วอชเชอร์ : ประเดิม เสียงปริ่มน้ำ ตัวพลิกเกมส์สภา

การประชุมสภาเมื่อวานนี้ กลายเป็นที่จับตามอง ถึงปรากฎการณ์ “เสียงปริ่มน้ำ” ในการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในข้อที่ 9 ว่าด้วยการทำหน้าที่ของประธานสภาฯ จะต้องวางตัวเป็นกลาง

ตามด้วยการอภิปรายเชือดเฉือนกันไปมาระหว่างพรรคฝ่ายค้าน กับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และพรรคฝ่ายรัฐบาลเป็นประปราย ก่อนจบด้วยการลงมติ ฝ่ายค้านได้เสียงข้างมาก 205 ต่อ 204 เสียง

เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดสภาที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน โหวตชนะส.ส.ฝ่ายรัฐบาล

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า งานนี้เป็นผลมาจาก 5 ส.ส.ของ 5 พรรคขนาดจิ๋ว ประกาศถอนตัวจากการร่วมพรรคฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะการประโคมออกสื่อของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ โหวตสวนฝ่ายรัฐบาล จนปรากฎเป็นที่ประจักษ์กลางสภาแล้วเมื่อวานนี้

แม้เป็นที่ชอบใจของบรรดาคอการเมือง เมื่อเห็นฝ่ายรัฐบาลแพ้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรคเกียน และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ อดีตนิวเดม ค่ายประชาธิปัตย์ ยังคงมองด้วยสายตาไม่น่าไว้วางใจได้ในขณะนี้

แม้กลับใจยกอุดมการณ์ย้ำจุดยืนแค่ไหน แต่ท่าทีเชิงต่อรองผลประโยชน์นั้น พร้อมพลิกกลับไปมาได้เสมอ

 

เหตุการณ์เสียงปริ่มน้ำจนฝ่ายค้านชนะนี้ คนที่ลำบากคงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องประคับประคอง เอาอกเอาใจ ส.ส.พรรคร่วม ที่ต่างเข้ามาพร้อมเงื่อนไขอยากได้ประโยชน์ในตำแหน่งต่างๆ

การถอนตัวของ 5 ส.ส. จึงเป็นการสาธิตพลังเสียงปริ่มน้ำ ที่ทำให้เกมส์การต่อรอง ล็อบบี้นอกห้องประชุมสภา ดุเดือดเลือดพล่านจนอาจมีเหงื่อตกกันไปข้าง

แต่ถึงอย่างนั้น การมีส.ส.ที่พร้อมพลิกข้างไปมาตามผลประโยชน์ ต่อให้มีบทบาทสำคัญยังไง ก็ไม่ใช่บุคคลที่น่าเอามาร่วมหัวจมท้ายด้วย