บรรยากาศที่บ้านซอยลาดพร้าว 71 ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คึกคักตั้งแต่เช้าตรู่

อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง

06.45 น. พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ก็มาพร้อมกับภรรยา เข้ารดน้ำ รับพรจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ภายในบ้าน

จากนั้นเป็นคิว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ไม่เพียงแต่จะมีทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมเท่านั้น หากยังมีตำรวจนำทีมโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.

และที่ขาดไม่ได้คือ นักธุรกิจ

สะท้อนอำนาจ วาสนา บารมี อันแผ่มาจากบูรพาพยัคฆ์อย่างเต็มเปี่ยม

เรื่องของ”นาฬิกา”หรูแทบทำอะไรไม่ได้เลย

เด่นชัดว่า “อำนาจ”ในทางเป็นจริง ดำรงอยู่ภายใต้”องค์ประกอบ” อย่างไรในทางการทหาร ในทางการเมือง

ไม่ว่าจะมีการคัดค้าน ต่อต้าน

ในห้วงแห่งการปรับครม.อันเป็นผลสะเทือนจากกรณีรัฐมนตรีแรงงานลาออกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560

มีกระแสต่อต้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รุนแรง

รุนแรงถึงขั้นมีการสรุปประมวลผลว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีสภาพเหมือน”ตัวอับเฉา”อันมากับเรือสำเภาจากซัวเถา

ความหมายก็คือ เป็น”ตัวถ่วง”

ยิ่งเมื่อผ่านการถ่ายรูปครม.ใหม่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ห้วงต้นเดือนธันวาคม 2560

ภาพของ”นาฬิกา”หรูก็ปรากฏ

อันนำไปสู่กัปปิยโวหารจากบ้านสี่เสา เทเวศร์ ในทำนองว่า

“กองหนุน” เริ่มถดถอย

แต่จากเดือนธันวาคม 2560 กระทั่งมาถึงเดือนเมษายน 2561 ก็ยังไม่มีอะไรทำให้ “อำนาจ”ในมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สั่นคลอน ภาพที่เห็นในเช้าวันที่ 16 เมษายน เด่นชัด

เด่นชัดจากที่ห้อมล้อมโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไม่ว่าจะเป็นกองหนุนจากผบ.เหล่าทัพ และนักธุรกิจ ยังมั่นคงแข็งแกร่ง

      อยู่โดยรอบการดำรงอยู่ของ “ป๋าป้อม”ไม่แปรเปลี่ยน