สรุปข่าวเด่นรอบสัปดาห์ : คืนพาสปอร์ต “จาตุรนต์” / ยกฟ้อง”คดีแม้ว”/ สิ้น “สวลี ผกาพันธุ์” / “บิ๊กตู่” ฮึ่ม! อาหารเสริมปลอม

สรุปข่าวในประเทศ

“ประยุทธ์” สั่งจัดการ อาหารเสริมไร้มาตรฐาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงถึงปัญหาการหลอกลวงขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอมไร้คุณภาพอันตราย ไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผ่านระบบออนไลน์และร้านค้าทั่วไปว่า ได้สั่งย้ำเตือนไปแล้ว โดยขณะนี้สำนักงานอาหารและยา (อย.) สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีมาตรการเพิ่มเติมออกมา ซึ่งเดิมอาจจะทำงานตามเฉพาะข้อเรียกร้องหรือการร้องเรียนแจ้งกลับให้ตรวจสอบเป็นหมื่นๆ กิจกรรมก็ทำงานลำบาก วันนี้ได้ให้ไปดูว่าจะต้องปรับบุคลากรต่างๆ ให้มากขึ้นเพียงพอหรือไม่ ต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสุ่มตรวจหรือการตรวจเมื่อมีจดขึ้นทะเบียนต่างๆ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีการจดทะเบียน จัดตั้ง มีการขายอะไรต่างๆ เดือนหนึ่งเป็นหมื่นๆ ราย ปีหนึ่งๆ เป็นล้านๆ ราย ดังนั้น ต้องมาพิจารณาว่าจะเข้าถึงปัญหาเหล่านี้ให้ทั่วถึงได้อย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดประชาชนผู้บริโภคจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบด้วย ช่วยกันดูเพราะทุกคนเป็นคนที่เข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะซื้อของซื้อยาจะต้องตรวจสอบ สอบถามมาก็ได้ว่า อย. ใช่หรือไม่ใช่ เพราะการทุจริตการคดโกงผู้ที่หลอกลวงคนทั้งรู้และไม่รู้ก็ยังคงมีอยู่ในระบบ ก็อย่าให้มันเป็นประเด็นความขัดแย้งอีกเลย เราต้องเอาปัญหามาแก้ไขให้ทั้งหมด

เด้ง “อธิบดีกรมปศุสัตว์”เปิดทางสอบวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ย้ายข้าราชการระดับสูงจำนวน 2 ราย ดังนี้ 1.นายอภัย สุทธิสังข์ ตำแหน่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง และ 2.นายสรวิศ ธานีโต ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมปศุสัตว์

ขณะที่นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ได้เสนอให้ ครม. โยกย้ายอธิบดีกรมปศุสัตว์ออกจากตำแหน่ง เพื่อให้การสอบสวนปัญหาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นไปอย่างโปร่งใส โดยที่ผ่านมาได้มีการตั้งกรรมการข้อเท็จจริงและสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรงข้าราชการกรมปศุสัตว์ 5 คน ที่เกี่ยวข้องทุจริตจัดซื้อวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าปี 2559

ศาล ปค.สูงสุดไม่คืนพาสปอร์ต “แม้ว” แต่ให้คืน “จาตุรนต์” ชี้ไม่ส่อหนีไป ตปท.

วันที่ 1 พฤษภาคม ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ให้ยกฟ้องในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้องอธิบดีกรมการกงสุลและพวกรวม 2 คน กรณีกรมการกงสุลยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณ 2 ฉบับ เพราะถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศ และการยกเลิกหนังสือเดินทางโดยอาศัยข้อเท็จจริงจากความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยยังไม่มีการสอบสวนหรือแจ้งข้อกล่าวหา ไม่ถูกต้อง ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของกรมการกงสุลชอบด้วยกฎหมาย เพราะการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณกับสื่อมวลชนของประเทศเกาหลี ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงองคมนตรี ถ้อยคำดังกล่าวจึงเป็นปรปักษ์กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นการกระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ส่วนกรณีที่นายทักษิณอุทธรณ์ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรมนั้น ศาลเห็นว่าการที่จะอ้างว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่เป็นธรรมนั้น หากนายทักษิณเป็นผู้กระทำความผิดเอง ก็ไม่สามารถอ้างว่าหน่วยงานผู้ใช้อำนาจเลือกปฏิบัติได้ ดังนั้น จึงถือว่าคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางนั้นชอบด้วยกฎหมาย

วันเดียวกัน ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ให้กรมการกงสุล โดยอธิบดีกรมการกงสุลคืนหนังสือเดินทางให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง หลังจากมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางทั้ง 3 ฉบับของนายจาตุรนต์ เนื่องจากเห็นว่านายจาตุรนต์เคยได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. และศาลทหารกรุงเทพ ให้เดินทางออกนอกประเทศหลายครั้ง ไม่หลบหนีคดีที่มีอยู่ จึงไม่ใช่ผู้ที่ศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครองเห็นว่าไม่ควรออกหนังสือเดินทางให้

สิ้น “สวลี ผกาพันธุ์” ศิลปินแห่งชาติในวัย 86 ปี

สวลี ผกาพันธุ์ เศวตนันทน์ ศิลปินแห่งชาติ ได้เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยวัย 86 ปี ภายในบ้านพักซอย 101/1 วชิรธรรมสาธิต ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง โดยเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม หลังจากรับประทานอาหารกับลูกหลานเสร็จ สวลี ผกาพันธุ์ ได้เข้าห้องไปพักผ่อน ก่อนจะพบว่ามีอาการสะอึกแน่นิ่งไป และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

สวลี ผกาพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2474 ที่กรุงเทพมหานคร มีชื่อจริงว่าเชอร์รี่ เศวตนันทน์ บิดาเป็นชาวเดนมาร์ก มารดาเป็นชาวไทย มีพี่น้อง 2 คน สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม เมื่อ พ.ศ.2483 จากนั้นได้เรียนต่อเพิ่มเติมทางด้านชวเลขและพิมพ์ดีด หลังเรียนจบได้เข้าทำงานเป็นเสมียนพิมพ์ดีดอยู่ที่เทศบาลนครกรุงเทพ และบริษัทสหไทยวัฒนา เมื่ออายุได้ 17 ปีได้รู้จักกับครูลัดดา สารตายน (ศิลปะบรรเลง) ซึ่งเห็นพรสวรรค์ในการร้องเพลง จึงชวนมาร้องเพลงสลับฉากละครในตอนเย็นหลังเลิกงาน โดยตั้งชื่อให้ใช้ในการแสดงว่า สวลี แปลว่า “น้ำผึ้ง” ส่วนนามสกุล ผกาพันธุ์นั้น สด กูรมะโรหิต เป็นผู้ตั้งให้ในเวลาต่อมา โดยมีความหมายว่า “เผ่าพันธุ์ของดอกไม้” ซึ่งนำมาจากชื่อจริงของเธอคือ “เชอร์รี่” จากนั้นได้มีโอกาสร้องเพลงสลับฉากเพิ่มขึ้นพร้อมกับเริ่มแสดงละคร จนเมื่องานการขับร้องเพลงและการแสดงละครมีมากขึ้น จึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาทำงานด้านการบันเทิงอย่างเต็มตัว

จนถึงปัจจุบัน สวลี ผกาพันธุ์ เป็นนักร้องเพลงลูกกรุงและนักแสดง ที่มีผลงานบันทึกเสียงประมาณ 1,500 เพลง และยังเป็นนักแสดงรุ่นบุกเบิกของวงการภาพยนตร์ไทยยุคฟิล์ม 16 มิลลิเมตร มีผลงานแสดงสร้างชื่อจากภาพยนตร์เรื่องดรรชนีนาง รับบทเป็น “ดรรชนี”

สวลีเป็นนักร้องสตรีรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทานมากที่สุดถึง 4 ครั้ง และรับรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) พ.ศ.2532 ถือเป็นปูชนียบุคคลของวงการเพลงลูกกรุงคนสำคัญอีกคนหนึ่ง