เชิงบันไดทำเนียบ : เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่ ! เริ่มที่ ‘พลังประชารัฐ’ ก่อนเลย

“ไม่มี ก็เคลียร์กันไปตั้งนานแล้ว”

สั้นๆจาก ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปธ.กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่า ‘ก๊กสี่กุมาร’ โดย ‘อุตตม สาวนายน’หน.พลังประชารัฐ และ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’เลขาธิการ พปชร. ได้ไปเข้าพบเมื่อ 7พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ หลังทั้ง ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ ได้เข้าพบ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่ทำเนียบฯ เมื่อ 5พ.ค.ที่ผ่านมา หลังพูดคุยกันราว 30 นาที ซึ่งทั้งคู่ยอมรับว่ามีการพูดคุยเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐด้วย ซึ่ง นายกฯ ได้แนะให้พูดคุยกันในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้ง ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ ระบุตรงกันว่ายังคงเคารพ พล.อ.ประวิตร เสมอ และเตรียมเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ด้วย

ส่วนท่าทีของ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ ที่เป็นแม่ทัพ ‘ก๊กสี่กุมาร’ ก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรอีก หลังสัปดาห์ก่อนได้ซัดกลับไปเต็มๆว่า “ไม่ใช่เวลามาพูดถึงอำนาจ จะเอาอำนาจไปทำอะไร ไม่เข้าใจ” มาสัปดาห์นี้สื่อถามถึงปัญหาภายในพรรค เมื่อ 7พ.ค.ที่ผ่านมา ‘สมคิด’ ได้ ‘อมยิ้ม’ ให้สื่อแทนคำตอบเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างนิ่งลงทันที หลัง ‘บิ๊กตู่’ เรียก ‘ก๊กสี่กุมาร’ เข้าพบ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ ‘บิ๊กป้อม’ น่วมไปทั้งตัว หลังเดิมพันทิ้งไพ่ใบใหญ่ ตามแผนบันไดขั้นแรก ‘ปฏิบัติการยึดพรรคคืน’ ซึ่ง ‘ก๊กสี่กุมาร’ ก็ไม่ยอมเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างระดมขุนพลจับมือก๊กต่างๆในพรรค จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้อาญาสิทธิ์สยบศึก ทว่า ‘อำนาจ’ เช่นนี้ หากใช้บ่อยครั้งทางการเมืองย่อมเสื่อมมนต์ขลัง จึงเป็นอีกเหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เวลาผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์กว่าๆ จึงออกมาหย่าศึกครั้งนี้ เพราะเมื่อใช้แล้วต้องได้ผลด้วย

แต่ศึกนี้ไม่จบง่ายๆ ต้องจับตาไปจนถึงเดือนมิ.ย.นี้ ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงบทบาทนำอีกครั้งหรือไม่ เพราะเชื่อกันว่าการปรับตำแหน่งในส่วนกรรมการบริหาร พปชร. ย่อมสัมพันธ์กับการปรับ ครม. ด้วยเช่นกัน ที่มีผู้ที่ผิดหวังจากครั้งก่อนต้องทวงสิทธิคืน ส่วนผู้ที่ได้เก้าอี้ก็ต้องรักษาไว้ให้ได้ ที่แน่ๆ ‘ก๊กสี่กุมาร’ ไม่ยอมให้เข้าสำนวน ‘เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล’ แน่นอน ทั้งงานตั้งพรรคและงานในรัฐบาล

ย้อนกลับไปเมื่อครั้ง พล.อ.ประวิตร ก้าวเข้าที่ทำการ พปชร. ในฐานะ ปธ.กรรมการยุทธศาสตร์ ครั้งแรก เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการเปิดหน้าชัดในทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร ที่ไม่ต้องเป็น ‘ผู้มีบารมีนอกพรรค’ อีกต่อไป ครั้งนั้น ‘อุตตม’ ได้บอกกับ พล.อ.ประวิตร ว่า “อุ่นใจที่มีพี่ป้อมมาช่วยพรรค” อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ยังร่วมกิจกรรมพรรคหลายอย่าง รวมทั้งออกแบบโลโก้ใหม่จาก ‘เหลี่ยมรังผึ้ง’ เป็น ‘วงกลม’ แทน เพื่อแก้เคล็ด ‘คมเหลี่ยม’ ภายในพรรค ให้มีความ ‘กลมเกลียว’ สามัคคีกัน

แต่สุดท้ายเชื้อเดิมของพรรคก็ยังคงออกฤทธิ์ การห้ำหั่นของก๊กต่างๆจากฤทธิ์พลังดูด แต่ที่หนักกว่าเดิมคือ พล.อ.ประวิตร มาเป็นคู่ขัดแย้งเองเสียอีก คำถามคือแล้วใครจะคุมพรรคได้ ท่ามกลางก๊กมุ้งเช่นนี้ ก็เหลือเพียงคนเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง

เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ ?