ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 กุมภาพันธ์ 2563 |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2020 สภาสูงสหรัฐอเมริกา มีมติว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาในการถอดถอน (Impeachment) 2 ข้อกล่าวหา
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 18 ธ้นวาคม 2019 พรรคเดโมแครต (Democrat) ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทรัมป์ ได้มีมติยื่นเรื่อง Impeachment ทรัมป์ 2 ข้อกล่าวหาผ่านทางสภาล่างที่พรรคเดโมแครตคุมเสียงข้างมาก คือ
ข้อหาที่ 1 ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ
ข้อหาที่ 2 ฐานขัดขวางการทำงานของสภาคองเกรส
ทำให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์อเมริกาที่โดนตั้งข้อหาถอดถอน ก่อนหน้านั้นมีประธานาธิบดี Andrew Johnson ปี 1868 และประธานาธิบดี Bill Clinton ปี 1998
เจาะลึกลงไปในข้อกล่าวหาแรก มีที่มาที่ไปคือคนของพรรคเดโมแครตไปได้ยินบทสนทนาในร้านอาหารแห่งหนึ่งว่า ทรัมป์สั่งให้ประธานาธิบดียูเครนสืบสวนเรื่องกิจกรรมของโจ ไบเดน ในยูเครน ซึ่งเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตแข่งกับทรัมป์ในสมัยหน้า
ถ้าประธานาธิบดียูเครนไม่ให้ความร่วมมือ ทรัมป์จะตัดความช่วยเหลือทางทหารที่อเมริกาให้ยูเครน
แน่นอนว่า ทรัมป์ปฏิเสธข้อหานี้ว่าไม่เคยพูดหรือสั่งการ พร้อมขอส่งทนายเข้าชี้แจง แต่พรรคเดโมแครตที่คุมเสียงข้างมากในสภาล่างปฏิเสธ ส่งเรื่องขึ้นมาสภาคองเกรสหรือสภาสูงให้พิจารณาเลย
เพื่อเป็นการดิสเครดิตทรัมป์
ส่วนข้อกล่าวหาที่ 2 เรื่องที่ทรัมป์ขัดขวางการทำงานของสภาคองเกรสนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยมาก เพราะทรัมป์มีอำนาจหน้าที่ประธานาธิบดีที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้อยู่แล้ว
เมื่อเรื่องถอดถอนนี้เข้าสู่สภาสูง พรรคเดโมแครตขอให้เรียกพยานเอกสารและพยานบุคคลเข้ามาให้การในสภาสูง แต่พรรครีพับลิกัน (Republican) ที่คุมเสียงสภาสูงมีมติไม่ให้เรียกพยานเพิ่ม เป็นการเอาคืนพรรดเดโมแครตที่ไม่ยอมให้ทรัมป์ส่งทีมทนายความเข้าให้การในสภาล่างเมื่อคราวก่อน
อภิปรายกันช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมต่อเนื่องมาจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ คอการเมืองที่ติดตามการอภิปรายทุกวันต่างลงความเห็นว่า ข้อกล่าวหาเพื่อถอดถอนทรัมป์ของพรรคเดโมแครตนั้นเลื่อนลอย ไร้หลักฐานที่ชัดเจน น้ำหนักเบาหวิว
ไม่เหมือนการยื่น Impeachment เมื่อ 2 ครั้งก่อน
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่สภาคองเกรสที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากจะมีมติว่า ทรัมป์ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน
ย้อนกลับไปสู่ข้อกล่าวหาเรื่องยูเครนซึ่งทำท่าจะเป็นหนังเรื่องยาว เพราะมีข่าวว่าลูกชายของโจ ไบเดน ไปเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทในยูเครน ในสาขาที่ตัวเองไม่มีความถนัด แถมได้เงินเดือนเดือนละเป็นล้านเหรียญ เวลาเดินทางไปยูเครนก็ใช้เครื่องบินส่วนตัวของพรรคเดโมแครต
เรื่องนี้พอนักข่าวไปถามโจ ไบเดน ก็รีบออกมาปกป้องลูกชายว่า
“Don”t touch my son.”
“อย่ามาแตะต้องลูกชายฉัน”
ยิ่งออกท่าปกป้อง ยิ่งต้องมีการขุดคุ้ย เพราะทำท่าว่าจะต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ
ในจำนวนพลพรรคเดโมแครตทั้งหมด มีเพียง Andrew Yang ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีเชื้อสายจีนเพียงคนเดียว ที่คัดค้านไม่ให้ยื่น Impeachment ทรัมป์ ด้วยเหตุผลว่า
จะไปเพิ่มคะแนนเสียงให้ทรัมป์เพราะคนเห็นใจ
ซึ่งเป็นการอ่านที่เฉียบขาดมากเพราะเดโมแครตถอดถอนทรัมป์ด้วยข้อหาที่เลื่อนลอย ไร้หลักฐาน คนอเมริกันเลยเห็นใจทรัมป์
หลังการอภิปราย คะแนนนิยมของทรัมป์พุ่งขึ้นมาเป็น 49% สูงที่สุดในระยะเวลา 3 ปีนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
ช่วงก่อนคริสต์มาส หลังจากเดโมแครตยื่น Impeachment ทรัมป์แล้ว ทรัมป์ไปหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนียและรัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้เงินบริจาคถึง $ 25 ล้าน
ในขณะที่คู่แข่ง โจ ไบเดน ไปหาเสียงในรัฐอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน ได้เงินแค่ $ 5 ล้าน
เลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ คงพอเห็นภาพแล้วนะครับว่า
ใครจะนอนมา