เผย “ทรัมป์” ยังไม่เคาะตอบโต้ซีเรียใช้อาวุธเคมี รัสเซียเตือนระวังจุดไฟสงคราม

เมื่อวันที่ 13 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะตอบโต้ซีเรียหรือไม่ในกรณีที่มีการกล่าวหาซีเรียว่าใช้อาวุธเคมีในการโจมตี ขณะที่มีเสียงเตือนจากรัสเซียว่าหากสหรัฐลงมือโจมตีซีเรีย ก็อาจจะจุดสงครามระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย สองชาตินิวเคลียร์คู่ปรับขึ้นได้

นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอนและคณะรัฐมนตรีสหรัฐ เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมาว่า “ยังไม่มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย” และว่า ผู้นำสหรัฐจะยังคงประเมินข้อมูลข่าวกรองและทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรต่อไป โดยประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดจะหารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส และ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

ก่อนที่ในภายหลังทำเนียบขาวจะเปิดเผยถึงการหารือทางโทรศัพท์ว่า นายทรัมป์และนางเมย์หารือกันถึงความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการร่วมกันในการตอบโต้การใช้อาวุธเคมีของซีเรีย

ขณะที่โฆษกทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่าไม่สามารถปล่อยให้เรื่องการใช้อาวุธเคมีผ่านไปได้ และจำเป็นที่จะต้องป้องกันไม่ให้รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ใช้อาวุธเคมีในการโจมตีขึ้นอีก

ด้านนายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ออกมาเตือนว่าสิ่งสำคัญลำดับแรกคือจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีทางทหารที่นำโดยสหรัฐขึ้นในซีเรีย เพราะอาจนำไปสู่สงครามระหว่างรัสเซียและสหรัฐได้ นายเนเบนเซียยังกล่าวหาสหรัฐว่าทำให้สันติภาพระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย

ทั้งนี้ปัญหาพิพาทขัดแย้งเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในประเทศซีเรียทวีความตึงเครียดหนักขึ้น หลังจากมีการกล่าวหาว่ารัฐบาลซีเรียได้ใช้อาวุธเคมีในการโจมตีเมืองดูมา พื้นที่มั่นของกลุ่มกบฎต่อต้านรัฐบาลซีเรียในเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา จนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 70 ราย ซึ่งส่งผลให้ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ที่จะหามาตรการตอบโต้ซีเรีย