วันที่ 1 ก.ย. จากกรณีทำเนียบขาวประกาศว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะไม่เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ และมอบหมายให้นายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีร่วมประชุมแทน เนื่องจากนายทรัมป์จะไปร่วมงานครบรอบ 100 ปีสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นจะไปร่วมประชุมกลุ่มจี 20 ที่กรุงบูเอโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

เกียวโดนิวส์ รายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวสร้างความผิดหวังโดยเฉพาะกับประเทศสิงคโปร์ เจ้าภาพ และเพิ่มความห่วงกังวลมากขึ้นว่า ผู้นำสหรัฐจะตีตัวออกห่างจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อเนื่องจากที่ถอนตัวจากข้อตกลงการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือทีพีพี หลังจากนายทรัมป์นั่งตำแหน่งผู้นำไม่นาน

รายงานระบุว่า สิงคโปร์ในฐานะเจ้าภาพจัดงานประชุมที่จะทิ้งทวนตำแหน่งประธานอาเซียน ก่อนส่งมอบให้ไทย คาดหวังไว้สูงว่านายทรัมป์จะเดินทางมาเข้าร่วมประชุม หลังจากเพิ่งทุ่มเงิน 12 ล้านเหรียญหรือราว 392 ล้านบาทเป็นสถานที่จัดหารือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างนายทรัมป์ กับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีเมื่อ 12 มิ.ย.ปีนี้

อีกทั้งสหรัฐยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่ลำดับที่สามของอาเซียนและเป็นแหล่งลงทุนทางตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไออันดับ 4

“เราตั้งตาคอยการปฏิสัมพันธ์ต่อไปจากสหรัฐ ขณะที่เราก้าวสู่ขั้นถัดไป” นายชาน ชุนซิง รมว.การค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์กล่าว และว่าความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนระหว่างสหรัฐกับอาเซียนยังแข็งแกร่งอยู่และสองฝ่ายกำลังแสวงหาความร่วมมือในสาขาใหม่ อาทิ เทคโนโลยีชีวภาพด้านเกษตร

ด้านนายเจฟฟรีย์ แกร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐกล่าวปลอบใจว่า สหรัฐและอาเซียนยังคงมีพันธสัญญาที่ล้ำลึกและยาวนาน ทั้งยังจะเติบโตเป็นคู่ค้าที่สำคัญต่อสหรัฐมากขึ้น