น.ส.พ. Washington Post ฉบับ 3 มิถุนายน 2020 รายงานว่า หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แห่งความรุนแรง ไม่สงบในอเมริกา ความสงบสุขเริ่มกลับคืนมาแล้วในคืนวันที่ 2 มิถุนายน

ในวันนั้น การปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงเริ่มบรรเทาลง เหลือเพียงรายงานข่าวเรื่องการปล้นสะดมที่ยังหลงเหลืออยู่ประปราย และการทำร้ายร่างกายเพียงเล็กน้อยทั่วประเทศ

ขอบันทึกเหตุการณ์บางส่วน บางช่วงเวลา ดังนี้

เย็นวันศุกร์ 30 พฤษภาคม 2020 เวลาราวหนึ่งทุ่ม พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ผู้ประท้วงบุกทำลายสำนักงานใหญ่ CNN ที่เมือง Atlanta รัฐ Georgia กระจกถูกทุบทำลาย รถตำรวจหน้า CNN ถูกเผา รวมทั้งรถบางคันบริเวณสำนักงานถูกเผาด้วย ระเบิดโมโลต็อปค็อกเทล (ระเบิดขวด) ลูกหนึ่งถูกโยนเข้าสำนักงาน แต่เคราะห์ดีที่ช่วยกันดับไฟไว้ได้

วันรุ่งขึ้น ฝูงชนก็ยังมาประท้วงหน้า CNN อีก บางคนปีนขึ้นไปบนป้าย CNN

CNN คือสื่อเดียวที่ถูกผู้ประท้วงบุก เพราะมีสำนักงานใหญ่แห่งเดียวที่เมือง Atlanta ไม่มีสาขาอื่นตามเมืองใหญ่เหมือนสื่ออื่น ดังนั้น สำนักงาน CNN ที่ Atlanta จึงเป็นเป้าใหญ่ทางสัญลักษณ์ที่จะทำให้ผู้ประท้วงบุก CNN เป็นข่าวดังทั่วโลก

ตำรวจที่เมือง Coral Gables รัฐฟลอริดา เป็นแห่งแรกที่ “คุกเข่า” kneeling พร้อมก้มศีรษะให้ผู้ประท้วงนาน 8 นาที 48 วินาที เท่ากับเวลาที่ Floyd ถูกตำรวจกดคอ เป็นสัญลักษณ์ขออภัยต่อความรุนแรงที่ตำรวจ Minneapolis ทำกับ Floyd

ผู้ประท้วงบางคนถึงกับหลั่งน้ำตา เข้าสวมกอดตำรวจ

หลังจากนั้นมีตำรวจที่เมือง Portland, Kansas City, Miami, Washington D.C., New York และอีกหลายเมืองที่คุกเข่าขออภัยต่อความรุนแรงที่ตำรวจได้กระทำ

นายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ของแคนาดา ก็ “คุกเข่า” ร่วมกับตำรวจที่หน้ารัฐสภาแคนาดา เมื่อ 5 มิถุนายน 2020

ผู้บัญชาการตำรวจนิวยอร์กบอกว่า ตำรวจ 800,000 นายต้องร่วมชดใช้ขออภัยต่อการกระทำของตำรวจ Minneapolis

 

การเดินขบวนไม่ได้ดำเนินไปอย่างสงบในทุกแห่ง เพราะมีพวกนักฉวยโอกาส “ปล้นสะดม” (Looting) แทบทุกเมือง หลายเมืองในแอลเอ “ปล้นกลางแดด” กลางวันแสกๆ ขนของใส่รถเก๋งกันเลย แต่เมืองส่วนมากปล้นกลางคืน

การปล้นนี้ทำทั้งร้านโกรเซอรี่ขนาดเล็ก ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า บูติกแบรนด์เนม จนถึงโชว์รูมรถหรู

พวกปล้นส่วนใหญ่เป็นผิวดำ ฮิสแปนิก เม็กซิกัน และมีผิวขาวแจมด้วย น่าสังเกตว่าพวกปล้นส่วนมากเป็นวัยรุ่นสีผิว

การเดินขบวนมีใน 140 เมือง 24 รัฐ ส่วนมากจะเดินขบวนอย่างสงบตอนกลางวัน พอกลางคืนแก๊งปล้นก็ออกอาละวาดทั่วแทบทุกเมือง จน 21 รัฐ ผู้ว่าการรัฐต้องออกคำสั่งให้หน่วย “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” (National Guard) ออกมาปกป้องเมือง

National Guard แต่ละรัฐจะฝึกไว้เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การจลาจล การก่อการร้าย การบรรเทาสาธารณภัยจากภัยพิบัติ พวกนี้ไม่ใช่ทหารอาชีพ แต่จะออกปฏิบัติการพร้อมยุทโธปกรณ์ปราบจลาจล มาพร้อมรถหุ้มเกราะ

หลายเมืองประกาศเคอร์ฟิว

คืนวันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2020 นิวยอร์กถูกปล้น

บูติกหรูในย่านโซโห (SoHo) ทางใต้ของเกาะแมนฮัตตันถูกทุบกระจกปล้นร้าน Chanel boutique, Adidas outlet, Dolce & Gabbana, Apple, Rolex

รวมทั้งหลายร้านหรูบนถนนบรอดเวย์ Fifth Avenue, Union Square เช่น the Coach, T2tea, G Star Jean, No Bull, ร้าน Filipacchi Motorsports สินค้าราคาแพงทั้งร้านถูกขนไปหมด ทั้งรถ bikes, motorcycles, helmets (หมวกกันน็อก) เครื่องหนัง และนาฬิกา

ร้าน Duane Reade, ห้าง Nordstrom Rack ห้างใหญ่มาก, Verizon โดนทุบ 2 สาขา North Face ร้านเครื่องหนาวโคตรแพงโดนทุบตอนตีสาม

ถึงแม้พวกปล้นจะจ้องแต่ร้านหรูไฮเอนด์ แบรนด์ดัง แต่ร้านค้าเล็กๆ ก็โดนปล้นข้าวของจนถึงเช้าวันจันทร์

คืนวันอาทิตย์ในนิวยอร์กมีหัวขโมยถูกจับ 300 คน ถูกยิงหนึ่งคน

วันจันทร์ร้านค้าในทุกย่านของนิวยอร์กต่างระดมเอาไม้อัดมาตอกปิดกั้นกระจกกันถูกทุบปล้น ถึงแม้ร้านค้าในนิวยอร์กมีกำหนดเปิดร้าน 8 มิถุนายน แต่ตอนนี้ต้องตอกไม้อัดกันโจรไว้ก่อน

ร้านค้าในแอลเอ และเมืองใหญ่อื่นก็ต้องตอกไม้อัดปิดกระจกกันโจรทุบปล้นเหมือนกัน

คืนวันจันทร์ นิวยอร์กประกาศเคอร์ฟิว 5 ทุ่มถึงตี 5 เป็นครั้งแรกในรอบ 77 ปีที่นิวยอร์กประกาศเคอร์ฟิว

แต่คืนนั้นก็ยังมีการปล้นในนิวยอร์ก Mercy โดนทุบกระจกปล้น, ร้านไนกี้ เลโก้ ร้านหรูขายเครื่องไฟฟ้าโดนปล้นเย้ยเคอร์ฟิว

ผู้ว่าการนิวยอร์ก Andrew Cuomo พูดออกทีวีว่า ตำรวจนิวยอร์กล้มเหลวในการป้องกันเมืองนิวยอร์ก

“Period” “ไม่มีเป็นอย่างอื่น”

เป็นการกล่าวตำหนิตอกย้ำรุนแรง

แต่ Cuomo บอกว่าถึงอย่างไรนิวยอร์กจะยังไม่ใช้ National Guard ออกมาปฏิบัติการ

ทรัมป์ทวีตเตือนว่า ถ้านิวยอร์กไม่ใช้ National Guard มาปกป้อง เมืองนิวยอร์กจะ “แหลกเป็นชิ้นๆ”

คืนวันอังคาร นิวยอร์กประกาศเคอร์ฟิว เริ่ม 2 ทุ่มจนถึงตี 5 ยาวจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน

 

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมนิวยอร์กจึงมีการปล้นกันมากมายเช่นนี้ เพราะเมื่อคราวไฟดับครั้งใหญ่ 2 วัน 2 คืนในนิวยอร์กเมื่อปี 1977 ก็มีการปล้นร้านค้าทั่วนิวยอร์กทั้งสองคืนโดยนักปล้นสีผิว

พวกที่ปล้นในนิวยอร์กวันนี้ คือลูกหลานพวกปล้นเมื่อปี 1977

ตำนานการปล้นในนิวยอร์กไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ถึงเมื่อวันศุกร์ 5 มิถุนายน นิวยอร์กมีคนถูกจับ 700 คน ลูกสาวนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก Bill de Blasio โดนจับร่วมกับผู้ประท้วงที่ Greenwich Village เมื่อ 29 พฤษภาคม แต่ต่อมาได้รับการปล่อยตัว

โชว์รูม Mercedes – Benz ในเมือง Oakland ถูกปล้น รถเบนซ์หนึ่งคันถูกจุดไฟเผา มีคันหนึ่งถูกพ่นสี Eat the Rich

ที่ Portland, Denver, Oakland, Phoenix คนเดินขบวนอย่างเรียบร้อย ตำรวจในเมืองเหล่านี้คุกเข่า Kneeling ให้ผู้เดินขบวน

ที่เมืองเรดดิ้งมีการเดินขบวน 3 ครั้งแล้ว ครั้งล่าสุดวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน ทุกครั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย ผู้เดินขบวนนับร้อยคนร้องตะโกนคำขวัญต่างๆ ไปตลอดทาง รถที่วิ่งมาอีกเลนต่างบีบแตรให้กำลังใจ การเดินขบวนสิ้นสุดด้วยผู้เดินขบวนนอนคว่ำหน้าบนพื้นถนน เอามือไขว้หลังเป็นท่าถูกจับกุม นาน 8 นาที 48 วินาที เป็นสัญลักษณ์การจับกุม Floyd

เมืองเรดดิ้งไม่มีการปล้น เพียงแต่มีการพยายามปล้นกลางวันหนึ่งครั้ง แต่ตำรวจมาทัน

ภาพประทับใจอีกภาพ

ผู้เดินขบวนหลายพันคนนอนคว่ำหน้าเอามือไขว้หลังเต็มสะพาน Burnside Bridge เชื่อมระหว่างตะวันออกกับตะวันตกของ Portland นาน 8 นาที 48 วินาที เป็นสัญลักษณ์การจับกุม Floyd

มี 10 เมืองในอเมริกาที่ประกาศเคอร์ฟิว Atlanta, New York, San Francisco, Los Angeles, Chicago, Cleveland, Dallas, Denver, Louisville, และ Minneapolis

รถตำรวจถูกเผาทำลายหลายคันในหลายเมืองใหญ่

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2020 ทีวีโชว์ภาพตำรวจ 4 คนที่ร่วมกันจับ Floyd มาขึ้นศาลในชุดนักโทษสีส้ม สวมกุญแจมือ ดีเร็ก โซวิน มือกดเข่าบนลำคอฟลอยด์ถูกเพิ่มข้อหาเป็น ฆ่าโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน (second – degree murder) โทษจำคุก 40 ปี

ส่วนอีก 3 คนโดนข้อหาร่วมมือกันฆ่าโดยเจตนา แต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ถ้ามีความผิด อาจโดนจำคุก 40 ปี

น.ส.พ. Wall Street Journal ฉบับ 4 มิถุนายน 2020 บอกว่าถึงวันนั้นมีคนประท้วงเสียชีวิต 67 คน

สำนักข่าว Aljazeera 6 มิถุนายน รายงานว่ามีผู้ประท้วงโดนจับแล้วมากกว่า 10,000 คน

 

ในขณะที่คนในเมืองไทยหวาดวิตกกับการประท้วงในอเมริกา และบางคนเยาะเย้ยถากถาง แต่ผู้คนในอเมริกาไม่ค่อยมีใครวิตก เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ทุกคนดำเนินชีวิตตามปกติ ไม่เข้าไปยุ่งบริเวณที่มีการประท้วง

ถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นการประท้วงสีผิวครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษนับจากที่ Dr. Martin Ruther King Jr. ถูกลอบสังหารปี 1968 ก็ตามที

ดังนั้น ดัชนีหุ้นดาวโจนส์จึงเขียวในแดนบวกตลอดสัปดาห์ ไม่มีวันไหนติดลบ วันพุธบวก 527.24 จุด วันศุกร์บวก 829.18 จุด ที่ 27,110.98 จุด

ยืนระดับสูงสุดในทศวรรษเหนือ 27,000 จุดได้อย่างมั่นคง

 

---

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่