ขอบคุณข้อมูลจาก | อาชญา ข่าวสด |
---|---|
ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 ธันวาคม 2559 |
คอลัมน์ | อาชญากรรม |
เผยแพร่ |
เป็นคดีที่ยืดเยื้อยาวนาน สำหรับการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปจับกุมตัวในวัด หลังมีศิษยานุศิษย์ปักหลักสวดมนต์อยู่ภายใน จนต้องยืดเยื้อมานานกว่าครึ่งปี
จนมาถึงจังหวะที่อัยการสั่งฟ้องคดีเงินสหกรณ์ ขณะที่ศาลอนุมัติหมายจับอีก 2 หมายในคดีบุกรุกป่า เรื่องจึงกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง
ดังจะเห็นมาตรการรุกคืบของเจ้าหน้าที่ที่เตรียมกำลังไว้ถึง 7 กองร้อย พร้อมบุกเข้าปฏิบัติการ
พร้อมกับขอให้ กสทช. ปิดทีวีธรรมกาย โดยอ้างว่ายุยงให้เกิดการชุมนุมขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
ขณะที่อีกฝ่ายยังตอบโต้ พร้อมยืนยันว่าพระธัมมชโยอาพาธอยู่ในวัดจริงๆ
จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไปว่าเรื่องนี้จะมีจุดจบอย่างไร
ลุยอีกรอบ-จ่อจับธัมมชโย
ยังคงไม่ถึงบทสรุป สำหรับคดีของพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ถูกศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ในคดีเช็กสั่งจ่ายของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่บริจาคให้วัดพระธรรมกาย 21 ครั้งเป็นเงิน 1.2 พันล้านบาท
โดยครั้งนั้นดีเอสไอขีดเส้นให้ต้องมามอบตัวภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 แต่สุดท้ายเมื่อเจ้าหน้าที่ไปรอที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายมอบตัว พระธัมมชโยกลับไม่เดินทางมา โดยระบุว่ามีอาการอาพาธ
มีเพียงพระสงฆ์ 2,000 กว่ารูปเดินทางมาให้กำลังใจเท่านั้น แถมยังมีการวางเครื่องกีดขวางทางเข้าออกอย่างแน่นหนา ทำให้ดีเอสไอไม่สามารถจับกุมตัวพระธัมมชโยได้ ทำได้เพียงส่งเฮลิคอปเตอร์บินวนตรวจตรา เพื่อหาโอกาสเข้าจับกุมตัวให้ได้
หลังจากเงียบหายไปร่วมครึ่งปี ก็กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้งเมื่อ ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ระบุว่า อัยการสั่งฟ้องคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีพระธัมมชโย เป็นผู้ต้องหาที่ 2 ฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359, 83
พร้อมแจ้งให้ดีเอสไอดำเนินการจับกุมมาส่งให้อัยการดำเนินการต่อไปภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันที่กระทำผิด คือเดือนมกราคม 2552
โดยก่อนหน้านี้พระธัมมชโย ยังถูกศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2559 ในข้อหาร่วมกันยึดครอบครองเพื่อทำประโยชน์ อยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำโดยประการใด อันเป็นการทำลายป่า และเป็นการเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังพบว่ามีการออกเอกสาร นส.3 ก. ของสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย อันเป็นเท็จ รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ เนื้อที่รวม 129 ไร่
นอกจากนี้ ศาลจังหวัดสีคิ้ว ยังอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย ในความผิดร่วมกันสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี กรณีก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ เขาใหญ่
ถือเป็น 3 คดีหลักที่พระธัมมชโยต้องเผชิญ
ตร.ฮึ่มจับ-ปิดทีวีธรรมกาย
หลังคดีคืบหน้า ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และตำรวจต้องติดตามจับกุมพระธัมมชโย ตามหมายจับ เพื่อดำเนินคดี โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เผยว่า เตรียมกำลังสนับสนุนตามที่ดีเอสไอร้องขอไว้ 6-7 กองร้อย ทั้งทีมแพทย์ พยาบาล อีโอดี เจ้าหน้าที่สื่อสาร สุนัขตำรวจ และเฮลิคอปเตอร์ เตรียมเข้าปฏิบัติหน้าที่ทันที
พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยื่นศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้พิจารณาออกหมายจับพระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหาหลบซ่อนตัว ตาม ป.อาญา มาตรา 189 และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 เนื่องจากให้การช่วยเหลือพระธัมมชโย
อย่างไรก็ตาม ศาลก็ยังไม่อนุมัติหมายจับ แต่ให้ออกเป็นหมายเรียกมาให้ปากคำแทน
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้นานแล้ว อยากให้จบได้แล้ว ต้องได้ตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดี เพราะให้โอกาสนานแล้ว เป็นพระก็ต้องสวด เป็นตำรวจก็ต้องจับ
“คดีนี้ต้องจบก่อน 3 เดือน หากจับกุมดำเนินคดี ก็จะไม่ให้ประกันตัว เพราะให้โอกาสแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ติดต่อเข้ามา ส่วนจับได้แล้วต้องสึกหรือไม่ ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.สงฆ์ อยู่แล้ว”
ขณะที่ดีเอสไอ โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำหนังสือถึงเลขาธิการ กสทช. เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 เพื่อขอให้สั่งปิดสถานีโทรทัศน์วัดพระธรรมกาย (DMC) เป็นการชั่วคราว ระหว่างที่กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณากำหนดแผนเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา
โดยให้เหตุผลว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมคราวที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์วัดพระธรรมกายเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ปรากฏต่อบุคคลทั่วไป เชิญชวนเรียกร้องให้บุคคลที่มีความเชื่อถือและศรัทธาต่อวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย รวมตัวกันเพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนา
แต่มีวัตถุประสงค์แท้จริงเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่ ช่วยเหลือไม่ให้ผู้ต้องหาถูกจับกุมไปดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมือง อันเข้าข่ายมีพฤติการณ์กระทำความผิดอาญาบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อย
หากปล่อยปละให้สถานีโทรทัศน์วัดพระธรรมกายเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายเป็นการชักชวน ยุยง เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินต่อไปอาจก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่จนเกิดเหตุรุนแรงและเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐได้
ส่งผลให้ กสทช. เรียกประชุมด่วนในวันที่ 7 ธันวาคม จากนั้น นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ หนึ่งในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง ยืนยันว่า คณะกรรมการประชุมและมีมติ สั่งปิดสถานีโทรทัศน์ ช่อง DMC ตาม ม.64 พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และตามประกาศ คสช. ฉบับ 97 โดยเห็นว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสม เป็นเวลา 15 วัน
เป็นมาตรการรุกคืบของเจ้าหน้าที่รัฐ
วัดแถลงโต้-ยันหลวงพ่ออาพาธ
ด้านวัดพระธรรมกาย โดย พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกเอกสารข่าวตอบโต้ทันควันในวันที่ 7 ธันวาคม ยืนยันว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์ DMC ไม่มีการยุยง สร้างความปั่นป่วนแต่ประการใด
ทั้งนี้ สถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อพระพุทธศาสนาผ่านดาวเทียม ช่อง DMC เป็นโครงการเผยแผ่ธรรมะ 24 ชั่วโมง ก่อตั้ง 9 พฤษภาคม 2545 กว่า 14 ปี เผยแพร่ใน 4 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ผ่านเว็บไซต์และดาวเทียม 7 ดวง ครอบคลุมทุกทวีป เนื้อหารายการประกอบด้วย พุทธประวัติ, ชาดก, สมาธิเบื้องต้น, กิจกรรมเยาวชนเก่งและดี, ละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก, ธรรมะภาษาอังกฤษและจีน, การเผยแผ่พุทธศาสนาในต่างแดน, ถามตอบปัญหาธรรมะ เป็นต้น และเคยได้รับรางวัลการันตีแล้ว 5 รางวัล
จึงขอปฏิเสธข้อกล่าวหาอันขาดรายละเอียด และหลักฐานยืนยันใดๆ พร้อมขอเรียกร้องความเป็นธรรม หากมีความเชื่อว่าทางสถานีมีพฤติการณ์ตามที่มีการกล่าวหา ขอให้ผู้กล่าวหาได้ระบุพฤติการณ์นั้นๆ ให้ชัดเจน ไม่คลุมเครือ เพราะการกล่าวหาลอยๆ นำมาสู่ความเสื่อมเสียชื่อเสียงของสถานี เป็นอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมาทางสถานียึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมาย และจริยธรรมสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด จุดยืนของสถานี คือ มุ่งส่งเสริมการศึกษาศีลธรรม ร่วมสร้างวิถีแห่งการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นสื่อกลางในการน้อมนำธรรมะของพระพุทธองค์มาเป็นเครื่องมือสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นแก่บุคคล สังคม และประเทศชาติ
ไม่ได้มีพฤติการณ์อันเป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อย หรือเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายเป็นการชักชวน ยุยง เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ขณะนี้ทางสถานีกำลังเตรียมยื่นคัดค้านการระงับเผยแพร่ภาพและเสียง ทั้งนี้ การกระทำของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ถือว่าขัดกับหลักเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีกรณีข่าวลือว่าพระธัมมชโย หนีออกจากวัดไปก่อนหน้านี้ แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ยืนยันว่า จากการข่าวแล้วพระธัมมชโยยังไม่ไปไหน จำวัดอยู่ในวัดพระธรรมกายแน่นอน
นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกวัดพระธรรมกาย ยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ที่วัด ยังรักษาอาการอาพาธอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการเดินทางออกนอกประเทศอย่างที่เป็นข่าวตามที่สื่อบางสำนักออกข่าว สำหรับที่ไม่ได้เดินทางไปมอบตัวตามที่เจ้าหน้าที่ประสานมา ก็เพราะรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัด
เป็นอีก 1 มหากาพย์ที่ต้องติดตามดูว่าจะมีบทสรุปอย่างไร