เผยแพร่ |
---|
วันที่ 18 เมษายน 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สตาร์บัคส์ คอร์ป เจ้าของแบรนด์สตาร์บัคส์ กาแฟแฟรนไชส์ระดับโลก จะปิดร้านกาแฟ 8,000 สาขา ทั่วสหรัฐฯในช่วงบ่ายของวันที่ 29 พฤษภาคม เพื่อให้ พนักงานร้าน 175,000 คน ไปอบรมเรื่องขันติธรรมทางเชื้อชาติ-สีผิว หลังเกิดกรณีการประท้วงและบอยคอยแบรนด์ดังกล่าวจากเหตุที่ ผู้จัดการร้านสาขาเมืองฟิลาเดลเฟียโทรเรียกตำรวจมาจับลูกค้าที่เป็นชายผิวสี 2 คนขณะนั่งรอเพื่อนอยู่ในร้านโดยกล่าวหาว่าบุกรุก
โดยสตาร์บัคส์ได้แถลงในวันนี้ว่า ยังได้จัดการให้กับพนักงานที่ไม่ได้เป็นของบริษัทที่ทำอยู่ในร้านกาแฟที่ขึ้นทะเบียนกับสตาร์บัคส์ราว 6 พันแห่งที่เปิดตามร้านสะดวกซื้อและสนามบินอีกด้วย
นับเป็นการประกาศของแบรนด์กาแฟดังที่มีขึ้นเพื่อลดความตึงเครียดหลังเหตุประท้วงจากอคติทางเชื้อชาติและสีผิวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและลุกลามกลายเป็นการรณรงค์ให้บอยคอยสตาร์บัคส์ตามโซเชียลมีเดีย และประเด็นปัญหาดังกล่าวยังเป็นบททดสอบด้านลูกค้าสัมพันธ์ของนายเควิน จอห์นสัน ประธานบริหารคนใหม่ของสตาร์บัคส์ด้วย
นายจอห์นสันกล่าวว่า ขณะที่สิ่งนี้ไม่ได้จำกัดแค่สตาร์บัคส์ เราต้องมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไข
นายจอห์นสันยังได้กล่าวขอโทษต่อการจับกุมชายผิวสีที่ควรถูกตำหนิและขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้านฝ่ายกฎหมายของสตาร์บัคส์ระบุว่า นายจอห์นสันและชายผิวสีทั้งสอง ได้มีการหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วประเทศ
รอยเตอร์สระบุว่า แม้กระแสบอยคอยยังไม่ส่งผลกระทบมาก แต่การปิดสาขาชั่วคราวเพื่อนำพนักงานไปอบรมจะส่งผลต่อยอดขาย แต่กระนั้นสตาร์บัคส์มองว่าไม่ได้มีผลแต่อย่างใด เพราะตอนบ่ายเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจในร้านผ่อนคลาย
ขณะที่ ทิฟฟานี่ เดน่า ลอฟทิน ผู้อำนวยการส่วนเยาวชนและวิทยาลัยของเอ็นเอเอซีพีระบุว่า เป็นเรื่องดีที่สตาร์บัคส์ให้พนักงานอบรมเรื่องสีผิว แต่ก็ไม่ควรละเลยปัญหาที่แท้จริงอีกอย่างนั้นคือความรับผิดชอบของตำรวจ