แอมเนสตี้ ไม่รู้สึกถูกคุกคาม หวังแก้ปัญหาร่วมกัน หลังยุติงาน “รายงานทรมานผู้ต้องหาในไทย”

วันนี้ ที่โรงแรมโฟร์วิงส์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้มีการจัดงาน เตรียมเปิดเผยรายงาน “บังคับให้มันพูดให้ได้ภายในพรุ่งนี้” ว่าด้วยการทรมานผู้ต้องหาในประเทศไทย 74 กรณี ในช่วงปี 57 – 58 ที่ได้จากการวบรวมเอกสารของศาล ประวัติการรักษาพยาบาล และบทสัมภาษณ์ของเหยื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานดังกล่าวไม่สามารถจัดได้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่จากสันติบาล และจากฝ่ายการดำเนินงานขององค์กรต่างประเทศในประเทศไทย กระทรวงแรงงาน ระบุว่าตัวแทนจากแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย หากขึ้นพูดบนเวทีอาจถูกจับตามกฎหมายได้ แต่ไม่ได้ยุติงานแต่อย่างใด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้แถลงยุติการจัดงานดังกล่าว

นายยูวาล กินบาร์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ให้สัมภาษณ์หลังงานถูกระงับว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยถึงงาน เรามาเพื่อพูดถึงรายงานที่เราเตรียมมา ซึ่งเกี่ยวกับการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายในประเทศไทย และรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เผยแพร่ผลรายงานจากการเก็บข้อมูลการทรมานที่เกิดขึ้นในไทยตั้งแต่ปี 2557-2558 ซึ่งมีทั้งหมด 74 กรณีที่เกิดจากการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายในจังหวัดชายแดนใต้, ถูกกล่าวว่าทำความผิดทางการเมือง, กฎหมายและกระบวนการสนับสนุนให้มีการทรมาน และ การทรมานในบริบทของการบังคับใช้กฎหมาย

นอกจากนี้นายยูวาลยังแสดงความรู้สึกถึงเหตุการณ์ที่ขึ้นว่า ในฐานะชาวต่างชาติตนไม่ได้รู้สึกว่าถูกคุมคามแต่อย่างใด และไม่อยากพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากอยากพูดถึงเนื้อในรายงานมากกว่า

โดยนายยูวาลรู้สึกว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยเปิดรับกับการวิพากษ์วิจารณ์เท่าไหร่ จึงอยากพูดถึงเนื้อหาในตัวรายงานที่มีคนถูกทรมานไม่ว่าจะถูกทุบตี, ถูกรัดคอทำให้หายใจไม่ออก, การกรอกน้ำต่อเนื่อง (Waterboarding), ผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติดที่ถูกบังคับให้ปัสสาวะในที่สาธารณะเพื่อให้เกิดความอับอาย หรือเพื่อให้จ่ายสินบน ในขณะเดียวกันยังมีคนไทยที่เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ต้องเผชิญกับภัยคุกคามต่างๆเช่น การถูกข่มขู่ หรือถูกฟ้องร้องในคดีอาญา โดยการนำรายงานมาเผยแพร่ในวันนี้ไม่ได้มาชี้ความผิดด้านการทรมาน หรือการปฏิบัติที่โหดร้ายในประเทศไทย แต่มาเพื่อทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

ส่วนเรื่องการถูกระงับการจัดงานในวันนี้ นายยูวาล ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นองค์กรที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลมาแล้วทั่วโลก ซึ่งก็จะมีทั้งรัฐบาลที่ยินดีรับฟัง และไม่รับฟัง โดยเมื่อก่อนเคยคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่พร้อมที่จะพูดในเพื่อแก้ปัญหา แต่เสียดายที่ปัจจุบันสถานการณ์อาจจะไม่เหมือนเดิม ดังนั้นในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายถ้าบอกว่าไม่คาดหวังจากการเผยแพร่รายงานครั้งนี้เลยคงเป็นไปไม่ได้ โดยก่อนหน้าที่จัดงานได้คิดไว้แล้วว่าคงมีปัญหาบ้าง

สำหรับรายงานที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจะนำเสนอในวันนี้ จะมีหลักฐานต่างๆอยู่ข้างในทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบทสัมภาษณ์, เอกสารทางการแพทย์, เอกสารทางกฎหมาย ซึ่งรูปแบบของสิ่งที่พบในรายงานมันก็ตรงกับสิ่งที่ทางภาคประชาสังคมอื่นๆเคยรายงานไว้ รวมถึงเรื่องของสถานการณ์ที่เคยสำรวจ เคยสัมภาษณ์ซึ่งตรงกับในรายงานฉบับนี้