กระแสปรับ ‘ครม.ประยุทธ์6’ ดังอีกครั้ง ต้อนรับเดือนก.ย. ที่ คสช. จะเริ่ม ‘คลายล็อคพรรค’ ให้ทำกิจกรรมการเมืองได้ แม้เป็นไปโดยมีเงื่อนไขก็ตาม มาพร้อมการขยายเวลาการตัดสินใจของ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ที่เคยสัญญาว่าจะประกาศถึงอนาคตทางการเมืองของตนเอง ที่ล่าสุด ‘บิ๊กตู่’ ระบุว่า ขอดูสถานการณ์ก่อนและมีเวลาอีกหลายเดือน
.
พร้อมกระแสข่าวปรับ ‘ครม.ประยุทธ์6’ ตกไปที่กลุ่มของ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ รองนายกฯ นั่นคือ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’รมว.พาณิชย์ และ ‘อุตตม สาวนายน’รมว.อุตสาหกรรม ที่จะลาออกเพื่อไปลงสนามการเมือง ในนามพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกมองว่าถูกปั้นมาเพื่อเป็นฐานที่มั่นของคสช.ในอนาคต

ซึ่งทั้ง ‘สนธิรัตน์ – อุตตม’ ก็ออกมายืนยันแล้วว่ายังไม่ลาออก โดย ‘สนธิรัตน์’ ระบุถึง อนาคตทางการเมือง ยังมีเวลาอีกหลายเดือนในการตัดสินใจ ก่อนจะใกล้เลือกตั้ง
.
“ยังไม่ได้มีอะไรชัดเจน เพราะเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งผมเคยพูดไว้ในเรื่องการที่จะทำประโยชน์ให้บ้านเมือง เพียงแต่จะเป็นในรูปแบบไหน อย่างไร ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเขน แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้ลาออกอย่างที่เป็นข่าว และไม่ได้มีแผนที่จะลาออกในเวลาอันใกล้นี้” นายอุตตม กล่าว

“ผมได้พูดคุยกับนักการเมืองมาโดยตลอด ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องฟังนักการเมืองในการเข้าถึงชาวบ้าน ที่มีอะไรอยากให้รัฐบาลทำ เพราะรัฐบาลนี้ไม่มี ส.ส. แน่นอนว่าการคุยกันก็ต้องมีเรื่องการเมืองอยู่ด้วย และต้องคุยเรื่องอนาคตของการเลือกตั้ง อาจทำให้ตนมีชื่อมากกว่าคนอื่น ซึ่งผมได้คุยทุกกลุ่มทั้งพรรคภูมิใจไทย ชาติไทย ชาติพัฒนา กลุ่มสามมิตร” นายสนธิรัตน์ กล่าว
.
ด้าน ‘บิ๊กตู่’ ก็ออกมาปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวการลาออก และยืนยันยังไม่มีการปรับ ‘ครม.ประยุทธ์6’ ซึ่ง ‘ส.สมคิด’ ในฐานะผู้นำทัพฝ่ายเศรษฐกิจ ก็ยืนยันว่าไม่มีการลาออกของ 2 รัฐมนตรีด้วย
.
ไม่นับร่วม ‘กลุ่มสามมิตร’ ที่นำโดย ‘2ส.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ – สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ที่ต่างเคยเป็นก๊วนเดียวกับ ‘ส.สมคิด’ สมัยทำพรรคไทยรักไทย จน ‘ทักษิณ’ ได้เป็น นายกฯ มาแล้ว แม้กลุ่มสามมิตรยังแทงกั๊กไม่ยอมรับหนุน ‘บิ๊กตู่’ เป็น นายกฯอีกสมัย แต่หากดู ‘ท่าที’ ยากจะคิดเป็นอย่างอื่น ในความไม่ชัดเจนนี้ ก็ทำให้ทหารเอง มองว่า ‘สามมิตร’ อาจกลายเป็น ‘งูเห่า’ ก็ได้
.
กระแสข่าว 2 รัฐมนตรีลาออก ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น เป็นที่พูดกันในกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมมาสักระยะได้แล้ว แต่สิ่งที่ต้องมองไปอีกช็อต คือ ใครจะมาร่วมทัพ ‘ครม.ประยุทธ์6’ โดยเฉพาะ ผบ.เหล่าทัพ ที่เกษียณฯในปีนี้ และโดยเฉพาะชื่อ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกลาโหม ตท.18 รุ่นน้องสายทหารเสือฯ ของ ‘บิ๊กตู่’
.
ซึ่ง ‘บิ๊กเข้’ เป็นนายทหารน้องรัก ของ นายกฯ โดยชื่อ ‘เข้’ นั้นมาจากที่ ‘บิ๊กตู่’ ตั้งให้ โดยชื่อเล่นจริงๆของ พล.อ.เทพพงศ์ คือ ‘จิ๋ว’ อีกทั้ง ‘บิ๊กเข้’ เคยเป็นนักกีฬามวยไทย สมัยเรียนอยู่ที่ จ.อยุธยา แม้ไม่ยอมเผยฉายาในวงการมวย แต่ก็พูดติดตลกแทนว่า ‘เข้ ศิษย์ประยุทธ์’ สะท้อนถึงสายสัมพันธ์ของ ‘บิ๊กเข้’ กับ ‘บิ๊กตู่’ ได้เป็นอย่างดี

ก่อนหน้านี้ พล.อ.เทพพงศ์ เคยถูกจับตามองเป็นแคนดิเดท ผบ.ทบ. แต่เมื่อ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท สายรบพิเศษ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก็เท่ากับปิดทาง ‘บิ๊กเข้’ ทันที เพราะเกษียณฯปี61 พร้อมกัน จึงถูกโยกมาเป็น ‘ปลัดกลาโหม’ ทำงานใกล้ชิด ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม แทน เพื่อเกษียณฯในอัตราพลเอกพิเศษ
.
ในการปรับ ‘ครม.ประยุทธ์5’ เก้าอี้รัฐมนตรีทหารถูกปรับออกไป 4 เก้าอี้ ได้แก่ ‘บิ๊กบี้’พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ที่ลาออกจาก รมว.แรงงาน ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร อดีตรองนายกฯ ‘บิ๊กเข้’พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย อดีตรองนายกฯ และ ‘บิ๊กโด่ง’พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตรมช.กลาโหม
.
แต่ได้ดึง ‘บิ๊กช้าง’พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตปลัดกลาโหม สายทหารม้า ที่เติบโตในกระทรวงกลาโหม มาเป็น รมช.กลาโหม แทน ‘บิ๊กโด่ง’ ซึ่ง พล.อ.ชัยชาญ มีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ปลัดกลาโหมแล้ว เพราะเป็น ปธ.อนุกรรมการรับฟังความเห็นพรรคและกลุ่มการเมืองต่างๆ โดยมี ‘บิ๊กป้อม’ เป็น ปธ.คณะกรรมการเตรียมการสร้างความปรองดองฯ เพื่อจัดทำร่างสัญญาประชาคม 10 ข้อ
.
หากมีการปรับ ‘ครม.ประยุทธ์6’ อาจเป็น ‘ครม.ส่งท้าย’ ยุคคสช. ที่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไวสุด 24ก.พ.62 แต่ช้าสุดราว พ.ค.62 โดยยึดตามปฏิทินของ กกต. ดังนั้น คสช. และ ครม. ชุดใหม่จะทำหน้าที่ได้ไม่ถึง 1 ปี จึงทำให้กระแสปรับครม.ยังไม่มีน้ำหนักพอในเวลานี้
.
แต่ในอนาคต ก็อาจมีความเป็นไปได้ หากมี ‘รัฐมนตรีบางราย’ ไปลงสนามการเมือง แล้วทำให้ ‘เก้าอี้ว่าง’ ลงไป ซึ่งทั้ง ‘สนธิรัตน์ – อุตตม’ ก็ทิ้งปมไว้ ถึงการตัดสินใจทางการเมืองและการทำงานในอนาคต
.
ส่วนอีก 2 รัฐมนตรี ที่ถูกจับตาไม่น้อยจาก ‘บ้าน 2ป.บูรพาพยัคฆ์’ คือ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร และ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดยเฉพาะบทบาทของ ‘บิ๊กป้อม’ แม้จะออกมาระบุว่า “ผมพอแล้ว” แต่ก็เชื่อกันว่า ‘บิ๊กป้อม’ จะไปเป็นผู้สนับสนุน ‘บิ๊กตู่’ อยู่ข้างหลังแทน ผ่านคอนเนคชั่นต่างๆ

นับจากการ ‘ผ่อนคลายพรรค’ ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ และการพิจารณาปลดล็อคใหญ่หรือให้หาเสียงได้ หลัง พ.ร.ป.ส.ส. บังคับใช้ช่วงเดือนธ.ค.นี้ จึงต้องจับตาวิธีการ ‘รับมือ’ และ ‘ต่อสู้’ ของ คสช. ที่จะเกิดขึ้น

โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ทางการเมืองของ ‘บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่’ ที่กำลังเดินเครื่องเล่นบท ‘2ลุง’ ในธีม ‘ลุงตู่สุดฮา – ลุงป้อมน่ารัก’ !!