เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะที่แต่งกายชุดไทยย้อนยุคสมัยต่างๆ พร้อมการแสดงนาฏยหุ่นไทย เข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 เมษายน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีที่ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์และเพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรีที่ได้ทรงนำพาและพัฒนาประเทศให้เป็นปึกแผ่นและมีความเจริญรุ่งเรืองมาครบรอบ 236 ปี โดยมีพิธีเปิดในวันที่ 21 เมษายน เวลา 18.15 น.ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ พร้อมริ้วขบวนที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์ พร้อมกันนี้นายกฯขอให้ประชาสัมพันธ์ให้แต่งชุดไทยร่วมงาน และช่วยกันสืบสานประเพณีไทยไว้นานๆ

จากนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำ ด.ญ.ณัชชาวีณ์ โกศลพิศิษฐ์ หรือน้องณัชชา พร้อมคณะเข้าพบนายกฯเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดนิทรรศการงานวันคุ้มครองโลก 2561 ภายใต้แนวคิด “คนรุ่นใหม่ ลดขยะพลาสติก กู้วิกฤติโลกร้อน” พร้อมกันนี้น้องณัชชาได้ติดเข็มกลัดคุ้มครองโลกให้กับนายกฯและขอให้นายกฯเป็นต้นแบบในการรีไซเคิลขยะพลาสติก โดยนายกฯได้ทดลองนำขวดพลาสติกหย่อนเข้าไปในเครื่องรับขวดรีไซเคิลที่สามารถสะสมแต้มนำไปแลกของรางวัล โดยเครื่องดังกล่าวจะตั้งไว้ในปั๊ม ปตท.ที่ร่วมโครงการ โดยนำขวดเหล่านี้ไปขายโรงงานรับซื้อของเก่าและโรงงานรีไซเคิล นำรายได้ไปบริจาคช่วยเหลือโครงการต่างๆ ต่อไป

ต่อมา นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความก้าวหน้าตามนโยบาย “สุขภาพดีถ้วนหน้า”(Health For All) เนื่องในโอกาสวันอนามัยโลก (World Health Day) พร้อมนำผู้ได้รับสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จากการรักษาโรคไตและโรคหัวใจ เข้าขอบคุณนายกฯ พร้อมถือโอกาสรดน้ำดำหัวนายกฯ

นายกฯกล่าวว่า แน่นอน เรื่องมีปัญหาอยู่บ้างก็ต้องแก้กันไป อยากให้ติดตามเรื่องนี้ เพราะเขาก็ชื่นชมเราอยู่แล้ว คนไทยเองยังไม่รู้ว่าเสียเงินเสียทองไปกับตรงนี้เท่าไหร่ อยากให้ปรึกษาหารือกันเพื่อให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม อยากให้ สปสช.เข้าไปดูโรคบางโรคที่เพิ่มขึ้นให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้มีรายได้น้อย ถ้าได้เท่ากันหมดเราไม่มีเงินพอ ถ้าเพิ่มงบมันก็ดี แต่งบกลางจะมีปัญหา มันลำบากตรงนี้ ถ้าเรามีรายได้มากขึ้นงบกลางก็มากขึ้น ก็จะมีเงินไปช่วยคนเหล่านี้มากขึ้น ถ้ารายได้ไม่มี แต่รายจ่ายตรงนี้เพิ่มมากขึ้นเราหาเงินมาไม่ได้นั่นแหละปัญหาในอนาคต ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหนึ่งในผู้ได้รับสิทธิรักษาโรคกล่าวกับนายกฯ ตอนหนึ่งว่า โครงการ 30 บาทช่วยให้ตนรอดตาย