อาชญากรรม : พลิกนาทีป้ารำขวาน ทุบรถจอดขวางบ้าน สะเทือนถึงผู้ว่าฯ กทม. จ่อปิด 5 ตลาดประเวศ

ฟ้าสะท้านดินสะเทือนขึ้นมาทันที สำหรับปฏิกิริยาที่ต่อเนื่องจากคลิปวิดีโอที่มีผู้บันทึกได้

เป็นภาพหญิงสูงวัย 2 คน ใช้ขวานและเสียมทุบรถปิกอัพที่จอดขวางหน้าบ้านย่านสวนหลวง ร.9

ซึ่งตอนแรกก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงความไม่เหมาะสม ที่ใช้อารมณ์ และความรุนแรงทำลายทรัพย์สิน

แต่เมื่อความจริงปรากฏก็ถึงกับตะลึง เมื่อต้องรับรู้ถึงความอัดอั้นของบรรดาป้าๆ ที่พักอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว

เพราะมีตลาดล้อมรอบอยู่ถึง 5 แห่ง!??

แถมเป็นตลาดที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายเสียด้วย

ส่งผลให้ต้องเผชิญกับบรรดามลภาวะ ทั้งขยะ เสียง กลิ่น รวมทั้งการถูกละเมิดด้วยการจอดรถขวางซ้ำแล้วซ้ำอีก

จนกลายเป็นคำถามว่า กทม. ที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่ ปล่อยปละละเลยให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นได้อย่างไร เป็นสิบๆ ปี

แน่นอนว่าความผิดเกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินก็ต้องดำเนินต่อไปภายใต้กฎหมายที่ไม่มีใครละเมิดได้

แต่เรื่องตลาดที่ผิดกฎหมายที่ปล่อยไว้ไม่ได้เช่นกัน

ต้องมีคนรับผิดชอบ!!?

ป้าสุดทน-ทุบรถจอดขวาง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ใกล้กับตลาดนัดในหมู่บ้านเสรีวิลล่า แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. เมื่อ น.ส.รชนิกร เลิศวาสนา อายุ 37 ปี ขับรถปิกอัพนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีขาว ทะเบียน ฎค 9297 กทม. ไปจอดหน้าประตูบ้านเลขที่ 37/208 ก่อนลงจากรถไปซื้อของในตลาดนัด

ขณะนั้นก็มีคนกำลังจะออกจากบ้านไปธุระ แต่เมื่อเปิดประตูออกมาก็เจอรถจอดขวาง ทำให้เจ้าของรถบีบแตรไล่ดังสนั่น ส่งผลให้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของอยู่ที่ตลาดต่างหันมาให้ความสนใจ พร้อมสอบถามว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของรถ

และแล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อป้าเจ้าของบ้านคว้าขวานเข้ามาจามไปที่กระจกรถ ส่วนป้าอีกคนก็เอาเสียมมาทุบลงที่กระโปรงหน้ารถและกันชน สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้พบเห็น

เวลาผ่านไปอีกหลายนาที เจ้าของรถที่เพิ่งช้อปปิ้งสินค้ากลับมาเรียบร้อยก็มาถึงรถ แล้วก็เกิดวิวาทะระหว่างกัน โดยเจ้าของบ้านต่อว่าและสอบถามถึงจิตสำนึกในการจอดรถขวางประตูบ้านคนอื่น

ส่วนหญิงสาวเจ้าของรถก็ไม่ยินยอม เนื่องจากรถถูกทุบตีเสียหาย จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ

โดย พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า รับแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว ในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท ซึ่งประเมินแล้วมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 หมื่นบาท โดยเตรียมจะออกหมายเรียกมารับข้อกล่าวหา และเตรียมแจ้งข้อหาพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

“ผู้เสียหายจอดรถขวางหน้าบ้านคนที่ทุบรถ จุดดังกล่าวห้ามจอดในช่วงเวลา 06.00-10.00 น. แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 11.00 น. จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร แต่จอดขวางบ้านคนอื่น ก็เป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านจะแจ้งความร้องทุกข์ได้ ในข้อหาก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 พันบาท”

ขณะที่ น.ส.รชนิกร ระบุว่า ขับรถมาจากมหาชัยมาหาเพื่อน แล้วก็ขับรถมาตั้งใจจะไปซื้อของที่ตลาด แต่ไม่มีที่จอดรถ พยายามหาที่จอดรถข้างถนน จนมาเจอที่จอดดังกล่าวอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง คิดว่าเป็นบ้านร้างที่ถูกบังคับคดี เพราะติดป้ายไว้เยอะแยะ มีลวดสะลิงล็อกกุญแจ แต่ไม่ได้อ่านว่าป้ายเขียนอะไรบ้างเพราะเยอะ

คู่กรณีแจ้งความ

เมื่อจอดแล้วก็ล็อกเกียร์ เพราะเป็นความเคยชิน จะได้ไม่มีใครมาเข็นหรือเคลื่อนรถเราได้ ยอมรับว่าผิดที่จอดขวางทางเข้าออกบ้านคนอื่น แต่ก็ไม่ควรจะทำแบบนี้กับรถเรา ส่วนกระแสข่าวว่ามีคนเสียชีวิตเพราะไปหาหมอไม่ทันเนื่องจากถูกจอดขวางหน้าบ้าน ก็เป็นคนละเรื่องกัน หลังจากนี้ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เป็นคำชี้แจงของคนที่จอดรถขวาง

มือขวานเปิดใจ-ทนมา 10 ปี

หลังจากตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อเช้าวันที่ 20 กุมภาพันธ์ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ ที่ขับรถออกจากบ้านไม่ได้แล้วบีบแตรเรียก น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นผู้ใช้เสียมตีหน้ากระจกรถ และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี ที่ใช้ขวานจามรถ ตั้งโต๊ะแถลงที่บ้านหลังเกิดเหตุ

โดย น.ส.บุญศรี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุพยายามเลื่อนรถที่จอดขวาง บีบแตร โทร.แจ้งความแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมา เราต้องการให้สิ่งกีดขวางนี้ออกไป คนจอดรถต้องมีจิตสำนึก ป้ายก็มีติดไว้ คุณมากล่าวหาว่าบ้านร้างถูกบังคับคดีได้อย่างไร

วันเกิดเหตุสอบถามคนขับรถกระบะ เขาบอกว่าได้ยินเสียงแตรแล้ว แต่ยังซื้อของไม่เสร็จ แต่คุณกลับใส่เบรกมือทิ้งไว้ ทำได้อย่างไร เมื่อมาถึงก็เอาของใส่รถ แล้วยังยืนอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดเรา เราเป็นคนที่พักอาศัย กรุณาอย่าสนับสนุนคนที่เข้ามาทำผิดกฎหมาย

ทุกคนยืนดูเรากดแตรตั้งนาน ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ เราต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง ถ้าเป็นบ้านคุณ จะทำอย่างนี้เหรอ คนที่ยืนดูพวกตลาด ไม่มีใครสนใจเลย ก่อนที่จะทำ ได้ทำทุกอย่างแล้วมันเป็นเรื่องสุดวิสัยที่ทำลงไป

ที่ผ่านมาตลอด 10 ปี เราต่อสู้กับอำนาจมืด เรามาอยู่ในพื้นที่จัดสรรเพื่ออยู่อาศัย เดิมซื้อที่ดินนี้ ไม่มีตลาด แต่ต่อมามีตลาดทั้งซ้ายขวา มีเต็นท์โครงเหล็กขนาดใหญ่ ฝนตกน้ำก็เทเข้าบ้าน โดยผู้ว่าฯ กทม. ในขณะนั้น ออกใบอนุญาตให้ ทั้งที่มีคำสั่งคุ้มครองจากศาล แล้วยังละเลยปล่อยให้มีตลาดขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้านหน้า ด้านข้างเป็นตลาด ด้านหลังเป็นที่จอดรถ เกิดมลพิษทางเสียง ควันรถ เดือดร้อนตลอดเวลา ไม่เคยคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อยู่อาศัย

ส่วนที่ต้องเอาสะลิงมาขวาง เพราะมีรถมาขนถ่ายสินค้าหน้าประตูบ้าน รถขนของหนักๆ ทำให้ประตูพัง

ความเดือดร้อนก็มีก่อนนี้ คุณแม่ไม่สบาย เป็นโรคปอด ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล แต่รถออกไม่ได้ ต้องไปนอนโรงพยาบาล จนเสียชีวิต เพื่อนบ้าน พ่อไม่สบาย ก็ออกจากบ้านไม่ได้ เพื่อนบ้านอีกคนตกบันไดขาหัก รถพยาบาลเข้าไม่ได้ ต้องลงไปกราบถนนเพื่อขอร้องก็เคยมาแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาทั้งเรื่องค่าไฟที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ พักผ่อนก็ไม่ได้พัก ต้องเผชิญกับปัญหาขยะที่เอามากองหน้าบ้าน หนู เลขที่บ้านก็ถูกคนในตลาดนำไปใช้ วันดีคืนดีมีธนาคารส่งเอกสารมาให้ รู้สึกถูกคุกคาม อยู่แบบจิตตก

พร้อมตั้งคำถามถึง กทม. และเขตประเวศ ทำไมถึงปล่อยให้มีตลาดมาอยู่ในย่านที่พักอาศัย แม้ศาลปกครองจะมีคำสั่งคุ้มครองแล้วก็ตาม

ขยะใต้พรมก็ต้องถูกคุ้ยออกมา!!

อัศวินลุยตรวจ-จ่อปิด 5 ตลาด

ต่อมาวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะผู้บริหาร พร้อม นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผอ.เขตประเวศ เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมโทรศัพท์คุยกับ น.ส.บุญศรี เจ้าของบ้าน ซึ่งแสดงเจตจำนงให้รื้อถอนตลาดรอบบ้านให้เร็วที่สุด เพราะได้รับผลกระทบทั้งกลิ่น เสียง ควัน

พร้อมตรวจสอบตลาดที่อยู่ใกล้เคียง 5 แห่ง ประกอบด้วยตลาดสวนหลวง ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ตลาดยิ่งนรา ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง

ซึ่งพบว่าตลาดสวนหลวง ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่ไม่ได้ขออนุญาตตั้งตลาด ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ขออนุญาตก่อสร้างเชิงพาณิชย์ แต่ไม่ได้ขอตั้งตลาด และตลาดร่มเหลือง ไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร และจัดตั้งตลาด ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย

จึงสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และส่งหนังสือส่งไปยังเจ้าของตลาด แจ้งผู้ค้าให้แสดงความจำนงว่าจะค้าขายต่อหรือไม่ หากค้าขายก็ต้องปรับปรุงพื้นที่ให้ถูกต้องตามระเบียบที่กำหนด ภายใน 7 วัน หรือภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ต้องได้ข้อสรุปว่าจะปิดตลาดหรือดำเนินการอย่างไรต่อไป

จริงๆ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย เข้าข่ายตลาดเถื่อน แต่ที่ไม่ปิดทันที เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้ค้า จึงต้องให้เวลาด้วย

ด้านนายธนะสิทธิ์ เปิดเผยว่า ตลาดก่อสร้างมา 10 ปี ทางเขตแก้ไขปัญหามาตลอด ตลาด 4 แห่งขออนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่ไม่ได้ขออนุญาตทำตลาด แล้วมีการดำเนินคดีชั้นศาล ศาลมีคำสั่งคุ้มครองหน้าบ้านและรอบบ้านคุณป้า ก็ดูแลเรื่องนี้มาตลอด

แถมยังให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของคุณป้าว่า “ความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง เป็นผมก็จะเปิดบ้านขายของ หรือไม่ก็ไม่ขาย ที่ตรงนั้นราคาตารางวาละแสนกว่าบาท ที่ของคุณป้า 2 ไร่ 800 ตารางวา เป็นเงินร้อยกว่าล้าน ผมไม่อยู่แล้ว”

เป็นคอมเมนต์ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ขณะที่ ป.ป.ช. ได้ตั้งกรรมการสอบสวน หากพบมีข้าราชการที่รู้เห็นเป็นใจ ประพฤติผิด หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น

ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

เรียกได้ว่าขวานที่ฟาดรถไปวันก่อน สะเทือนถึงทุกภาคส่วนโดยพร้อมหน้า