“ป๋าเปรม”ส่งสาร์นถึงหลานรัก โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ฝาก อย่าลืมความเป็นไทย-เป็นธรรม ด้าน คนสนิท ปัด ไม่เกี่ยวปมเช็คบริจาคเงินเข้ามูลนิธิฯ -สุขภาพ ยัน 11 เม.ย.เปิดบ้าน รับ คณะ นายกฯ ตบเท้า อวยพร-รับพร วันสงกรานต์

วันที่ 5 เมษายน ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้”รุ่นที่ 33 โดยมี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ ผู้แทนเหล่าทัพ กระทรวงมหาดไทย ศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนใต้ (ศอ.บต.)และหน่วยงานอื่นๆเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ซึ่งในปีนี้มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการมาจาก จ.ยะลา จ.นราธิวาท จ.ปัตตานี จ.สตูล และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.จะนะ อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย และ อ.เทพา รวมทั้งสิ้น 320 คน นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 208 คน นับถือศาสนาพุทธ จำนวน 111 คน นับถือศาสนาคริสต์ จำนวน 1 คน

โดย พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ปกติแล้ว พล.อ.เปรม จะมาเปิดโครงการฯ แต่ครั้งนี้ไม่สามารถมาเปิดโครงการได้จึงมอบหมายให้ตนมาเป็นประธานในพิธีแทน อย่างไรก็ตามท่านก็ยังมีความรักและห่วงใยในเยาวชนและได้มอบสารถึงเยาวชนดังนี้

“หลานรักทุกคน เสียดายและเสียใจจริงๆที่ไม่ได้พบกันเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้นเราจะได้พบกันอีก หลานรักทุกคนต้องไม่ลืมความเป็นไทยและความเป็นธรรม 2 วลีนี้ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีในประเทศของเราที่เธอทุกคนเป็นเจ้าของ”

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนขอเรียนให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่าที่เราดำเนินการมาจนถึงทุกวันนี้โครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วนและจากผลการดำเนินงาน ที่ผ่านมาเราได้ทำงานจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเนื่องจากท่านทั้งหลายที่ได้มาร่วมงานโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้รู้และเข้าใจโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้เป็นอย่างดี

“เยาวชนอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อ ในเรื่องของการศึกษา การเดินทางมาครั้งนี้ก็จะได้รับการแนะแนว ซึ่งบางคนก็มีเป้าหมายในชีวิตอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีมุมมองใหม่ๆมีอาชีพที่น่าสนใจทำให้เราเลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวและทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองได้มากมาย“องคมนตรี กล่าวและว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้คิด หาทางเลือกว่าจะเดินไปเส้นทางใดเพื่อให้มีอนาคตสอดคล้อง กับอาชีพเหล่านั้น

ด้าน พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม กล่าวชี้แจงว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้ติดธุระอะไร จึงมอบหมายให้ พล.อ.สุรยุทธ์ เนื่องจากเป็นประธานโครงการ และไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพของ พล.อ.เปรม ซึ่งท่านแข็งแรงดี และไม่เกี่ยวกรณีที่ถูก นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร พาดพิง เรื่องเช็คบริจาคเงินในชื่อ พล.อ.เปรม เข้ามูลนิธิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 เมษายนนี้ พล.อ.เปรม ยังคงเปิดบ้านพักสี่เสาเทเวศ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะรัฐมนตรี และกองทัพ เข้าขอพรและรัลพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย