เชิงบันไดทำเนียบ : ไม่มี 3ป. เราจะทำอะไรได้ ! ‘ป.ป้อม-ป๊อก’ ลมใต้ปีก ‘ป.ประยุทธ์’ คำรามพรรคร่วม

ผ่านมาเกือบ 5 เดือนของ ‘รบ.ประยุทธ์2/1’ ในสภาวะการเป็น รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่มีเรื่องให้ รัฐบาลหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ตลอด ล่าสุดกับการโหวตล้มญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศ , คำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 หรือ ‘กมธ.เช็คบิล คสช.’ นั่นเอง
.
ที่ทำให้สภาล่มไปถึง 2 ครั้ง หลังฝ่ายค้านวอร์คเอาท์ หลังฝ่ายรัฐบาลขอให้โหวตใหม่ หลังโหวตแพ้ฝ่ายค้านในครั้งแรก ซึ่งผลสุดท้ายฝ่ายรัฐบาลก็ล้มการตั้ง กมธ.เช็คบิล คสช. ที่เรียกได้ว่า ‘ทุ่มหมดหน้าตัก’
.
ที่สำคัญคือการได้เห็นอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ทั้งการโหวตสวนของ 6 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ในการโหวตครั้งแรก โดย ส.ส.ที่โหวตสวน ต่างออกมายืนยันว่าไม่ได้เป็น ‘งูเห่าสีฟ้า’ แต่การโหวตสวนนี้เพราะเป็นผู้รับรองญัตตินี้ ตามที่ ‘สาทิตย์ วงศ์หนองเตย’ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้เสนอญัตติ จึงยืนกรานที่ ‘เห็นด้วย’ กับการตั้ง กมธ.เช็คบิล คสช. นั่นเอง โดยผลการโหวตใหม่ 4 ส.ส. ยังคงโหวตสวน แต่ 2 ส.ส. ได้งดออกเสียงแทน ซึ่งเป็นไปตามที่ ปชป. ได้ขอให้ทั้ง 6 ส.ส. งดออกเสียง จากนี้ต้องมาดูว่าจะมีบทลงโทษใดๆหรือไม่
.
แต่ที่ชัดเจนคืองานนี้มี ‘งูเห่า’ จากพรรคฝ่ายค้านเกิดขึ้น ในการลงมติแสดงตนนับองค์ประชุมด้วย หลังฝ่ายค้านย้ำจุดยืนเดิมวอร์คเอาท์ แถมร่วมลงมติด้วย

โดยเฉพาะพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ 4 ส.ส. ลงมติตามวิปฝ่ายรัฐบาล ‘ไม่เห็นด้วย’ กับการตั้ง กมธ.เช็คบิล คสช. งานนี้มีการมองข้ามช็อตว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่จะได้มาร่วมเก้าอี้ ครม. หรือไม่ ? หากมีการปรับ ครม. เกิดขึ้น รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์จะถูกริบเก้าอี้ 1 รัฐมนตรีไปหรือไม่ ?
.
ซึ่งงานนี้ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ก็ไม่ได้ปิดประตูพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่จะมาร่วม ครม. แต่ก็มีเงื่อนไขสำคัญคือแล้วพรรคใดจะต้อง ‘เสียเก้าอี้’ ไป
.
ส่วน ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ปธ.กรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ก็กล่าวไม่เคลียร์ว่า ปชป. จะถูกริบเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่
.
“ให้มาก่อนแล้วค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งมาต่อรองอะไรในวันนี้ ถ้ามาแล้วสัดส่วนการจัด ครม.จะเป็นอย่างไร เพราะแต่ละพรรคมีโควตาอยู่ไม่ใช่หรือ จะมา 3-4-5-6 คนจะมากันอย่างไร อยู่กันตรงไหนไปว่ากันอีกที ก็ต้องไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะรัฐมนตรีเรามีอยู่จำนวนแค่นี้ ถ้าเข้ามาแล้วขอตำแหน่งรัฐมนตรีเลย แล้วจะทำอย่างไร คนเก่าจะไปอยู่ที่ไหน มันต้องไปคุยและตกลงกันก่อน เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะไปคุยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
“ไม่รู้ ใครพูด ไม่มีกระแสข่าว ไม่มี” พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกระแสข่าวริบเก้าอี้ รมต. จาก ปชป.

แม้จะมีการทานข้าวกระชับมิตรสยบเกาเหลาในพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรคแกนนำ ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย แต่ดูแล้วรอยร้าวลึกๆยังคงมีอยู่ตามวิถี ‘นักการเมือง’ ที่วันนี้ ‘บิ๊กตู่’ ก็ไม่ปฏิเสธแล้วว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมือง แต่ก็สงวนท่าทีย้ำถึงหลักการของตนเอง หลังสื่อถามว่าวันนี้เป็นนักการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์แล้วหรือไม่ ? โดยที่ผ่านมาเคยย้ำถึงการเป็น ‘ทหารเก่า’ อยู่เรื่อยๆ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมวิญญาณทหารเก่าทวงสัญญาลูกผู้ชายและสุภาพบุรุษจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่าการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องร่วมรัฐบาลจริงๆ
.
“จะบอกว่าไม่ใช่ ก็ไม่ใช่มั้ง แต่ผมก็มีหลักการของผม ไม่ใช่จะการเมืองอย่างเดียว การเมืองจะต้องครอบคลุมในเรื่องของการมีธรรมาภิบาล เป็นผู้นำที่มีหลักการ ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำเพื่อการเมืองอย่างเดียว ถ้าทำเพื่อการเมืองอย่างเดียว ประเทศชาติก็ติดหล่มเหมือนเดิม เพราะปัญหามีมากมาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
แต่สิ่งที่ ‘บิ๊กตู่’ ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือบรรดาพรรคการเมืองต่างๆที่มี ‘จุดยืน’ ของตัวเอง หรือที่ต่างเรียกกันว่า ‘อุดมการณ์พรรค’ ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล โดย ‘บิ๊กตู่’ ก็เข้าใจถึงจุดนี้ดี แต่ก็เสริมมาว่าจะต้องมี ‘อุดมการณ์ชาติ’ ควบคู่กันด้วย เพราะอุดมการณ์พรรคอย่างเดียวไม่พอ

ซึ่งก็รับกับกระแสข่าวจากที่ประชุม ครม. เมื่อ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลัง ‘บิ๊กตู่’ ลั่นกลางที่ประชุมว่า “เมื่อเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันแล้ว ไม่ใช่อยู่ดีๆคิดจะทำอะไรก็ทำ ถ้าผมอยู่ไม่ได้ พวกคุณก็อยู่ไม่ได้”
.
ส่วน ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็มีรายงานว่าได้กล่าวด้วยท่าทีแข็งกร้าวว่า “ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ผมก็ช่วยดูแลบ้านเมือง ทำไมมาตอนนี้พวกผมชวนมาเป็นรัฐบาล ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ทำแบบนี้ รู้ไหมบ้านเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร”
.
จากนั้นเมื่อถึงช่วงพักเบรกที่ประชุม ครม. ‘บิ๊กตู่’ ได้เรียก ‘อุตตม สาวนายน’รมว.คลัง ในฐานะ หน.พรรคพลังประชารัฐ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะแกนนำ พปชร. ‘ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ’รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะ รองหัวหน้า พปชร. ‘จุติ ไกรฤกษ์’รมว.พัฒนาสังคมฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการพูดคุยกันต่อ
.
โดย นายกฯ กล่าวว่า “ถ้าการประชุมสภาพรุ่งนี้ล่มอีก อย่างเบาก็ปรับครม. อย่างหนักคือยุบสภาฯ” จนทำให้กระแส ‘ขู่-คำราม’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ สะเทือนไปทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และ ครม. ซึ่งสุดท้ายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องออกมาสยบกระแสกึ่งยอมรับ ตรงกับที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวไว้เช่นกัน
.
“วันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปโน่นไปนี่ แม้กระทั่งการยุบสภาอะไรต่างๆ ผมยังไม่ได้คิดตรงนั้น เพียงแต่ถามดูว่าแต่ก่อนเขาทำกันอย่างไร เรื่องเหล่านี้ก็แค่นั้นเอง ผมไม่ได้ไปประกาศว่าจะทำอะไร มันประกาศไม่ได้เรื่องเหล่านี้ มันเสียไปทั้งหมด ความมั่นใจของต่างประเทศก็เสีย อย่าไปเขียนแบบนั้น ผมคงไม่โง่พอที่จะไปพูดเรื่องเหล่านี้ในสื่อในอะไรต่างๆ มันไม่ได้ เราต้องรักษาสภาพให้ได้มากที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
“นายกฯ ไม่ได้ขู่ว่าจะปรับ ครม. แต่พูดว่าถ้าดำเนินการไม่ดี ก็ต้องปรับครม. และเตรียมยุบสภา โดยนายกฯพูดแบบนี้ ยืนยันว่าเราคุยกันรู้เรื่องตลอด” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ตอกย้ำภาพ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ในการเป็นแกนหลักของรัฐบาลมากขึ้น โดยเฉพาะหลังดินเนอร์ 18 พรรคร่วมรัฐบาล ที่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึง ‘พี่ป้อม-พล.อ.ประวิตร’ และ ‘พี่ป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์’ ที่เปรียบได้ว่ามีวันนี้เพราะพี่ทั้ง 2 คน และชี้ให้เห็นว่าทั้ง ‘2ป.ป้อม-ป๊อก’ คือ ‘ลมใต้ปีก’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แท้จริง
.
“นี่คือ 3 ป. มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ไม่มี 3ป. เราจะทำอะไรได้ 2 คนนี้คือลูกพี่ฉัน สอนฉันให้เป็นคนดี สอนฉันให้ทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง จะทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ถ้าไม่มีพี่ทั้ง 2 คน พี่ป๊อก และ พี่ป้อม ฉันก็มีวันนี้ไม่ได้ ทุกอย่างไม่มีเพื่อตัวฉัน แต่เพื่อประเทศไทยเข้าใจหรือยัง ทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหมดจะเดินหน้าเพื่อประเทศไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
ไม่มี 3ป. เราจะทำอะไรได้ !!