(S)election : “ปรียนันท์ สุวรรณคีรี” รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ หนุ่มนักผจญภัยจากสงขลา สู่สานฝันทุกฝ่ายทำเพื่อ ปท.

อิสราชัย จงภัทรนิชพันธ์ / รายงาน

จัดเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่มานิ่งๆ ไม่ค่อยเป็นกระแสข่าว ท่ามกลางพรรคใหญ่ที่ครองหน้าสื่อ

แต่การประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 3/2561 เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยใช้พื้นที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้แสดงให้เห็นถึงคนสนับสนุนจำนวนมหาศาล

พรรคเพื่อชาติก็มีคนรุ่นใหม่เหมือนกันมาร่วมลงการเมือง ท่ามกลางหลายพรรคที่เปิดตัวคนรุ่นใหม่มาร่วมสร้างประเทศในอนาคต

“ปรียนันท์ สุวรรณคีรี” หรือแมท นับเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมการเมืองไทยที่ไม่เพียงเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น ยังได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ร่วมงานกับนักการเมืองรุ่นใหญ่หลายคน

พร้อมความฝันที่อยากร่วมสร้างประเทศไทยที่ทุกคนแม้คิดไม่เหมือนกันแต่อยู่ร่วมกันได้

 

นายปรียนันท์เล่าถึงชีวิตก่อนลงการเมืองว่า ก่อนหน้าที่จะมาร่วมงานการเมือง เมื่อ 4 ปีก่อน ได้เปิดบริษัทเล็กๆ ด้านผลิตรายการโทรทัศน์ที่เน้นการพาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก

จุดประสงค์เล็กๆ ที่อยากทำตรงนี้คือ อยากไปชมการบริหารจัดการการท่องเที่ยวแต่ละประเทศ ซึ่งส่วนตัวเป็นคนชอบเดินทาง ถ้าได้รู้ไอเดีย รู้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในประเทศทั้งพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา มีการบริหารจัดการยังไง เราเก็บข้อมูลเพื่อนำมาต่อยอดในอนาคต เป็นความคิดของการดำเนินรายการในเวลานั้น

“ประเทศที่มีการจัดการท่องเที่ยวที่ชื่นชอบที่สุดง่ายที่สุดคงเป็นญี่ปุ่น ด้วยระบบระเบียบทางด้านวัฒนธรรมของประชาชนที่เรียกว่าดีมาก แต่ที่คาดไม่ถึงคืออินโดนีเซีย เพราะไทยและอินโดนีเซีย บทบาทในด้านสังคมอาจตามบ้านเราบางจุด แต่ช่วงหลังที่รัฐบาลโจโค วิโดโด เข้ามา ทุกอย่างกลับตาลปัตรเร็วมาก ที่ 2 ที่เซอร์ไพรส์ก็เวียดนาม เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จาก 2 กรณีนี้ พอมามองบ้านเราเอง ต้องมองก่อนว่า ประเทศเรารายได้หลักนอกจากเกษตรอุตสาหกรรมแล้ว อีกอย่างคือการท่องเที่ยว ที่ผ่านมาบรรดาหัวเมืองใหญ่ๆ การบริหารจัดการท่องเที่ยวถือว่าดีในระดับหนึ่ง แต่ในภาพรวมยังไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ก็อยากเอาตรงนั้นเป็นจุดส่งเสริม” รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติกล่าว

นายปรียนันท์กล่าวถึงทิศทางการท่องเที่ยวของไทยด้วยว่า ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่ที่อยากเสริมอีกเรื่อง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เรามีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว อย่างช่วงหลังที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งเราต้องคุยกันอีกครั้ง

พูดจริงๆ ประเทศไทยไม่ได้ขี้เหร่จากผลสำรวจระดับโลก

 

ปรียนันท์ถือเป็นทายาทตระกูลนักการเมืองเพราะเป็นถึงลูกชายของอำนวย สุวรรณคีรี อดีต ส.ส.สงขลาหลายสมัย รวมถึงนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี จากพรรคประชาธิปัตย์

ความเป็นตระกูลนักการเมืองมีอิทธิพลแค่ไหนนั้น นายปรียนันท์กล่าวว่า ลืมเรื่องนี้ได้เลย ไม่งั้นจะมีคำถามว่า ต้องมีการคุมไม้คุมมือหรือไม่ ผมไม่อยากให้คนส่วนใหญ่เข้าใจภาพอย่างนั้น ผมมาเส้นทางการเมืองในยุคใหม่ รุ่นใหม่ เราต้องเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ไม่ใช่ต้องพึ่งเงาของใคร

เมื่อถามว่าทำไมถึงต้องเป็นพรรคเพื่อชาติ นายปรียนันท์กล่าวว่า นับเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในชีวิต ที่ทำให้ตัดสินใจเดินทางเส้นทางนี้เพราะเห็นปัญหาบ้านเมืองในสภาพสังคม มีสิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าไปแก้ไขโดยใช้นักการเมืองเท่านั้น ไปเป็นผู้ผลักดัน เป็นคนใช้ของประชาชน โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาพื้นที่บ้านเกิดตัวเอง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผมลงพื้นที่บ่อยมาก เรียกว่ากราฟมีแต่ตกลง

จากเดิมที่ชาวบ้านมีกินมีใช้ ซบเซาลงไปหมดนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า นักการเมืองภาพใหญ่ของประเทศหรือท้องถิ่น ไปทำอะไรกันอยู่?

นี่จึงเป็นจุดที่เรียกว่า ถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาที่เหมาะแล้วที่มาอยู่ตรงนี้

“อุดมการณ์ทางการเมืองของผมถือว่าไม่เคยเปลี่ยน แต่ด้วยบริบททางการเมืองที่ผ่านมา ในที่ที่หลายคนมักจะพูดว่า แมทควรไปอยู่ตรงนั้นมากกว่า ผมบอกตรงนี้ว่า ที่มาอยู่พรรคเพื่อชาติ เพราะอุดมการณ์ตรงกัน และพรรคเพื่อชาติเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น ผมเองเป็นเด็กธรรมดาๆ แต่ผู้ใหญ่เปิดให้เสนอนโยบายหรือแนวทางแก้ไข พวกเขาให้โอกาสและรับฟัง แล้วให้เราตัดสินใจได้ ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเราไม่ถูกครอบงำ”

 

เมื่อถามถึงการเตรียมจากบทบาทด้านสื่อมาเป็นนักการเมือง นายปรียนันท์กล่าวว่า เตรียมตัวมาน้อย เพราะตัวเองซึมซับเส้นทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เดินทางกับพ่อลงพื้นที่ต่างๆ ทำให้รู้ปัญหา การวางแผนจัดการยังไงในแต่ละพื้นที่

แม้วิธีคิดจะไม่ได้เปลี่ยนมาก แต่ก็ต้องให้โอกาสเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เหมือนกัน เพราะไม่ได้รู้ทุกเรื่อง

ถึงกระนั้นใจเกินร้อย พร้อมจะเรียนรู้ สิ่งไหนรู้อยู่แล้วก็นำมาพัฒนาต่อยอด

ด้วยการซึมซับเรื่องการเมืองมาตลอด นายปรียนันท์กล่าวถึงภาพความคิดการเมืองไทยที่อยากจะเปลี่ยนแปลงว่า ในสายตาที่มองการเมืองไทย ย้อนกลับไปหลายปี ผ่านมาแล้วทั้งยุคที่สวยงามและเลวร้าย ถือว่าเป็นบทเรียนที่เราต้องนำมาศึกษา ปรับปรุงแก้ไขในอนาคต

สำหรับตัวเองทิศทางทางการเมืองในอนาคตในอุดมคติ อยากเห็นทุกพรรคการเมืองร่วมมือกัน ด้วยความเชื่อส่วนตัวที่ว่า ทุกพรรคการเมืองเป็นพรรคที่ดี แต่เรายังไม่สามารถจับต้องศักยภาพของแต่ละพรรคมาร่วมมือในการพัฒนาประเทศ

นี่คือการเมืองไทยที่ผมอยากเห็น