ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 ตุลาคม 2559 |
---|---|
เผยแพร่ |
หน้า 108
แนวโน้ม
พสุ เตชะรินทร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เปิดเผย
รายงานดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก ประจำปี 2559 ของเวิลด์ อีโคโนมิกส์ ฟอรั่ม หรือ WEF ประเทศไทย
เปรียบเทียบความสามารถการแข่งขันของ 138 ทั่วโลก
โดย 10 อันดับแรกยังคงเป็นประเทศเดิมๆ 3 อันดับเดิม คือ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับที่ 34 ตกลงจากปีก่อนที่อยู่อันดับ 32
ขณะที่คะแนนเท่าเดิม 4.6 จากคะแนนเต็ม 7
เปรียบเทียบกับภูมิภาคเอเชีย ไทยอันดับ 10 แต่เมื่อเปรียบเทียบในภูมิภาคอาเซียนพบว่า เกือบทั้งหมดมีอันดับความสามารถในการแข่งขันลดลงจากปี 2558 ยกเว้นกัมพูชาที่มีอันดับเพิ่มขึ้นเป็น 89 ส่วนสิงคโปร์อันดับ 2 เท่าเดิม
เปรียบเทียบกับดัชนีความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยด้านที่มีอันดับดีขึ้น ได้แก่ ด้านสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค คะแนนเพิ่มขึ้นอยู่ในอันดับ 13 จากอันดับที่ 27 ในปี 2558
อันดับดีขึ้นจากในแง่สมดุลในงบประมาณภาครัฐ สัดส่วนการออมที่สูงขึ้น และสัดส่วนหนี้รัฐบาลต่อผลผลิตมวลรวมประชาชาติที่ลดต่ำลง ที่สำคัญคือ ในด้านนวัตกรรม ได้อันดับดีขึ้นจากอันดับ 57 เป็นอันดับ 54
ขณะเดียวกัน WEF มีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจต่อการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทย ว่า ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของนวัตกรรมเป็นพิเศษ เพื่อเตรียมรองรับต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยุค 4.0 ตามที่รัฐบาลมุ่งเน้นมาโดยตลอดในช่วงที่ผ่านมา
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
“แม้ไทยตกลง 2 อันดับ แต่ประเทศเพื่อนบ้านตกมากกว่า มาเลเซีย ตก 7 อันดับ ฟิลิปปินส์ตก 10 อันดับ อินโดนีเซียและเวียดนามตก 4 อันดับ ลาวตกลงไป 10 อันดับ”