โลคอลคอนเทนต์ยึด “ยูทูบ” 70% ฟังเพลง 51% ดูทีวีย้อนหลัง

เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก รวมถึงในบ้านเราด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่ 40 ล้านบัญชี (ณ สิ้นปี 2560) โดยประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก

“เบน คิง” ผู้อำนวยการ กูเกิล ประจำประเทศไทย กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ใช้งานยูทูบ 70% ใช้ฟังเพลง 51% ดูรายการทีวีย้อนหลัง 33% หาความรู้ใหม่ ๆ และ 24% หาข้อมูลสินค้า และบริการที่สนใจ

โดยการรับชมรายการทีวีย้อนหลังบน “ยูทูบ” คิดเป็น 89% ของทุกช่องทาง โดยเฉพาะในช่วง 30 วันที่ผ่านมา มีผู้ชมดูคอนเทนต์ย้อนหลังของช่อง 3 ประมาณ 34.7 ล้านคน ต้องยอมรับว่าไม่มากก็น้อยมาจากอิทธิฤทธิ์ของละครชื่อดัง “บุพเพสันนิวาส” โดยแท้ ส่วนช่อง “เวิร์คพอยท์” มีการชมย้อนหลัง 22 ล้านคน

“ผู้บริหาร” กูเกิลย้ำว่า “ยูทูบ” ป็นตัวเลือกอันดับแรกในการดูรายการทีวีย้อนหลังของผู้บริโภคไทยในปัจจุบัน

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ “ยูทูบ” ได้มอบรางวัล Diamond Button สำหรับช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน ให้กับช่อง GMM GRAMMY OFFICIAL และช่อง WorkpointOfficial โดยระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีช่องยูทูบที่ได้รับรางวัล Diamond Button และมีช่องที่ได้รับรางวัล Gold Button ซึ่งหมายถึงช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย-แปซิฟิก คือมีมากถึง 49 ช่อง

ไม่ใช่แค่นั้นในปี 2560 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปีที่น่าจดจำสำหรับ “ยูทูบ ประเทศไทย” เนื่องจากพบว่ามีจำนวนช่องที่ได้รับรางวัล Silver Button (ช่องที่ผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนคน) และ Gold Button หรือช่องที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากด้วย โดยเฉพาะช่อง Gold Button เพิ่มขึ้นถึงเดือนละ 4 ช่อง

ขณะที่ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีช่องยูทูบที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 จำนวน 100 ช่องแล้ว และช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 100,000 จำนวน 1,200 ช่อง สะท้อนถึงความชื่นชมในการดูคอนเทนต์ประเภท “วิดีโอ” ของคนไทยได้เป็นอย่างดี

“ยูทูบ” ยังเปิดเผยถึงผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย TNS ด้วยว่า 93% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 92% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในต่างจังหวัด ชมวีดีโอบน “ยูทูบ” โดยคนในเมืองกรุงมีการใช้งานเฉลี่ย 70 นาที/ครั้ง หรือ 2.4 ชั่วโมง/วัน ส่วนคนนอกเมือง มีการใช้งานเฉลี่ย 60 นาที/ครั้ง หรือ 2.1 ชั่วโมง/วัน

ทั้งยังพบด้วยว่าจากผู้ที่เข้าชมวิดีโอบน “ยูทูบ” 75% มีการเข้าชมทุกวัน และ 62% เข้าชมวันละหลาย ๆ ครั้งอีกต่างหาก โดยในวันธรรมดามีการใช้งานเฉลี่ย 2.3 ชั่วโมง วันสุดสัปดาห์เฉลี่ย 2.9 ชั่วโมง

หากแบ่งตามช่วงอายุจะพบว่า 85% มีอายุระหว่าง 16-24 ปี 79% อายุ 25-34 ปี และ 67% อายุ 35 ปีขึ้นไป หมายความว่า กลุ่มผู้ใช้ “ยูทูบ” จึงไม่ใช่แค่ “วัยรุ่น”

“มุกพิม อนันนตชัย” หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจบันเทิง ยูทูบ ประเทศไทย กล่าวว่า เนื้อเเท้ของเเพลตฟอร์มยูทูบ ไม่ใช่เเค่มีทีวีและเพลง แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์เข้ามาเเสดงออกในสิ่งที่อยากทำ ดังนั้นจะเห็นว่าประเภทของคอนเทนต์เริ่มมีกว้างขึ้น แต่สัดส่วนหลักยังคงเป็นทีวีและเพลงรวมกัน 50% ส่วนคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟบางรายการต้องยอมรับว่าเริ่มมีการออกไปอยู่บนแพลตฟอร์มอื่นทำให้ผู้ชมย้ายตามไปบ้าง แต่ไม่มากเพราะยูทูบยังเป็นที่ 1 ที่ผู้บริโภคเลือกชมรายการทีวีย้อนหลัง

“เรามองว่ายูทูบกับแพลตฟอร์มให้บริการวิดีโออื่น ๆ มีจุดยืนแตกต่างกัน แม้จะมีพาร์ตเนอร์ไปลองแพลตฟอร์มใหม่บ้าง เป็นเรื่องปกติ และเป็นธรรมดาที่ช่องทีวีจะมีเเพลตฟอร์มของตนเอง ซึ่งยูทูบพยายามจะโฟกัสในสิ่งที่ตนเองแข็งแรง อาจมีบางส่วนที่ทับซ้อนกับแพลตฟอร์มอื่น สุดท้ายผู้บริโภคจะตัดสิน”

สำหรับจุดแข็งของยูทูบยังเป็นเทคโนโลยีและการนำข้อมูลต่าง ๆ มาปรับปรุงการใช้งาน เช่น ข้อมูลจากผู้บริโภค, นักโฆษณาและผู้ให้บริการคอนเทนต์ เพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งยูทูบมีข้อได้เปรียบในแง่จำนวนคนเข้าถึง ปัจจุบันมีแบรนด์มากกว่า 100 แบรนด์ที่มาทำโฆษณาบนยูทูบ และหลากหลายประเภท โดยมีหลายแบรนด์ที่เลือกลงโฆษณาบนยูทูบเป็นหลัก

ขณะที่คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยม มีทั้งรายการทีวี, สารคดี, ฟุตบอล, ข่าว และการศึกษา แต่ที่มาแรงขึ้นมากอยู่ในกลุ่มคอนเทนต์ที่ผลิตในประเทศ โดยเพลงไทย 6 ใน 10 เพลงที่ได้รับความนิยมเป็นเพลงลูกทุ่ง ทำให้มีครีเอเตอร์ท้องถิ่นมากขึ้น เช่น รายการ “ครัวบ้านทุ่งกับลุงเด่น”ที่เน้นพูดคุยกับคนในท้องถิ่น มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนราย หรือคอนเทนต์ที่มาแรงมากอย่าง เพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ของเกิร์ลกรุ๊ปดัง Bnk48 ภายใน 4 เดือนก็มียอดวิว สูงถึง 90 ล้านวิว เป็นต้น