จราจรบช.น.พร้อมดูแลสงกรานต์ 100 % จัดโซนนิ่งห้ามรถน้ำเข้า อาทิต สีลม-อาร์ซีเอ สั่งทุกสน.กวดขันกันน็อค ไร้ด่านเถื่อนแค่ดักจับผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. เปิดเผยมาตรการการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่าตำรวจจราจรทั้ง 88 สถานีตำรวจ มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรทั้งถนนสายหลักและถนนสายรอง โดยในวันที่ 10-12 เมษายน เป็นวันที่จะเน้นอำนวยความสะดวกขาออกจากกรุงเทพมหานคร โดยจะจัดกำลังหลักไว้บริเวณสถานีขนส่งทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งเอกมัย มีเตำรวจประจำไว้ทุกด้านจนประชาชนเดินทางกลับมายังกรุงเทพมหานคร รวมถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงและถนนวิภาวดีรังสิตหน้าสนามบินดอนเมือง เนื่องจากที่ผ่านมา มีประชาชนไปใช้บริการจุดเหล่านี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่สนามบินดอนเมืองทำให้ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกจากกรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบชะลอตัว จึงประสานงานกับการท่าอากาศยานดอนเมืองจะส่ตำรวจเข้าไปอำนวยความสะดวกบริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารทั้งหมด รวมถึงถนนเส้นต่างๆ บริเวณโดยรอบ เพื่อไม่ให้มีรถตัดกระแสทำให้การจราจรติดขัดได้

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า มาตรการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์และจุดตรวจวัดสารเสพติด เป้าหมายที่เราคุยกับกรมการขนส่งทางบกและบขส.จะทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดจากผู้ขับขี่รถสารธารณะ โดยเฉพาะรถบขส. รถทัวร์ วิ่งระหว่างจังหวัด ให้ครบตามเป้าหมายคือ 10,000 ราย โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา และเพิ่มความเข้มข้นสุ่มตรวจในวันเดินทางเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะระหว่างจังหวัดปลอดสารเสพติด เมื่อตรวจเสร็จแล้วจะมีการตรวจวัดความเมาระหว่างก่อออกจากท่ารถ ทางบช.น. บช.ปส. ปปส.กทม. มีการบูรณาการทำงานรวมกันอยู่บริเวณสถานีขนส่งทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร

ส่วนการออกข้อบังคับพนักงานจราจรสงกรานต์ล่าสุดนั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ลักษณะใช้มาตรการใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยจะรออกข้อบังคับรถบรรทุกน้ำเข้าเป็นบางจุด โดยเฉพาะจุดใหญ่ๆ ที่มีการเล่นสงกรานต์เป็นจำนวนมากลักษณะเดินบนถนนที่มีการปิดการจราจร อาทิเช่น ถนนสีลม ถนนอาร์ซีเอ รถน้ำบางส่วนที่มีการเอาถังน้ำไปไว้บนรถกระบะแล้ววิ่งไปตามถนน ขอความร่วมมือว่าอย่านั่งบริเวณขอบกระบะและเล่นน้ำระหว่างทางวิ่ง ขอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อนแล้วค่อยเล่นน้ำ ค่อยขึ้นไปอยู่บนกระบะ เนื่องจากบนรถกระบะไม่มีที่ยึดเกาะ อาจจะทำให้ลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ปีที่ผ่านมามีผู้บาดเจ็บมาค่อนข้างเยอะ จึงเป็นมาตรการเสริมไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับอันตรายจากการเล่นสงกรานต์ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการว่ากล่าวตักเตือนก่อนเป็นหลัก เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ทุกพื้นที่

ส่วนการเน้นจับกุมข้อหาหลักนั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า เป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั่งการลงมาว่า ข้อหาที่จะทำให้ก่อเกิดอุบัติเหตุต้องเน้นบังคับใช้กฎหมาย โดยได้มีการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ทางบช.น. ออกเป็นแผนในการปฏิบัติ 2 ห้วงเวลา ห้วงแรกตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 10 เมษายน จะกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักออกกวดขันวินัยจราจรโดยเน้นไปที่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งผู้ขับขี่ผู้ซ้อน หากพบการกระทำผิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ทันที อย่างไรก็ตาม ต้องเรียนประชาชนให้ทราบด้วยว่า อย่ากล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งด่านลอยหรือด่านเถื่อน อยู่ 1-2 คน มาดักจับนั้น กรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นการดักจับแต่เป็นการจับกุมการกระทำผิดซึ่งหน้าตามยพ.ร.บ.จราจรฯ และตามป.วิอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายตรวจจับการกระทำความผิดซึ่งหน้าและความผิดที่เห็นชัดแจ้ง ขับรถจักรยานยนต์มาถึงทางร่วมทางแยกไม่สวมหมวกนิรภัยเราก็ต้องดำเนินการและหลังจากวันที่ 11 – 18 เม.ย. เราจะมีการตั้งเต็มรูปแบบกวดขันวินัยจราจร 5 ข้อหาหลัก ได้แก่ 1.ขับรถเร็วเกินกำหนด 2.ขับรถขณะเมาสุรา 3.ไม่สวมหมวกกันน็อก 4.ขับรถไม่มีใบอนุญาต 5.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และมีการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อทำให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยในการเดินทางและอุบัติเหตุรถน้อยลง เป้าหมายในปีนี้อุบัติเหตุต้องลดลง คนเจ็บในปีนี้น้อย ผู้เสียชีวิตต้องลดลง ไม่ได้มีเป้าหมายให้มีผลการปฏิบัติมากขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใด

ขณะที่มีรายงานระบุว่า ทางบช.น.กำหนดให้มีการจัดตั้งจุดบริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 4 – 13 เมษายน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง และให้บริการ ตรวจสภาพรถแก่ประชาชนในถนนสายหลักที่ออกนอกเมือง อย่างน้อยกองบังคับการละ 1 จุด โดยมีจุดบริการหลักดังนี้ แยกมารยาทดี ถนนเพชรอุทัย (สน.มักกะสัน) สถานีขนส่งกรุงเทพฯ จตุจักร (สน.บางซื่อ) แยกมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ (สน.ลำผักชี) หน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ขาออก (สน.ประเวศ) ถนนบางนา-ตราด กม. 4.5 (สน.บางนา) แยกปทุมวัน ถนนพญาไท (สน.ปทุมวัน) สถานีขนส่งกรุงเทพฯ สายใต้ใหม่ (สน.ตลิ่งชัน) หน้าตลาดโอ๋เอ๋ จุดตรวจโพธิ์ทอง ถนนพระราม 2 ขาออก (สน.บางมด) ถนนพระราม 2 ขาออก กม. 11 (สน.แสมดำ)