เชิงบันไดทำเนียบฯ : เลือดข้น เพื่อไทยจาง ‘ชิน-สวัสดิ์’ สู้ ‘พลังประ(ชารัฐ)ยุทธ์’

“ผมสนใจงานการเมือง”

‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ควบตำแหน่ง ‘ผู้นำรัฐประหาร’ ประกาศอนาคตทางการเมือง และยืนยันไม่ลาออกจากเก้าอี้ ‘หัวหน้าคสช.’ แต่ ‘บิ๊กตู่’ แทงกั๊กไม่บอกจะมาด้วยวิธีใดและจะสนับสนุนใคร เพราะสถานการณ์ต่างๆยังไม่ ‘สุกงอม’ พอ ที่จะทำให้มองอนาคตแบบข้ามช็อตยาวๆได้ แม้โพลของสำนักโพลต่างๆนั้น ‘บิ๊กตู่’ จะมาอันดับ 1 แต่กลับสวนทางกับโพลที่ทำผ่านโซเชียลฯกัน จึงไม่รู้ว่าโพลใดที่มาเป็นอย่างใดและคำถามของโพลชี้นำหรือไม่
.
แต่ก็เดาไม่ยากว่าพรรคใดที่จะปูทางให้ ‘บิ๊กตู่’ ได้กลับมาเป็น นายกฯอีกสมัย ซึ่งก็หนีไม่พ้น ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ที่กระแสมาแรงจะมี ‘รัฐมนตรี’ ใน ‘ครม.ประยุทธ์’ ไปเข้าร่วม ซึ่งล้วนเป็น ‘สายเศรษฐกิจ’ ทั้งนั้น
.
จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ ‘รองนายกฯสมคิด’ จะถูกจับตาว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ทำให้ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ จึงถูกมองว่าเป็น ‘พรรคนอมินีลายพราง’ ทันที ท่ามกลางกระแส ‘พลังดูด’ ที่มีมาตลอด และการเคลื่อนไหวของ ‘กลุ่มสามมิตร’ ที่นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายภิรมย์ พลวิเศษ ที่ล้วนเป็นก๊วนพรรคไทยรักไทยเดิม ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ ‘รองนายกฯสมคิด’ มาแต่เดิม
.
ล่าสุด ‘พรรคเพื่อไทย’ ได้จัดประชุมนัดแรก โดยมี ‘หญิงหน่อย’คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย และ ‘ป๋าเหนาะ’เสนาะ เทียนทอง ปธ.ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ได้กลับมาสมัครสมาชิกพรรค และร่วมประชุมนัดแรก
.
ซึ่ง ‘ป๋าเหนาะ’ ลั่น ‘เพื่อไทย’ ชนะที่ 1 แน่นอน กวาด 200 เก้าอี้ และมั่นใจ ‘บิ๊กตู่’ ไปไม่รอด ทางการเมือง แม้จะมีเสียง ส.ว. ที่ คสช. แต่งตั้งมา 250 คน แต่จะไม่ได้รับเสียงจาก ส.ส. สนับสนุน หากกลับมาเป็น ‘นายกฯคนนอก’ ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ถึงกับไล่ให้ไปพักผ่อนเพราะแก่แล้ว

แม้มีรายงานว่าชื่อ ‘หญิงหน่อย’ ไม่ได้ขึ้น ‘แม่ทัพเพื่อไทย’ แม้จะติดอันดับโพลมาตลอด แต่จะได้คุม ‘ยุทธศาสตร์พรรค’ แทน เพราะงานนี้ ‘นายใหญ่’จากแดนไกล มีที่ยืนให้ทุกคนในพรรค และน่าสนใจว่า ไม่มีคน ‘ตระกูลชินวัตร – วงศ์สวัสดิ์’ มาร่วมวงประชุมพรรคนัดแรกเลย
.
คำที่ว่า ‘เลือดข้นกว่าน้ำ’ เห็นจะเป็นจริง เพราะว่ากันว่าชื่อเขยตระกูลชินวัตร ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ ลือกันแรงว่าจะได้นั่ง ‘แม่ทัพเพื่อไทย’ เอง ท่ามกลางข่าว ‘เพื่อไทย’ เสี่ยงโดนยุบพรรค ที่ถึงขั้นเตรียมไปตั้งพรรคใหม่ชื่อ ‘พรรคเพื่อธรรม’ แทน โดยส่งชื่อหลาน ตระกูลชินวัตร อย่าง ‘ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์’ บุตรชาย ‘สมชาย-เยาวภา’ ไปนั่ง ‘หัวหน้าพรรคเพื่อธรรม’ แทน โดยมีผลงานประกัน เคยชนะเลือกตั้ง ปี2557 เขต 3 จ.เชียงใหม่ แต่โดนรัฐประหารไปก่อน
.
ซึ่งสุดท้ายก็ไม่พ้น ‘ตระกูลชิน’ ผ่าน ‘เจ๊แดง’เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ บอสใหญ่ตัวจริง ยิ่งตอกย้ำ ‘เลือดข้น เพื่อไทยจาง’ อย่างเห็นได้ชัด ที่สุดท้าย ‘เพื่อไทย’ ก็ยังไม่พ้นวงจรเหล่านี้
.
ซึ่งโอกาสที่ ‘เพื่อไทย’ จะโดนยุบก็มีเช่นกัน หากดูจากท่าทีที่ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงที่พรรคเพื่อไทยกังวลถูกยุบ ว่า ตนไม่รู้ พร้อมถามกลับว่าแล้วทำผิดหรือไม่ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะไปตั้งพรรคเพื่อธรรมแทนนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุ “ก็เตรียมการก็ดีแล้วนี่”

สิ่งหนึ่งที่ ‘บิ๊กตู่’ กังวลไม่น้อยคือเกรงจะ ‘เสียของ’ เช่นในอดีต ครั้งสมัยหลังรัฐประหาร 19ก.ย.2549 ที่สุดท้าย เครือข่ายอำนาจของ ‘ทักษิณ’ ก็กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ผ่านพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
.
ที่สุดท้ายแคนดิเดทก็ไม่พ้น ‘ตระกูลชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์’ หรือที่เรียกว่า ‘ชินสวัสดิ์’ นั่นเอง
.
“เราก็พูดไม่ได้ เพราะคนที่ตั้งใจทำไว้ก็กลัวที่จะเสียของ และคนที่จะมาทำต่อก็ไม่รู้ว่า จะทำเสียหรือเปล่า” พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
จึงเป็นเดิมพันครั้งสำคัญระหว่าง 2 ขั้วอำนาจที่ไม่รู้จบ ที่ต่างฝ่ายต่างแสดงพลังว่าตนได้รับไฟเขียวสำคัญต่างๆมา แต่ศึกครั้งนี้กำลังถูกปูทางเข้าระบบคูหาเลือกตั้ง ที่เปลี่ยนไปจากยุคหลังปี2549 ที่มีพรรคทหารชัดเจนอย่าง ‘พรรคพลังประชารัฐ’ มาเสริมทัพเป็น ‘เครือข่าย’ ของ คสช. ที่ปูทางมานานหลายปี
.
หากศึกนี้ คสช. พ่าย ย่อมมีการ ‘เช็คบิลย้อนหลัง’ แน่นอน ความขัดแย้งก็จะไม่สิ้นสุด หรืออาจเกิดวิกฤตที่ไม่สามารถเลือก นายกฯได้ในสภา หากไม่มีพรรคใดชนะเลือกตั้งขาด ทำให้ทุกจุดและทุกขั้นตอนยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรคที่แต่ละฝ่ายต้องเจอ เพราะงานนี้ไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายต่างอ้างมี ‘แบ็คดี-แบ็คใหญ่’ รับประกันมาโดยตลอด แต่สุดท้ายว่ากันว่าอยู่ที่ทิศทางลม ประชาชนเอาอย่างไร และว่ากันไปถึงขั้นมี ‘รัฐบาลรักษาการ’ ขึ้นมาเลยทีเดียว เพื่อวางกรอบกติกาใหม่อีกครั้ง หากเกิด ‘ทางตัน’ ทางการเมือง ไม่สามารถเลือก นายกฯ ได้ในอนาคต
.
พร้อมกันนี้ต้องจับตาอนาคตของ ผบ.เหล่าทัพ ชุดที่เกษียณฯด้วยว่าจะมีใครถูก ‘รับใช้ชาติ’ ต่อหรือไม่ ทั้งเชิญให้มาร่วมงานกับรัฐบาลหรือไปดำรงตำแหน่งที่เป็นเกียรติของครอบครัว
.
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เผยถึงกรณี ผบ.เหล่าทัพ คนใดมีแววจะได้ไปช่วยงานนายกฯและรัฐบาล ว่า “มีแววทุกคน แต่จะเอามารึเปล่า ไม่รู้” ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ยอมรับว่าต้องเดาใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องการปรับ ‘ครม.ประยุทธ์6’ เลยทีเดียว แม้ทั้งคู่จะสายตรงถึงกันเสมอ
.
“คงไม่ปรับแล้ว เพราะเวลามีน้อยแล้ว ผมทายใจนายกฯนะ คงไม่ปรับ เพราะท่านก็พูดหลายครั้งแล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
หากจะมีปรับครม. ก็จะเป็นตำแหน่งที่ ‘ลาออก’ ไปทำพรรคการเมืองเต็มตัว โดยรายชื่อที่ถูกจับตาได้แก่ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’รมว.พาณิชย์ ‘อุตตม สาวนายน’รมว.อุตสาหกรรม ‘กอบศักดิ์ ภูตระกูล’รมว.สำนักนายกฯ และ ‘สุวิทย์ เมษินทรีย์’รมว.วิทยาศาสตร์ฯ
.
จึงต้องจับตาตั้งแต่ 29ก.ย.นี้เป็นต้นไป หลังพรรคพลังประชารัฐเปิดตัวเป็นทางการ ขุมกำลังสำคัญของ ‘บิ๊กตู่’ ที่จะเป็น นายกฯอีกสมัย ตามวาจาที่ลั่นไว้ “ผมสนใจงานการเมือง” ที่ถอยไม่ได้แล้ว
.
รวม “พลังประ(ชารัฐ)ยุทธ์” !!