เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ขอถอนตัวไม่ร่วมถกปมนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันที่ 29 มีนาคมนี้ ว่า แม้ประธานป.ป.ช. จะประกาศถอนตัว แต่การที่สังคมรับรู้ในวงกว้างว่าประธานป.ป.ช.เคยเป็นเลขาของผู้ถูกกล่าวหาและการต่ออายุป.ป.ช.ในขณะที่กรรมการในองค์กรอิสระอื่นถูกเซ็ตซีโร่ ทำเพื่อการนี้หรือไม่ กรรมการและเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.คนอื่นๆ จะรู้สึกและมีทัศนคติอย่างไรอย่างไรต่อเรื่องนี้ หนังสือชี้แจงที่พล.อ.ประวิตร ชี้แจงมาก่อนหน้านี้ สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้หรือไม่ ผลพวงจากการให้ลดราวาศอก รักนายกฯต้องรักรองนายกฯด้วย ทำให้การตรวจสอบไม่คืบหน้าหรือไม่ ทั้งที่ถ้าตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่น่าจะมีอะไรสลับซับซ้อน เพียงตรวจสอบหมายเลขกำกับเครื่อง เอกสารการซื้อขาย การเสียภาษี ถ้าเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 ก็เชิญมาให้ถ้อยคำ ก็น่าจะมีคำตอบให้กับประชาชนได้

ท่านอดทนกับคนอยู่ใกล้ตัว แต่ไม่อดทนกับคนอยู่ไกลตัวหรือไม่ ทีกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.อ้างว่าพูดให้เกิดความสับสน จนใช้อำนาจมาตรา 44 ไปปลดกรรมการในองค์กรอิสระ หากป.ป.ช.ถูกมองว่า ทำงานตรวจสอบล่าช้า สองมาตรฐาน ไม่ตรงไปตรงมา เอื้อพวกพ้อง ควรต้องปลดด้วยหรือไม่

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เกือบ 4 ปี ที่ไม่มีนักการเมือง แต่การทุจริต ตรวจที่ไหน เจอที่นั่น โกงแม้กระทั่งวัด โกงนักเรียน โกงคนไร้ที่พึ่ง โกงผู้ป่วยเอดส์ โกงชาวเขา วัคซีนฉีดหมายังโกงหรือไม่ ไหนบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับปราบโกง แต่ทำไมโกงไม่ลด กลับมีแต่เพิ่มหรือไม่ ประชาชนถึงอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพราะถ้าพบโกงหนักขนาดนี้ แล้วไม่มีฝ่ายค้านในสภา ไม่มีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ มาช่วยกันตรวจสอบ จะไม่สามารถยับยั้งการโกงได้ การพบโกงเยอะๆ เพราะกลไกตรวจสอบมีปัญหาหรือไม่