่ถูกจับตาไม่แพ้กัน หลังโครงการเรือดำน้ำผ่านครม. คือ ‘บิ๊กลือ’พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ตท.18 ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ อีกแคนดิเดท ผบ.ทร.คนต่อไป ที่คุมโปรเจคถือความฝันของราชนาวีไทยให้เป็นจริง จึงทำให้มีแต้มสูงและโอกาสขึ้นเป็น ผบ.ทร. คนต่อไป ไม่น้อย

สิ่งที่ถูกจับตาหลัง’บิ๊กลือ’นำทีมแถลงข่าว จัดซื้อเรือดำน้ำจีนเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ยาวเกือบ 3 ชั่วโมง
นายทหารใน ทร. พูดกันว่า ‘บิ๊กลือ’ เป็นนายทหารที่พูดน้อย และ พูดเสียงเบา แต่วันแถลงข่าว จัดเต็มตอบทุกคำถาม เสียงฟังชัด มีการใช้ภาษาที่สั้น กระชับ มีวาทะโต้ตอบสื่อ

และมีสัญญาใจ “ลูกประดู่” ด้วย โดย ‘บิ๊กลือ’ ชี้แจงถึงคณะกรรมการบริหารโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำในยุคตนรวม 22 คน เลือกเรือดำน้ำจีน ตาม สมัย’บิ๊กตั้ม’พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ อดีตผบ.ทร. กองทัพเรือตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเรือดำน้ำมา 17 คน โดย 14 คนเลือกเรือดำน้ำจีน 1 เลือกของเยอรมัน 1 คน และเลือกของเกาหลีใต้

มาในสมัย ‘บิ๊กณะ’พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่เพื่อทบทวนพิจารณาอีกครั้ง โดยทั้ง 22 คน เป็นระดับหัวกะทิของกองทัพเรือ มีความรู้ความสามารถ มีความโปร่งใส ไม่มีใครสามารถสั่งได้ โดยทั้ง 22 คนเห็นพ้องเลือกเรือดำน้ำจีนต่อ เพราะมีความเหมาะสมที่สุด และไม่ขอเปิดชื่อคณะกรรมการสมัย ‘บิ๊กตั้ม’ ที่เลือกของจีน

“ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเข้าสู่โหมดปรองดองแล้ว ตนอยากให้คนในกองทัพเรือไม่ทะเลาะกัน เพราะเป็นลูกประดู่ที่บานพร้อมกัน โรยพร้อมกัน จะตายด้วยกัน แล้วจะฟื้นฝอยทำไม” พล.ร.อ.ลือชัย กล่าว

จึงเป็นอีกมุมของ ‘บิ๊กลือ’ ที่คนใน ทร. ยิ่งจับตามากขึ้น ในภาวะ “ผู้นำ” นี้ ในการเป็นแคนดิเดท ผบ.ทร.คนต่อไป นั่งยาว 3 ปี เพื่อคุมโปรเจคนี้ต่อไปยาวๆ ปูทางมีเรือดำน้ำลำที่ 2 ต่อไป

 

แต่ในอดีตสมัย ‘บิ๊กยุ้ย’พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ตท.14 รองผบ.ทร. สมัยเป็นรองเสธ.ทหาร ถูกโยกจากกองบัญชาการกองทัพไทยกลับราชนาวี นั่ง “ผู้ช่วยผบ.ทร.” เป็นแคนดิเดทกับ ‘บิ๊กณะ’ ตท.15 สมัยเป็น เสธ.ทร.

โดย ‘บิ๊กยุ้ย’ เป็นประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ที่มีมติเลือก “เรือดำน้ำจีน” แต่สุดท้ายก็ถูกชะลอไปก่อน ด้วยเหตุผลให้ ทร. ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเพิ่ม ดังนั้นการดูแลโปรเจคเรือดำน้ำ ก็ไม่ได้ประกันว่าจะทำให้ ‘บิ๊กลือ’ ได้ขึ้นนั่ง ผบ.ทร. ยาว 3 ปี ทันที

อีกทั้งอยู่ที่การพิจารณาของ ‘บิ๊กณะ’ อีกว่าจะดันรุ่นน้องอย่าง ‘บิ๊กนุ้ย’พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ตท.16 ผู้ช่วยผบ.ทร. เกษียณปี61 อีกแคนดิเดทขึ้นเป็น ผบ.ทร. ก่อนหรือไม่

โดยมีงานใหญ่ที่ ‘บิ๊กนุ้ย’ ต้องดูแลคืองานประชุม ผบ.ทร.อาเซียน และมหกรรมทางเรือ 50 ปี อาเซียน ช่วงเดือนพ.ย.นี้ด้วย ถือเป็นอีกงานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นอีก 6 เดือนข้างหน้า ก่อนเรือดำน้ำมาอีก 6 ปีข้างหน้า

จึงอยู่ที่การตัดสินใจของ ‘บิ๊กณะ’ ว่าจะใช้หลักเกณฑ์ใดในการเลือก ผบ.ทร. คนต่อไป ว่าจะเป็นที่ยอมรับของคนในกองทัพเรือหรือไม่ และต้องดูแลหัวใจของน้องๆด้วย

เพราะจะมีน้องที่ผิดหวัง !!