แฟ้มข่าวเศรษฐกิจ : จ่ายเบี้ยชราออนไลน์เริ่ม เม.ย. / กนง.คง ดบ.นโยบาย-ปรับจีดีพีโต 4.1% / ชู “มะยงชิด-มะปรางนครนายก” สินค้าจีไอ

กนง.คง ดบ.นโยบาย/ปรับจีดีพีโต 4.1%

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยผลการประชุม กนง. ว่า มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ แม้อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ โดย กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องและดีกว่าที่ประเมินไว้เมื่อช่วงปลายปี 2560 จึงได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2561 เป็น 4.1% จาก 3.9% โดยการส่งออกขยายตัวได้ 7.0% จากเดิม 4.0% บริโภคเอกชนขยายตัว 3.3% จาก 3.1% ลงทุนเอกชน 3.0% จาก 2.3% การลงทุนภาครัฐขยายตัว 9.5% จากเดิม 9.0% โดยจะมีการเร่งเบิกจ่ายในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่การอุปโภคภาครัฐขยายตัวลดลง 2.9% จาก 3.2% จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 37.6 ล้านคน จากเดิม 37.3 ล้านคน ทั้งนี้ ได้มีการประมาณการจีดีพีปี 2562 ว่าจะขยายตัว 4.1% ส่งออกขยายตัว 3.6% ลงทุนภาครัฐ 3.4% อุปโภคภาครัฐ 3.3% ลงทุนเอกชน 3.6% จำนวนนักท่องเที่ยว 39 ล้านคน

จ่ายเบี้ยชราออนไลน์เริ่ม เม.ย.

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำหนดให้หน่วยงานราชการต้องเปลี่ยนระบบการรับ-จ่ายเงินจากเดิมใช้เงินสดและเช็ค มาเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการใช้เงินสดลง เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2561 และหน่วยงานราชการทั้ง 7,000 แห่ง ทยอยติดตั้งเครื่องรับชำระเงินสด (อีดีซี) และมีระบบชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเกือบครบแล้ว แต่ระยะแรกประชาชนอาจชินกับการจ่ายเงินสดอยู่ก็ยังใช้ควบคู่กันไปได้ โดยตั้งเป้าหมายภายใน 3 เดือนหรือเดือนมิถุนายนนี้ การรับชำระเงินของหน่วยงานราชการต้องเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ 100% ตามนโยบายอีเพย์เมนต์ของรัฐบาล ซึ่งแต่ละเดือนภาครัฐมีการรับจ่ายเงิน 1-2 แสนล้านบาท โดยในช่วงเดือนเมษายน กรมบัญชีกลางเริ่มจ่ายสวัสดิการให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และคนพิการ ผ่านระบบออนไลน์ โดยเริ่มกับผู้สูงอายุและคนพิการใน กทม. มีจำนวน 1 ล้านคนก่อน หลังจากนั้นขยายไปยังคนพิการและผู้สูงอายุทั่วประเทศ รับเงินช่วยเหลือจากรัฐประมาณ 9 ล้านคน

ชู “มะยงชิด-มะปรางนครนายก” สินค้าจีไอ

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ลงพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ของ จ.นครนายก เพื่อเยี่ยมชมตรวจสอบควบคุมกระบวนการผลิตและพิสูจน์ความอร่อยของสินค้ามะยงชิดและมะปรางหวาน ณ สวนนพรัตน์ อ.เมือง จ.นครนายก จึงพร้อมเผยแพร่อัตลักษณ์และความน่าสนใจของสินค้าจีไอดังกล่าวให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยมะยงชิดนครนายกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอ มีลักษณะเด่นคือ ผลใหญ่ รูปไข่ มีสีเหลืองส้ม เนื้อแน่น กรอบ มีกลิ่นหอม เมล็ดลีบสีน้ำตาลอ่อน รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีค่าความหวาน 18-22 องศาบิกซ์ ส่วนมะปรางหวานนครนายกมีลักษณะผลใหญ่ยาวรี ปลายเรียวแหลม สีเหลืองทอง เปลือกบาง มีกลิ่นหอม รสชาติหวานกรอบ เนื่องจากลักษณะทางภูมิศาสตร์และสภาพภูมิอากาศ เหมาะกับการทำเกษตร จึงส่งผลทำให้ผลผลิตมะยงชิดและมะปรางหวานของ จ.นครนายก มีคุณภาพดี และมีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างจากที่อื่น

กสทช.เผยทรูจ่ายค่าคลื่น 900 งวด 2 แล้ว

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) บริษัทในเครือของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรูมูฟ ผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ชุดที่ 2 คลื่นความถี่ 905-915 เมกะเฮิรตซ์ คู่กับ 950-960 เมกะเฮิรตซ์ ได้นำเงินค่าประมูลงวดที่ 2 จำนวน 4,301.40 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) พร้อมกับหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินเพื่อค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือวงเงิน 64,433.26 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) มามอบให้แก่สำนักงาน กสทช. ตามเงื่อนไขของการชำระเงินประมูล โดยเงินค่าประมูลดังกล่าว สำนักงาน กสทช. จะรีบนำส่งกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป

ทีจีจัดทัวร์ยุโรปตามรอย “โกษาปาน”

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในไตรมาส 1 ปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ มั่นใจว่าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิน แฟ็กคเตอร์) จะเป็นไปตามเป้าหมาย สำหรับการเพิ่มเส้นทางบินปีนี้จะขยายให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยเพิ่มเที่ยวบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนมีนาคม รองรับการเดินทางของผู้โดยสารซึ่งผลตอบรับดีมาก ยอดจองตั๋วโดยสารเกือบเต็ม และจะเพิ่มเส้นทางบินใหม่ในไตรมาส 4 ปีนี้ที่มาดริด แมนเชสเตอร์ และฮัมบูร์ก ส่วนกลยุทธ์การตลาดจะมีทั้งการโรดโชว์และทำการตลาดผ่านแทรเวล เอเจ้นต์ รวมถึงพัฒนาแอพพลิเคชั่นรองรับการขยายตัวของผู้โดยสารรุ่นใหม่หรือเจนวาย

และสำหรับการให้บริการทัวร์ตามรอยละครบุพเพสันนิวาสที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ลพบุรี ได้รับการตอบรับดี จึงมีแผนจะเปิดทัวร์ตามรอยโกษาปานไปยุโรป จากกระแสละครบุพเพสันนิวาสที่มีกระแสบวกในแง่ประวัติศาสตร์