สรุปข่าวในประเทศ : กปปส.เจอฟ้องเพิ่ม14ราย เจอ8ข้อหาหนักรวม”กบฏ” / คดี’เสก10นัด’จำคุก5วันปรับ2พัน / ‘บิ๊กป้อม’ส่งหนังสือเคลียร์ปมนาฬิการอบที่4

สงกรานต์นี้ “วีระศักดิ์” เชื่อคึกคัก คาดปีนี้เงินสะพัดกว่า 1.9 หมื่นล้าน

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง จะสร้างรายได้มากถึง 19,820 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18 โดยจากการประเมิน แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 530,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 สร้างรายได้ประมาณ 9,378 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 ทั้งนี้ พบว่ายอดจองบัตรโดยสารเครื่องบินล่วงหน้าระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน ตลาดที่มีแนวโน้มเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงนี้เพิ่มขึ้นดี คือ ฝรั่งเศส ไต้หวัน เกาหลีใต้ รัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ส่วนตลาดในประเทศไทย คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งด้านจำนวนและรายได้ โดยมีการเดินทางประมาณ 3 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และเกิดการใช้จ่ายสร้างรายได้ภายในประเทศประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ทั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลประกาศเพิ่มวันหยุดและมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ผ่อนคลายขึ้นทั้งจากผ่านพ้นช่วงไว้ทุกข์และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น การเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์ และการทำตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มความน่าสนใจและทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำหรับเมืองหรือจังหวัดรองทางการท่องเที่ยวพิเศษมี 5 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี จันทบุรี นครศรีธรรมราช กาฬสินธุ์ และกำแพงเพชร

แกนนำ กปปส.เจอฟ้องเพิ่ม 14 ราย อัยการคดีตั้ง 8 ข้อหาหนักรวมทั้ง “กบฏ”

อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้นำ 14 แกนนำ กปปส. ประกอบด้วย 1.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก อายุ 52 ปี 2.พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อายุ 81 ปี 3.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี 4.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ อายุ 46 ปี 5.นายถนอม อ่อนเกตุพล อายุ 49 ปี 6.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี 7.พุทธะอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 58 ปี 8.นายสาธิต เซกัล อายุ 72 ปี, 9.น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อายุ 55 ปี 10.พล.อ.ท.วัชระ ฤธาคนี อายุ 70 ปี 11.พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อายุ 74 ปี อดีตรอง ผบ.ทสส. 12.นายแก้วสรร อติโพธิ อายุ 66 ปี 13.นายไพบูลย์ นิติตะวัน อายุ 63 ปี และ 14.นายถวิล เปลี่ยนศรี อายุ 64 ปี ไปยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว เมื่อวันที่ 14 มีนาคม

ในความผิดฐาน 1.ร่วมกันเป็นกบฏ, สนับสนุนและร่วมกันสนับสนุนในความผิดกบฏ, ยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน ร่วมกันปิดงานงดจ้าง, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ โดยมีอาวุธ หรือเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก, บุกรุก โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปหรือในเวลากลางคืน และร่วมกันกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อไม่ให้ผู้เลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้ หรือขัดขวางไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป และทำให้เสียทรัพย์ รวม 8 ข้อหา ศาลได้รับฟ้องและมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 14 คนโดยตีราคาประกันจำเลย คนละ 600,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ อัยการยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. พร้อมแกนนำไปแล้ว 9 คน รวม 8 ข้อหา

คดี เสก โลโซ ยิงปืนขึ้นฟ้าที่นครศรีฯเจอจำคุก 5 วัน ปรับ 2000 บาท

จากกรณีนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” นักร้องชื่อดัง ถูกตำรวจ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จับกุมดำเนินคดี จากกรณีที่ยิงปืนขึ้นฟ้า 10 นัด เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2560 ภายในวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 อัยการได้ส่งฟ้องนายเสกสรรค์ต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฐานกระทำผิดข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะและยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตัดสินในคดีนี้ว่า มีความผิดจริง แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ แต่จำเลยเป็นบุคคลสาธารณะ มีชื่อเสียงสมควรเป็นแบบอย่างที่ดียิ่งและต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าบุคคลทั่วไป เนื่องจากสามารถเป็นที่จดจำได้ง่ายอันอาจเป็นแบบอย่างก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำผิดหากถูกเผยแพร่อาจเป็นบรรทัดฐานให้บุคคลอื่นอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงผิดก่อเหตุในทำนองเดียวกันได้ สำหรับคุณงามความดีในอดีต การช่วยเหลือสังคมต่างๆ ของจำเลยที่ผ่านมาแม้ควรส่งเสริม แต่ไม่สามารถลบล้างความผิดได้เนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน จึงเห็นสมควรพิพากษาลงโทษข้อหายิงปืนในที่ชุมชนโดยใช่เหตุ จำคุก 10 วัน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุกเหลือเพียง 5 วัน คงจำคุก 5 วัน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนการพกพาอาวุธปรับ 2,000 บาท จากนั้นทนายความส่วนตัวของนายเสกสรรค์ ได้ยื่นขอประกันตัวและเตรียมจะอุทธรณ์ต่อไป

บิ๊กป้อมส่งหนังสือเคลียร์ปมนาฬิการอบที่ 4 “25 เรือน”-ทันเส้นตายพอดี

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม แหล่งข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า การให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงรายละเอียดของนาฬิกาทั้ง 25 เรือน ตามที่ ป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือไปเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งครบกำหนดชี้แจงในวันที่ 15 มีนาคมนั้น ปรากฏว่า พล.อ. ประวิตรได้ให้เจ้าหน้าที่นำหนังสือชี้แจงส่งถึงยังสำนักงาน ป.ป.ช. เวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 15 มีนาคม โดยสำนักบริหารงานกลางได้ลงเลขรับหนังสือเรื่องดังกล่าวเอาไว้เรียบร้อยแล้วและได้ส่งเอกสารดังกล่าวไปให้คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง

ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตรส่งหนังสือชี้แจงมาทันกำหนดในที่ 15 มีนาคม เพียงแต่ยังไม่ได้เห็นหนังสือดังกล่าวา ขอให้ได้ดูหนังสือชี้แจงดังกล่าวก่อนจึงจะชี้แจงได้