ผบ.ทบ.สั่งจนท.สอบใครหนุนหลัง “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”-“จ่านิว” โต้ไม่ยอมปล่อยอำนาจ

วันที่ 28 มีนาคม 2561 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนขบวนชุมนุมมาหน้าบก.ทบ.ในช่วงที่ผ่านมาว่า กลุ่มดังกล่าวมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ในทุกสัปดาห์ตั้งแต่เดือนก.พ.ถึงปัจจุบัน ล่าสุด เคลื่อนมวลชนมายังกองทัพบก ซึ่งเราเข้าใจดีว่าข้อเรียกร้องให้กองทัพแยกออกจาก คสช. เป็นแค่เงื่อนไขที่เสนอขึ้นมา แต่ความต้องการจริงๆ คือการเคลื่อนย้ายมวลชนไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านความมั่นคงดูแลอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า แต่สิ่งที่คงอยู่ คือความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต้องดำเนินการไป และมีผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ กระบวนการตามกฎหมายเมื่อเดินหน้าไปแล้ว ก็หยุดไม่ได้ต้องเดินตามนั้น ซึ่งทางแกนนำคงจะทราบว่าต้องเผชิญอะไรบ้าง และคงไม่กังวล ท้ายที่สุดก็มีคนเข้ามาดูแลอยู่เบื้องหลัง

“สิ่งที่ตนห่วงใย อยากฝากเป็นข้อคิด ผู้ที่ตามขบวนมาที่ไม่ใช่แกนนำ เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ได้สั่งการให้ ศูนย์ปรองดองกองทัพบก ไปดูแลผู้ต้องหาที่ต้องคดีทางการเมือง ที่ไม่ใช่แกนนำ ซึ่งบุคคลเหล่านี้แห่ตามสถานการณ์ ไปช่วยเหลือเพื่อนในบางเรื่องที่ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย มีการตัดสินจำคุกหลายปี ครอบครัวเดือดร้อน นายกฯก็สั่งการให้ศูนย์ปรองดองลงไปแก้ปัญหา โดยร่วมกับกระทรวงยุติธรรม จัดทีมให้คำแนะนำปรึกษา และดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงยุติธรรมจนได้รับการพักโทษมาแล้วหลายรายและขณะนี้ก็ยังดำเนินการช่วยเหลืออยู่” ผบ.ทบ. กล่าว

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า ผมยืนยันว่าบุคคลเหล่านี้น่าเห็นใจ เพราะไม่ได้มีอุดมการณ์ เพียงแต่ต้องการช่วยเพื่อน หรือไปฟังการปลุกระดมแล้วมีอารมณ์ร่วม จึงเข้าไปสู่กระบวนการตรงนี้ ผมอยากฝากไว้ว่า เมื่อถึงเวลานั้นแล้วก็ไม่มีใครดูแลหรือมาช่วยเหลือ สุดท้ายครอบครัวก็แตกแยก ที่ผ่านมาศูนย์ปรองดองกองทัพบกช่วยเหลือไปแล้วหลายราย และยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขอฝากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ผมไม่ห่วงแกนนำ” ผบ.ทบ.กล่าว

“ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบว่ามีกลุ่มการเมืองหนุนหลังการเคลื่อนไหวกลุ่มคนอยากเลือกตั้งหรือไม่ รวมถึงการสนับสนุนเส้นทางการเงิน แต่ปัจจุบัน ทุกอย่าง ดูเลื่อนลอย ข้อเรียกร้องก็เลื่อนลอย และไม่มีเงื่อนไขอะไร เพียงแต่ต้องการเคลื่อนขบวน ซึ่งปัญหาคือความเดือดร้อนของประชาชน และจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเราก็ระมัดระวัง ฝ่ายความมั่นคงยืดหยุ่นในทุกเรื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อส่วนรวม” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวอีกและว่า ส่วนความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนไหวไปถึงเดือนพ.ค.เพื่อก่อหวอดให้มีการเลือกตั้งในปีนี้นั้น ก็ถือเป็นแนวความคิด ของกลุ่มคนเหล่านี้ แต่จะมีประชาชนไปร่วมการชุมนุมมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็แล้วแต่เหตุและผล คิดว่าเวลานี้บ้านเมืองต้องการความสงบและนำไปสู่การเลือกตั้งตามที่นายกฯ ระบุไว้

ด้านนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ได้กล่าวกับสื่อหลังพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อลงบันทึกประจำวันก่อนพนักงานสอบสวนส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการ ในคดีผิดพรบ.ชุมนุมสาธารณะ และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.3/2558 กรณี จัดกิจกรรม “ปลุกพลังคนอยากเลือกตั้งออนทัวร์ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ถึงสิ่งที่ ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์พาดพิงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า ข้อเรียกร้องของเรา เกิดจากการพิจารณาสภาพความเป็นจริง โดยบริบททางกฎหมายแล้ว ซึ่งก็สอดคล้องกับวิถีทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย เราพยายามหาทางออกให้กับสังคมทุกฝ่ายแล้ว หากไม่มีความพยายามสร้างอภินิหารทางกฎหมาย เพื่อถ่วงเวลาการเลือกตั้งออกไป ตามที่หลายฝ่ายเคยได้คาดการณ์ไว้ แต่ที่ ผบ.ทบ.พูดเช่นนี้ ไม่ใช่ไม่มีทางที่จะทำตามข้อเรียกร้องได้ แต่เพราะไม่คิดจะทำเอง ไม่ยอมปล่อยวางอำนาจ

“ที่กองทัพเคยออกมาระบุว่า คสช.กับกองทัพเป็นเนื้อเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้ นั้น ตนคิดว่า คสช.คือส่วนเกินของกองทัพต่างหาก เนื่องจาก ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ประเทศไทยไม่เคยมีองค์กร หรือ สถาบันที่เรียกว่า คสช.เลย และที่ผ่านมา คนใน คสช.ก็คาบเกี่ยวในรัฐบาล กองทัพ และแม่น้ำ 5 สาย เพื่อบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องควบตำแหน่ง หรือ เห็นแก่เงินเดือนจำนวนมากที่ได้รับสองทาง มาโดยตลอด จึงต้องออกมาพูดย้ำถึงความเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อที่จะได้ประโยชน์เช่นที่กล่าวมานี้ต่อไป ตราบเท่าที่ คสช.อยู่ในอำนาจ ใช่หรือไม่” แกนนำคนอยากเลือกตั้งกล่าว

นายสิรวิชญ์ ยังกล่าวถึงการหนุนหลังจากพรรคการเมืองใหญ่ ตนขอบอกไว้เลยว่า จะไม่ใช่ม็อบหลักร้อยเช่นนี้แน่ๆ เส้นทางการเงินที่ผ่านมา มาจากพี่น้องประชาชนร่วมสนับสนุน ซึ่งก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้มากขนาดที่น่าสงสัยว่าจะมีการสนับสนุนจากพรรคการเมืองใหญ่ มีการชี้แจงยอดบริจาคอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการเคลื่อนขบวนของเรานั้น เราได้เลือกวันที่มีการจราจรเบาบาง เพื่อที่จะมีผลกระทบกับการจราจรน้อยที่สุด มีการวางแผนเพื่อควบคุมขบวนให้อยู่ในเลนเดียว แต่เป็นเจ้าหน้าที่ของท่านเองนั่นแหละ ที่พยายามขัดขวาง ทำให้เกิดความวุ่นวาย

“ส่วนการชุมนุมในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ เราคาดหวังให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง เราต้องการเห็นวันเลือกตั้งที่ชัดเจน แน่นอน เป็นคำสัญญาของชายชาติทหาร ที่จะไม่ตระบัดสัตย์อีก” นายสิรวิชญ์ กล่าว