วอชเชอร์ : เปลือยความคิด “อภิรัชต์ คงสมพงษ์” ผ่านคำสัมภาษณ์สื่อต่างชาติ

สื่อต่างประเทศชื่อดังอย่างรอยเตอร์ส ได้เผยแพร่คำสัมภาษณ์ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและ 1 ใน 250 สมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง กลุ่มข้าราชการในตำแหน่งเหล่าทัพ

เป็นข้าราชการพ่วงตำแหน่งทางการเมืองไม่กี่คน ที่ออกมาแสดงความเห็นถึงการเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ ในสากล เจ้าหน้าที่ทางการไม่ว่าตำแหน่งอะไรหรือสูงต่ำแค่ไหน ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง

แต่ก็ทำให้เห็นว่า ผู้นำสูงสุดของกองทัพบกคนนี้ มีมุมมองต่อสิ่งต่างๆที่ น่าเป็นห่วง ทั้งวิธีคิดและทัศนคติ เหมือนอยู่จักรวาลคู่ขนาน

 

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า กองทัพไทยกำลังต่อสู้ใน “สงครามลูกผสม” ที่ปะทุขึ้น โดยเฉพาะข่าวปลอมที่ผลิตขึ้น และมีบางพรรคการเมืองที่เกิดใหม่เพียงปีเศษ ใช้พื้นที่ออนไลน์ สร้างโฆษณาชวนเชื่อไปยังคนรุ่นใหม่อายุ 16-17 ปี โดยพยายามให้ข้อมูลที่เป็นข่าวปลอม

แม้ไม่ได้ระบุชื่อพรรคการเมืองนี้ตรงๆ ก็รู้แล้วว่า เป็นพรรคอนาคตใหม่ แน่นอน เพราะฐานเสียงส่วนใหญ่ของพรรคนี้ คือคนรุ่นใหม่ และเป็นพรรคที่ชูนโยบายอันแหลมคมต่อฐานอำนาจของกองทัพและชนชั้นนำ

แต่เพียงเท่านี้ ก็ทำให้เห็นแล้วว่า ผู้บัญชาการทหารบกมีท่าทีไม่เป็นมิตรต่อพรรคการเมืองใหม่มากแค่ไหน

 

อีกทั้ง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่ากองทัพกำลังต่อสู้ในสงครามที่คล้ายกับช่วงต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์ในยุค 2513-2523 เพียงแต่ความท้าทายตอนนี้คือ โฆษณาชวนเชื่อบนโลกออนไลน์

คำกล่าวนี้ เป็นการหยิบยกที่ผิดฝาผิดตัวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งน่าเป็นห่วง ยิ่งคนที่พูดคือผู้ที่มีอำนาจกำหนดวิสัยทัศน์ของกองทัพทั้งประเทศด้วยแล้ว ยิ่งน่าห่วงเอามากๆ

ไม่นับตอนแนะนำให้ชม หนังเน็ตฟลิกซ์อย่าง The Great Hack ที่ชี้ว่าต้องรู้ทันนักการเมืองใช้โซเชียลมีเดียสร้างกระแสนิยม ที่พุ่งเป้าเยาวชนให้หลงเชื่อโดยไม่รู้ตัว

ทั้งที่จริง ปฏิบัติการข่าวสาร หรือ “ไอโอ” บนโซเชียลโดยหน่วยข่าวกองทัพ ก็ทำเพื่อจุดประสงค์นี้เหมือนกัน

 

ส่วนประเด็นกองทัพจะรัฐประหารอีกหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ ยืนยันว่าตราบใดที่อยู่ในตำแหน่งนี้ ก็จะไม่ยอมให้กองทัพล้ำเส้นเป็นอันขาด เพราะผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว กองทัพต้องถอยออกมา และไม่มีการโค่นอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ได้

หากยังจำกันได้ ผู้บัญชาการทหารบกคนเดียวกันนี้ เคยเชิญสื่อต่างชาติหลายสำนักมาสัมภาษณ์ เมื่อเมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า จะรัฐประหารหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พร้อมย้ำว่ากองทัพวางตัวเป็นกลาง กองทัพไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

เห็นความต่างอย่างนี้แล้ว ยิ่งต้องติดตาม การเดินหมากการเมืองของ ผู้บัญชาการทหารบก คนนี้ ชนิดไม่ให้คลาดสายตา