เชิงบันไดทำเนียบ : ‘บิ๊กตู่’ โลกสองใบ ‘ทักษิณ’ โลกคู่แฝด – สภาวะ ‘คบซ้อน’ บัญชีนายกฯพรรค

กระแสโลกสองใบหากเปรียบกับการเมืองไทยจะเห็นได้ชัด ระหว่างโลกของ ส.ส. และ ส.ว. แม้ต่างที่มาแต่ต้องอยู่ในสภาเดียวกัน และต้องใช้อำนาจร่วมกันในสถานการณ์การได้มาซึ่ง ‘นายกฯคนนอก’ หาก ส.ส. ไม่สามารถเลือกนายกฯในบัญชีพรรคได้ ที่มาของ ส.ส. มาจากการเลือกตั้ง แต่ ส.ว. มาจากการเลือกโดย คสช.
.
หลัง ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ตั้งพี่เลิฟ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่เป็นพี่ใหญ่คสช. นั่งเป็น ปธ.คณะกรรมการสรรหา ส.ว. ในการจัดทำรายชื่อไม่เกิน 400 คน ให้ คสช.พิจารณาเหลือ 194 คน โดยอีก 50 คนมาจากที่ กกต. สรรหามาจากกลุ่มอาชีพต่างๆ 200 คน แล้วเลือกกันเองเหลือ 50 คนนั่นเอง ส่วนอีก 6 คน คือ ปลัดกลาโหม-ผบ.เหล่าทัพ ที่เป็นโดยตำแหน่ง ซึ่งสุดท้ายต้องผ่านสายตา ‘บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่’ ทั้งหมดอยู่ดี

ดังนั้นภาพ ส.ว. 250 คน จึงเป็น ‘โลกใบหนึ่ง’ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีในอนาคต ถือเป็นโลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ พึงปรารถนา อย่างน้อยๆก็เป็นคนที่คุมได้ แต่ก็ต้องเผื่อใจว่าหากเวลาผ่านไปอาจเป็น ‘งูเห่า’ ได้เช่นกัน เพราะ คสช. อยู่มาเกือบ 5 ปี จะเห็นได้ว่าคนที่เคยหนุน คสช. ก็ต่างออกมาโจมตี ตรงตามแรงสะกิดของ ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปธ.องคนมนตรี ที่เคยบอกกับ ‘บิ๊กตู่’ ว่า “กองหนุนลดลง” ตั้งแต่ปลายปี60
.
ส่วนโลกอีกใบที่ถือเป็น ‘โลกแห่งความเป็นจริง’ คือ ส.ส. ที่มาจากหลากหลายพรรค หาก ‘บิ๊กตู่’ ได้รับเลือกเป็น นายกฯ ต่อ ก็จะเจอกับ ‘แรงเสียดทาน’ จากขั้วการเมืองต่างๆ อีกทั้งไม่มีดาบอาญาสิทธิ์ ม.44 ใช้เป็นเครื่องมือฝ่าทางตันต่างๆอีกแล้ว หลายพรรคถึงกับขู่ ‘บิ๊กตู่’ มาแล้วว่าไม่ง่าย รออภิปรายโต้ตอบในสภาแล้ว แต่โลกใบนี้อาจไม่โหดร้ายไปเสียหมด หากพรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งได้เก้าอี้ในสภาสูงพอที่จะ ‘ต่อรอง’ ในสภา และพิทักษ์ปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ ไปพร้อมๆกัน
.
ไม่ใช่แค่ ‘บิ๊กตู่’ มีโลกสองใบ แต่อีกขั้วการเมืองก็มี ‘โลกสองใบ’ เช่นกัน แถมเป็น ‘โลกคู่แฝด’ ระหว่าง ‘เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ’ ทั้งแบรนด์พรรคและผู้ที่ไปอยู่กับพรรค ถูกวิจารณ์หนักว่าเป็น ‘ระบอบทักษิณรุ่นลูก-หลาน’ และแกนนำหลายคนก็ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทยด้วย ตามยุทธการแตกแบงค์พันเป็นร้อยของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ รับมือกับระบบเลือกตั้งตาม รธน.60 ที่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ถูกคิดมาจากคะแนน ส.ส.ในแต่ละเขต ที่ทุกพรรคต่างหวัง ‘คะแนนเทน้ำทิ้งน้ำ’ ตรงนี้ด้วย แต่โลกใบที่สองของ ‘ทักษิณ’ จะแตกหรือไม่ อย่าได้กะพริบตา 7 มี.ค.นี้ พรรคไทยรักษาชาติจะถูกยุบหรือไม่ ?

ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ ‘โลกสองใบ’ แต่ยังมีเรื่อง ‘คบซ้อน’ ของบัญชีนายกฯ ในสองขั้วการเมือง ทั้งสถานะของ ‘บิ๊กตู่’ ที่มีหมวกอยู่ถึง 3 ใบ ทั้งเป็น หัวหน้าคสช. นายกฯ และแคนดิเดตนายกฯพรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมา ‘บิ๊กตู่’ ยืนยันมาตลอดว่าไม่ลาออกจาก หัวหน้าคสช. ในการมาลงสนามการเมือง
.
หลังเคยมีกระแสข่าวว่าจะมอบให้ ‘บิ๊กป้อม’ มาเป็น หัวหน้า คสช. แทน แต่ก็ถูกปัดตกไป มาเป็น ปธ.คณะกรรมการสรรหา ส.ว. แทน ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘บิ๊กป้อม’ มีคอนเนคชั่นจำนวนมาก จึงต้องดูหน้าตา 250 ส.ว. ชุดนี้จะเป็นอย่างไร จะกู้ศักดิ์ศรีกลับมาได้หรือไม่ แม้จะมาจากการแต่งตั้งโดย คสช. ให้คนกลางๆในสังคมยอมรับได้บ้าง

แต่มีการไปยื่น กกต. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ว่าตำแหน่ง ‘หัวหน้าคสช.’ ว่าเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ซึ่ง ‘วิษณุ เครืองาม’รองนายกฯ ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ป.ป.ช.เคยมีมติปี57 ว่า คสช.เป็น ‘ตำแหน่งพิเศษ’ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ มีตำแหน่ง หัวหน้าคสช. จึงไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่ขาดคุณสมบัติในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตาม รธน.60 มาตรา 98
.
อย่างไรก็ตาม พรรคขั้วต้าน คสช. ที่โจมตีปรากฏการณ์ ‘นายกฯคนนอก’ มาตลอด เพื่อดิสเครดิตความชอบธรรมพรรคหนุน ‘บิ๊กตู่’ แต่กลับเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯที่ไม่ได้อยู่ในบัญชี ส.ส. ออกมา จึงเกิดแรงตีกลับมายังพรรคขั้วต้าน คสช. ไม่น้อย เช่นในกรณีพรรคเพื่อไทยที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯทั้งในและนอกบัญชีส.ส. โดยเฉพาะชื่อ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีส.ส.ทั้งเขตและปารืตี้ลิสต์ จึงเป็นสภาวะ ‘คบซ้อน’ ของพรรคเพื่อไทยเองด้วย ที่ไม่ต่างจากที่ ‘บิ๊กตู่’ ควบ 3 ตำแหน่งในเวลานี้