ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
การเลือกตั้งเพื่อหาประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคนใหม่ กำลังจะมีขึ้น
ในหลายรัฐมีประชาชนเดินทางไปเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากกว่า 20 ล้านคน
ทว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ สร้างแรงสั่นสะเทือน ด้วยหนังสือที่ส่งให้กับสภาคองเกรสสหรัฐซึ่งระบุว่า “เจ้าหน้าที่พบอี-เมลใหม่ที่อาจเกี่ยวข้องกับการสอบสวนกรณี ฮิลลารี คลินตัน ใช้เซิร์ฟเวอร์อี-เมลส่วนตัว” ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
คดีซึ่งฮิลลารี ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คิดว่าตนพ้นข้อกล่าวหาไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
หนังสือของเอฟบีไอฉบับดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนเป็นอย่างมาก
หนึ่ง เพราะนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ “เอฟบีไอ” ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเข้ามามีส่วนพัวพันกับเส้นทางการเลือกตั้งประธานาธิบดี อีกทั้งยังสร้างแรงสะเทือนทั้งต่อตัวผู้สมัครอย่างฮิลลารีเอง
หรือแม้แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ที่เรียกร้องให้เอฟบีไอเปิดเผยข้อมูลออกมาให้หมดก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
และแน่นอนที่สุดคือส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของประชาชนที่จะเข้าคูหาลงคะแนนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
การสืบสวนของเอฟบีไอเพื่อตรวจสอบว่าฮิลลารีและผู้ช่วย กระทำการขัดต่อกฎหมายด้วยการส่งข้อมูลลับผ่านเซิร์ฟเวอร์อี-เมลส่วนตัวหรือไม่ ได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ โดยเอฟบีไอให้เหตุผลว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอ
แต่เอฟบีไอก็ระบุเอาไว้ด้วยว่าหากพบหลักฐานใหม่ เอฟบีไอจะทำการสืบสวนเพิ่มเติม
เส้นทางสู่ทำเนียบขาวของฮิลลารี ดูเหมือนจะสดใส ก่อนที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเจมส์ บี. โคเมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ จะเปิดเผยว่าพบ “อี-เมลชุดใหม่” จำนวนนับแสนชิ้นที่อาจเกี่ยวข้องกับการสืบสืบสวนคดีเก่าของ ฮิลลารี คลินตัน ที่สิ้นสุดไปแล้ว
เจ้าหน้าที่สอบสวนเปิดเผยว่า อี-เมลดังกล่าวค้นพบโดยบังเอิญ ในอีกคดีที่เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวน “นายแอนโธนี ดี. เวนเนอร์” อดีตสมาชิกสภาคองเกรสที่ถูกกล่าวหาว่าส่งข้อความอนาจารให้กับเด็กสาว
และนายเวนเนอร์ ก็คือสามีที่กำลังบาดหมางกับภรรยาอย่าง “ฮูมา อเบดิน” ผู้ช่วยระดับสูงที่ทำงานเคียงข้าง ฮิลลารี คลินตัน มานานกว่า 20 ปี
แม้ว่าล่าสุดทีมสืบสวนจะได้รับการรับรองจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐให้ทำการตรวจสอบอี-เมลชุดดังกล่าวแล้ว ทว่า ก็ยังไม่ชัดเจนว่าทีมสืบสวนจะได้ผลการตรวจสอบอี-เมลชุดดังกล่าวก่อนการเลือกตั้งหรือไม่
รายงานข่าวระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม ได้พยายามยับยั้งนายโคเมย์ ไม่ให้ส่งแถลงการณ์ไปยังสภาคองเกรส เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ถูกมองว่าหน่วยงานของรัฐมีส่วนในการจูงใจในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
พร้อมทั้งแนะนำให้แจ้งต่อสภาคองเกรส หลังจากที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้อ่านอี-เมลชุดใหม่ทั้งหมดแล้ว
ขณะที่นายโคเมย์อ้างเหตุผลเรื่องความโปร่งใส่ในการสอบสวนอย่างที่นายโคเมย์เคยประกาศไว้ต่อหน้าสภาคองเกรสก่อนหน้านี้
และการตัดสินใจของโคเมย์ ก็เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงมาสู่เอฟบีไอจริงๆ
ผลกระทบจากย่างก้าวของเอฟบีไอในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรคงตอบไม่ได้อย่างเต็มปาก
จากผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมาพบว่า คะแนนนิยมของคลินตันที่นำทรัมป์อยู่ก่อนหน้านี้เริ่มลดช่องว่างลง
อย่างไรก็ตาม คำตอบของคำถามที่ว่า คดี “อี-เมล” ในครั้งนี้จะส่งผลต่อเส้นทางสู่ทำเนียบขาวของ ฮิลลารี คลินตัน หรือไม่ จะมีคำตอบในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้อย่างแน่นอน