เมื่อวันที่ 22 เมษายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมหากาพย์ 5 ปี โรงพักร้าง ที่หลักฐานชัดแต่คดีไม่คืบหน้า ว่า ประชาชนและตำรวจทั้งประเทศต่างจับตาดูการดำเนินคดีโครงการก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง ที่สร้างไม่เสร็จ เพราะมีผู้รับเหมาเพียงรายเดียวทั่วประเทศ หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้สร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ใช้งบประมาณไทยเข้มแข็ง จำนวน 5,848 ล้านบาท โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดจ้างเป็นรายภาค (ภาค 1-9) ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และต้องรื้ออาคารเดิม ตามความเห็นคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในเวลาต่อมา พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการแทน ผบ.ตร.เสนอเปลี่ยนแปลงการจัดจ้างเป็นแบบรวมกันที่ส่วนกลางในครั้งเดียวทั้งประเทศ ทำให้ได้ผู้รับเหมารายเดียว คดีนี้ดีเอสไอรับเรื่องร้องเรียน ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนทั่วประเทศ สรุปผลดำเนินคดีต่อผู้อนุมัติฯขัดมติ ครม.ส่งสำนวนให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งแต่ปี 2556 อนุกรรมการไต่สวนฯ ป.ป.ช.โดยนายวิชา มหาคุณ ประธานไต่สวนฯแถลง มีมติแจ้งข้อหาว่ารู้ทั้งรู้แต่กลับเปลี่ยนแปลงการจัดจ้าง จึงขัดมติ ครม.ต้องดำเนินการคดีอาญา ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 บัดนี้ 5 ปีผ่านไป คดีไม่คืบหน้า หาใครรับผิดชอบไม่ได้ และส่อเค้าว่า จะหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษไม่ได้

“อย่าให้ประชาชนต้องตั้งคำถามว่า ทีเรื่องของฝ่ายการเมืองตรงข้าม เร่งได้เร่งเอา แต่เรื่องที่เป็นความทุกข์ร้อนของตำรวจและประชาชนทั่วทั้งประเทศ และอาจพัวพันกลับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์จากนโยบายทางการเมือง ดึงได้ดึง ยื้อได้ยื้อหรือไม่ เป็นบทพิสูจน์ความจริงใจในการทำงานของป.ป.ช.” นายอนุสรณ์กล่าว