เชิงบันไดทำเนียบ : ‘3 เซนต์คาเบรียล’ ขุนพลล้อม ‘พยัคฆ์ตู่’

“ตอนนี้ผมมีความสุขมากที่ทำงานอยู่ตรงนี้ เพราะอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านไม่เคยคุยกันเรื่องการเมืองเลย คุยกันแต่เรื่องงานอย่างเดียว ตรงกับสิ่งที่ตนอยากทำมาตลอด”
.
‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ที่ปรึกษานายกฯ ทิ้งท้ายโต้กระแสข่าวลือ ‘รีเทิร์นประชาธิปัตย์’ ไปเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. โดย ‘พีระพันธุ์’ ระบุว่า ตนออกมาแล้ว ไม่เคยคิดกลับ และไม่มีใครมาทาบทามให้กลับ โดยก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่า ‘พีระพันธุ์’ จะไปเป็น หน.พลังประชารัฐ ทำให้ ‘พีระพันธุ์’ ต้องย้ำว่า ตอนนี้ไม่มีความคิดที่สังกัดพรรคการเมืองไหน เพราะยังไม่ถึงเวลา

ทว่าบทบาทของ ‘พีระพันธุ์’ ก่อนออกจาก ปชป. เขาเป็นหนึ่งในแคนดิเดท หน.ปชป. คนใหม่ แต่เมื่อหนทางไม่เป็นเช่นนั้น จึงมาสู่การตัดสินใจที่สะเทือนไปทั้ง ปชป. โดยการประกาศลาออกจาก สมาชิก ปชป. ยอมทิ้งตำแหน่ง ส.ส. ก่อนมาเป็น ที่ปรึกษานายกฯ ใน รบ.ประยุทธ์ จากนั้นสปอร์ตไลท์ก็ส่องมายัง ‘พีระพันธุ์’ มากขึ้น โดยเฉพาะบทบาทการเป็น ปธ.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไข รธน.60 อีกทั้งนั่งเป็น กรรมการการบินไทย ในการผ่าตัดใหญ่การบินไทยครั้งนี้ด้วย

นอกจากการเป็น ‘นักกฎหมาย’ ที่จบปริญญาโทต่างประเทศ เคยเป็นผู้พิพากษาศาล จ.ธัญบุรี อีกทั้งมีผลงานในอดีตเป็น ‘นักตรวจสอบ’ ขณะเป็น ส.ส. รวมทั้งเป็นอดีต รมว.ยุติธรรม ในสมัย รบ.อภิสิทธิ์ แล้ว ย้อนกลับไปไกลกว่านั้น ‘พีระพันธุ์’ จบจาก ร.ร.เซนต์คาเบรียล รุ่นราวคราวเดียวกับ บิ๊กแดง-พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ซึ่ง‘พีระพันธุ์’อายุมากกว่า พล.อ.อภิรัชต์ 1 ปี แน่นอนว่าทั้งคู่เรียนทันกัน ต่างมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ซึ่ง ‘พีระพันธุ์’ ก็เคยยอมรับถึงความสนิทกัน ทั้งกอดคอ พูดคุยเฮฮา ตามประสาพี่น้อง ตั้งเป็น นร.ขาสั้น เรื่อยมาถึง พล.อ.อภิรัชต์ ไปเรียนเตรียมทหาร นักเรียนนายร้อย จปร. จนเป็นร้อยตรี เป็นทหารเล็กๆ เติบโตจนมาเป็น ผบ.ทบ.
.
ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ก็ถือเป็นอีกขุนพลที่อยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอนว่าด้วยสถานะสำคัญที่ พล.อ.อภิรัชต์ มี ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไปอย่างเกื้อหนุนกัน ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ย้ำเสมอว่ากองทัพพร้อมสนับสนุนรัฐบาล ในฐานะกลไกหนึ่งของรัฐบาล ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม อย่าลืมว่า พล.อ.อภิรัชต์ ได้กลับเข้าสู่ไลน์ ผบ.ทบ. เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ หลังในสมัย รบ.ยิ่งลักษณ์ ชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ ติดแบล็คลิสต์คนเสื้อแดง จากแอคชั่นต่างๆช่วงปี52-53 ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ ถูกโยกจาก ผู้การ ร.11 รอ. ไปเป็น ผบ.พล.ร.11 ฉะเชิงเทรา และ ผบ.มทบ.15 เพชรบุรี ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะโยกเข้ากรุงขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. คุมกำลังและดูแลพื้นที่ กทม. ก่อนรัฐประหาร 22พ.ค.57 เพียง 1 เดือน ในโผโยกย้าย เม.ย.57 แสดงถึงความไว้วางใจกัน

อีกขุนพลที่เป็นพี่ใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่จบจาก ร.ร.เซนต์คาเบรียล ก่อนมาเรียน ตท.6-จปร.17 ก่อนที่ทั้ง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ จะมาพบกันที่ ร.21 รอ. สมัยที่ พล.อ.ประวิตร เป็น ร้อยเอก บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นร้อยโท และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ร้อยตรี ถือเป็นจุดเริ่มต้นในสายสัมพันธ์กว่า 40 ปี ระหว่าง ‘พี่ป้อม-น้องตู่’ ที่กรำศึกมากันอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในทางการเมืองที่ พล.อ.ประวิตร เตรียมขึ้นเป็น หน.พลังประชารัฐ คนใหม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีขัดข้องแต่อย่างใด

‘3 เซนต์คาเบรียล’ ขุนพลล้อม ‘พยัคฆ์ตู่’


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่