ย้อนกลับไปสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่ ‘อุตตม สาวนายน’หน.พลังประชารัฐ จะนำแกนนำพรรคไปเทียบเชิญ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. มาลงบัญชีนายกฯของพรรค เมื่อ1ก.พ.ที่ผ่านมา ‘บิ๊กตู่’ นำ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รอง 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ ‘บิ๊กฉัตร’พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ เพื่อนตท.12 มาดื่มชาและขนม หลังเปิดงานในห้างดัง ถือเป็นครั้งแรกๆที่ พล.อ.ประยุทธ์ ผ่อนคลายกับอิริยาบถแบบนี้
.
“ตั้งแต่ผมเป็นแม่ทัพภาค 1 ก็ไม่เคยมานั่งอะไรในที่แบบนี้ เพราะไปไหนลำบาก รปภ. ที่ตามไปด้วยก็เยอะ แม้วันหยุดก็ไม่ได้พาครอบครัวไปเที่ยวไหน ทุกวันนี้เลิกงานก็กลับบ้าน มีไปตีกอล์ฟบ้าง ผมเป็นคนชอบทานของหวานเพราะทานข้าวไม่ค่อยได้ พอทานของหวานแล้วก็รู้สึกดีขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 29ม.ค.62
.
ถือเป็นท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ ที่เริ่ม ‘ผ่อนคลาย’ ตัวเอง ท่ามกลางการจับตาว่าจะลงบัญชีนายกฯพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะมีการประเมินสถานการณ์ ‘ความเสี่ยง’ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเจอเมื่อเลือกที่จะลงสนามการเมือง รวมทั้งกระแสกดดันให้ ‘ลาออก’ จากตำแหน่ง ‘นายกฯ-หัวหน้าคสช.’ หากลงสนามการเมืองด้วย ถือเป็น 2 คำถามที่ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงท่าทีเบื่อหน่ายที่ต้องตอบสื่อบ่อยครั้ง ด้วยความไม่ชัดเจนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีท่าที ‘แท๊งกั๊ก’ ในหลายๆเรื่องตอนนั้น

จนมาถึงการแถลงผลงานรัฐบาล 1ก.พ. ยาว 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้เวลา 10 นาทีสุดท้าย หลังได้เตรียมเอกสารมาตอบสิ่งที่สื่อจี้ถามมาตลอด โดยระบุว่าตนไม่ลาออก เพราะไม่มีกฎหมายใดให้ต้องลาออก รวมทั้งแจงแทน 4 อดีตรัฐมนตรีที่ไปทำพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ต้องลาออกเช่นกัน แต่ที่ลาออกเพราะต้องการไปทำงานการเมือง พร้อมย้อนรัฐบาล ‘อภิสิทธิ์ – ยิ่งลักษณ์’ ก็ไม่ได้ลาออกเช่นกัน รวมทั้งระบุถึงความพ่ายแพ้ของ ‘พรรคประชาธิปัตย์-อภิสิทธิ์’ เลือกตั้งปี54 ที่ใช้ว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะ ‘ได้เปรียบ’ ทางการเมือง
.
“อย่าไปไล่ล่ากันมากนัก พอไล่คนนี้แล้วลาออก แล้วเดี๋ยวมาไล่นายกฯออก ก็กฎหมายว่าอย่างนี้ มึงมาไล่ดูสิ ไล่ให้ได้สิ ผมไม่ท้าทาย แต่ไม่ออก การที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แพ้การเลือกตั้งปี 54 ในการแข่งกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำไมแพ้ล่ะ เป็นรัฐบาลหรือเปล่า ทำไมแพ้ แสดงว่าการเป็นรัฐบาลไม่น่าจะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นมาแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับรัฐบาลมีผลงานหรือไม่ หากไม่มีประชาชนก็ไม่เลือกอยู่แล้ว ก็ไปหวังในสิ่งใหม่ๆ ที่เขาพูดออกมาจริงบ้างไม่จริงบ้าง นั่นคือการเมืองไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 1ก.พ.62
.
จากการจับคำในเวลานั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นคำสบถ ถูกมองว่ามีอะไรอยู่ในใจหรือไม่ และมีการมองว่าพรรคพลังประชารัฐจะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่ รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จะลงหลังเสือหรือขี่เสือต่ออย่างไร หนทางนับจากนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ เหนื่อยไม่น้อยและทางเลือกใดก็เสี่ยงทั้งนั้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยแง้มมาแล้วว่าจะอยู่ในบัญชีพรรค จะได้ไม่ต้องพูดไปถึง นายกฯคนนอก

มาถึงสัปดาห์ที่มีกระแสช่าว ‘บิ๊กเซอร์ไพรส์’ รับเดือนก.พ.62 และท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ ที่หลายคนจับตาว่าจะตอบรับหรือไม่ โดยยังคำย้ำว่ามีเวลาตัดสินใจถึง 8ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ทุกอย่างก็ทำให้กลับมาฉุกคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปอย่างไรต่อ เพราะได้ระบุว่า ‘เผื่อใจ’ เช่นกัน หากไม่ได้เป็นนายกฯต่อ หลังสื่อถามเผื่อใจหรือไม่ ท่ามกลางข่าวพรรคพลังประชารัฐที่มีปัญหาภายในในการจัดลำดับ ‘ปาร์ตี้ลิสต์’ โยงมาถึง ‘บิ๊กตู่’ ว่าไม่ปลื้มเพราะมีนักการเมืองและคนมีคดีติดตัวอยู่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกมาปฏิเสธและย้ำว่าตนตัดสินเพียงจะรับลงบัญชีนายกฯหรือไม่ และดูเพียงนโยบายเท่านั้น
.
“ผมเผื่อทุกเรื่อง ผมพร้อมทุกอย่างจะทำอะไรก็ได้” พล.อ.ประยุทธ์ 5ก.พ.62
.
มาพร้อมกระแสข่าว ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ‘พี่ใหญ่ คสช.’ เดินทางไปต่างประเทศออกมาด้วย ซึ่ง พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ก็ได้ปฏิเสธกระแสข่าวนี้ โดยระบุว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ทราบ และไม่มีกำหนดการไปต่างประเทศในช่วงนี้ โดยช่วง 6-8ก.พ.ที่ผ่านมา สื่อไม่ได้เจอและไม่มีหมาย พล.อ.ประวิตร เลย และเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ที่ ‘บิ๊กป้อม’ งดพูดคุยกับสื่อและทำงานเงียบๆ สื่อสารผ่านโฆษกแทน
.
จนมาถึง 2 วันสุดท้ายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องตัดสินใจ ก็พบว่าไม่มีกำหนดการใด ซึ่ง ‘บิ๊กตู่’ก็เข้าทำเนียบฯตามปกติ แต่ 7ก.พ.ช่วงเที่ยง ได้นำ ‘บิ๊กอ้อ’พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ เพื่อนตท.12 และทีมงานหน้าห้อง มาทานอาหารมื้อกลางวันที่ตลาดนางเลิ้ง โดยมีการมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีที่ผ่อนคลายกว่าที่ผ่านมา จึงสะท้อนว่าอาจได้ตัดสินใจบางสิ่งได้แล้ว
.
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เองก็แง้มคำตอบบางอย่างออกมาก่อน 1 วัน ส่วนคำตอบจะลงบัญชีนายกฯหรือไม่ จะตัดสินใจ 8ก.พ. ช่วง 9-10 โมง ซึ่งตรงกับช่วงพรรคไทยรักษาชาติไปยื่นรายชื่อแคนดิเดทนายกฯพอดี แถมมีเหตุการณ์ทั้ง ‘อุตตม – รองนายกฯสมคิด’ ถอยไม่ลงบัญชีนายกฯพรรค เพื่อหนุน พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวด้วย
.
“ทุกคนจะต้องร่วมกันทำสิ่งใหม่ ทำในสิ่งที่ดีขึ้น หลายอย่างต้องดูในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ใครไม่มีความผิดอะไรต่างๆ มันก็ร่วมได้หมด เพราะเราก็เป็นมิตรกับทุกพรรค ไม่ให้ร้ายใคร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 7ก.พ.62
.
จนมาถึง 8ก.พ.62 ‘บิ๊กเซอร์ไพรส์’ก็เป็นจริง หลัง ‘พรรคไทยรักษาชาติ’ ยื่นบัญชีแคนดิเดทนายกฯ ผ่านไปไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกสารนายกฯ ยินยอมลงบัญชีนายกฯพรรคพลังประชารัฐ โดยในช่วงบ่าย ‘อุตตม’ ได้นำแกนนำพรรคมายื่นบัญชีนายกฯที่ กกต. พร้อมยืนยันเดินหน้าต่อเต็มที่ และไม่ขอตอบถึงกรณีการเสนอบัญชีนายกฯของพรรคไทยรักษาชาติ

อย่างไรก็ตามคนในพรรคพลังประชารัฐ ขณะอยู่ที่ กกต. ก็ไม่ได้แสดงท่าทีวิตกกังวลใดๆ รวมทั้งเชื่อมั่นในการชูชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกฯ ต่อไป จบด้วยช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ ทำท่าเก๊กหล่อ-ยิ้มให้กล้อง หลังลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ โดยไม่ได้พบกับสื่อมาตลอดทั้งวัน ถือเป็นท่าทางที่ ‘ผ่อนคลาย – มั่นใจในตัวเอง’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างชัดเจน