ปรับกระบวนทัพ ลาดตระเวนแนวหน้าให้ลึกเข้าไปในเขตแพร่ COVID-19 ของเพื่อนบ้าน

วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อที่รายงานลดเหลือ 54 ราย เดาว่าส่วนใหญ่เป็น generation ที่สามของการติดเชื้อ ยอดนี้ลดลงไปจาก 111 รายที่รายงานเมื่อวาน ซึ่งความจริงถ้าหักนำเข้าจากอินโดนีเซีย 42 ราย จะเหลือ 69 ราย

ดังนั้นแนวโน้มขาลงยังน่าจะเป็นทิศทางหลัก อย่าลืมกลับไปอ่านพยากรณ์ของผมก่อนหน้านี้นะครับว่าถ้าลงอย่างนี้เราเหลือศูนย์รายเมื่อไหร่ และ ต่อจากนั้นอีกวันเราจึงจะออกจากรู ขอโทษครับ จากบ้าน ออกไปวิ่งรับแสงตะวันได้

แต่ยอดพี่น้องคนไทยที่รอกลับบ้านและกำลังจะทยอย landing สู่มาตุภูมิของเรานี่สิครับ เป็นสิ่งทีพึงกังวล เรามีคนไทยอยู่ในพื้นที่ระบาดจำนวนมาก และกำลังต้องการกลับไทย

เราจะรับมือกับ load ใหม่ ๆ เหล่านี้ไหวไหม? อีกสองสัปดาห์จะมี generation ที่สองและสามของ COVID-19 จากพี่น้องที่กลับมาใหม่นี้ไหม

 

การที่มีผู้ติดเชื้อ 42 รายจากผู้โดยสารทั้งหมด 52 ราย สะท้อนให้เห็นอะไรบ้างครับ

ประการแรก ผมสงสัยว่ารัฐบาลหรือสำนักงานการบินพลเรือนยกเลิกการให้ผู้จะเดินทางต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ติดเชื้อหรือเปล่า ถ้ายังมีผลบังคับใช้อยู่ แสดงว่าใบรับรองแพทย์เหล่านั้นใช้ไม่ได้ ควรแจ้งแพทยสภาของประเทศต้นทางให้ทราบคุณภาพของใบรับรอง และควรจะดูว่า lab ที่เขาใช้ยี่ห้ออะไรแล้วแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

ประการที่สอง ศบค. บอกว่าประเทศต้นทางจะมีการกักตัว quarantine ก่อนส่ง 14 วัน ดูจากไลน์ที่พี่น้องรอเดินทางส่งมา เห็นพี่น้องอยู่รวมกันในห้องเดียวกัน รับประทานอาหารด้วยกัน อย่างนั้นเป็นการ quarantine ที่ไม่ถูกวิธี  ไม่ได้เป็นการกักกันเชื้อ แต่เป็นเพาะและแพร่เชื้อในกลุ่มที่รอกลับมากกว่า ผู้เดินทางถึงได้มีเปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อได้มากเป็นประวัติการณ์ จนถึงวันที่เขียนบทความนี้ ยังมีสมาชิกในหลายประเทศที่ไม่ได้ตระหนักภัยของ COVID-19 ยังไม่มีการกักกันแยกโรคอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าไม่ร่วมมือกัน ภูมิภาคน่าจะไปไม่รอด

ระหว่างรอให้เขาปรับเปลี่ยนนโยบาย เราจะเตรียมหาแหล่งกักตัวในประเทศสำหรับเข้ามาใหม่อย่างเดียวไม่พอ ต้องออกไปป้องกันคนของเรานอกประเทศด้วย เราอาจจะไม่สามารถบังคับให้เจ้าของประเทศต้นทางทำอย่างที่เราคิดว่าควรจะทำ แต่เราต้องพยายาม โดยเฉพาะกงสุลหรือสถานทูตไทยในยามนี้ ต้องทำหน้าที่ไม่ให้ COVID-19 เข้าไทยให้ดีที่สุด

กงสุลอาจจะต้องให้ความรู้ และ จัดเตรียมลู่ทางให้ผู้เตรียมเดินทางแยกกันอยู่ ห้องใครห้องมันโดยการเช่าโรงแรมหรือเช่าห้องพัก ถ้าผู้เดินทางรายใดไม่ปฏิบัติตาม ไม่ควรให้กลับประเทศไทยเพราะจะมาแพร่เชื้อ จริงอยู่รัฐธรรมนูญกำหนดหน้าที่ของคนไทยที่รัฐจะต้องรักษาสิทธิ์ในความเป็นไทยของเขา

แต่สิทธิส่วนบุคคลไม่ควรจะให้แก่ผู้ที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

 

การทูตควรเน้นวัตถุประสงค์ มารยาทควรเป็นเพียงวิธีการและกุศโลบาย การทูตมีทั้งในรูปแบบและนอกรูปแบบ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ผ่านกระทรวงการต่างประเทศอย่างเดียว

ความร่วมมือหลักของ AEC ประการแรกคือความร่วมมือด้านความมั่นคงของมนุษย์ เช่น การปราบอาชญากรรมข้ามชาติ และหนึ่งในนั้นคือความร่วมมือในการควบคุมโรคระบาด กระทรวงสาธารณสุขไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับกระทรวงสาธารณสุขประเทศต่าง ๆ มีสำนักสาธารณสุขระหว่างประเทศ มีการฝึกอบรมแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน ถึงเวลาแล้วครับที่เราต้องใช้เครื่องมือทางการทูตทั้งในและนอกรูปแบบเหล่านี้ออกมาแก้ปัญหาความมั่นคงของมนุษย์ข้ามชาติ โดยเฉพาะที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจเดียวกัน

ความหวังที่เราจะเปิดตลาดธนาคาร ศูนย์การค้าไทย ร้านค้าสะดวกซื้อในเขตเศรษฐกิจนี้ โกยความร่ำรวยกลับสู่นักลงทุนไทยได้อย่างเสรีซึ่งเป็น AEC ข้อที่สอง และข้อที่สาม จะเป็นจริงไม่ได้ ถ้าสมาชิกในภูมิภาคยังไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาความมั่นคงของมนุษย์ดังเช่นโรคระบาดที่เห็นอยู่ในขณะนี้