เผยแพร่ |
---|
“ชูศักดิ์” ชี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ผ่านการสรรหามาทั้งหมดแบบสอบตกหมดยกชุด หลังสนช.ล้มชื่อ 7 ว่าที่กกต. บอก ไม่เข้าใจสนช.
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีมติไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 7 คนนั้นนับได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ผ่านการสรรหามาทั้งหมดแบบสอบตกหมดยกชุด เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงต้องเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร มติเช่นนี้มองเป็นอื่นไม่ได้นอกจากวิปกันมาก่อนลงมติว่า ให้มีมติไม่เห็นชอบทั้งหมด มีข้อน่าสังเกตว่า เหตุผลอันแท้จริงของการมีมติในลักษณะดังกล่าวมาจากเหตผลใด เนื่องจากก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการตรวจสอบคุณสมบัติก็ได้เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบคุณสมบัติของทั้ง 7 คนว่า ทุกคนมีคุณสมบัติครบถ้วน ส่วนผู้ที่มาจากการสรรหาของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คนที่มีปัญหาว่าสรรหามาโดยชอบหรือไม่นั้น ศาลฎีกาก็ได้ยืนยันมาแล้วว่าถูกต้อง จึงไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไม จึงไม่มีสักคนเดียวที่จะได้รับความเห็นชอบ เมื่อพิจารณามติของสนช. ก็ดูแปลกๆว่าสนช. เสียงส่วนใหญ่คิดเหมือนกันได้อย่างไรที่มีคะแนนเสียงข้างมากไม่เห็นชอบโดยมีคะแนนที่ลงให้แต่ละคนไม่แตกต่างกันมากนัก
“ความจริงสนช.ควรจะต้องแถลงให้ทราบว่าเหตุผลใดจึงไม่เห็นชอบ การแถลงของประธานสนช.ซึ่งเป็นผู้แทนขององค์กรเป็นประธานที่ประชุมและเป็นกรรมการสรรหาอยู่ด้วยว่า ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมจึงไม่เห็นชอบ นับได้ว่าเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล และสมควรที่กรรมการสรรหาจะต้องขอทราบเหตุผลว่าการไม่รับรองผู้เข้ารับการสรรหาเลยและแต่ละท่านมีเหตุผลอะไร แสดงว่ากรรมการสรรหาทำหน้าที่โดยบกพร่องหรือไม่อย่างน้อยก็จะได้เป็นเหตุผลในการตัดสินใจต่อกรณีที่จะต้องดำเนินการสรรหาใหม่ จึงขอตั้งข้อสงสัยว่าการลงมติในครั้งนี้น่าจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ที่ว่าไม่มีใบสั่งนั้นเห็นว่า สังคมคงไม่เชื่อ ความจริงก็คงค่อยๆเปิดเผยออกมา โดยส่วนตัวที่วิตกกังวลอยู่คือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับมติของกรรมสรรหาในการเลือกบุคคลว่าไม่เป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจอยากจะให้เป็นหรือไม่ หรือจะเกี่ยวข้องกับการเซ็ตซีโร่กรรมการกกต.ชุดปัจจุบันหรือไม่ เนื่องจากมีข่าวค่อนข้างหนาหูว่า กกต.ปัจจุบันบางคนอาจจะลาออกเพราะอยู่ไปก็ต้องรับผิดชอบรับเผือกร้อน บางท่านต้องพ้นเพราะอายุครบ กรณีนี้จึงอาจเกิดสูญญากาศ และอาจเป็นโอกาสที่จะใช้อำนาจพิเศษกันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างที่ว่าก็ต้องถือว่า เรื่องนี้มีการวางแผนกันมาเป็นขั้นเป็นตอนเข้าข่ายสมคบคิดอีกนั่นเอง” นายชูศักดิ์ กล่าว