แจ้งข้อหาเพิ่ม’เปรมชัย’ฐานมีปืนเถื่อน ‘บิ๊กปู’สั่งเช็กมือถือเสี่ยอิตาเลียนไทย หมายเรียกรอบ2พบพงส.5มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เป็นประธานประชุมพนักงานสอบสวนคดีที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกเข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก และถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานติดสินบนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมี พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รองผบช.ส. พล.ต.ต.สราวุธ เอี่ยมสำราญ ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก.สพฐ.ตร. พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รองผบก.ปทส. พร้อมคณะพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ตรวจยึดจากที่บ้านพัก ยืนยันมีความผิดชัดเจนแล้ว2กระบอก กระบอกแรกคืออาวุธปืนที่ประกอบขึ้นเอง อีกกระบอกคืออาวุธปืนมีทะเบียน แต่เป็นอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถออกใบทะเบียนได้ ตนสั่งการให้พนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ร้องทุกข์ที่ตำรวจป่าไม้ให้เรียบร้อยภายในวันนี้(23ก.พ.) ประเด็นที่ 2 ให้สอบปากคำพยานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทั้ง 10 ปากให้ครบ เพื่อให้สำนวนครบถ้วนสมบูรณ์ นอกจากนี้ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิ ส่งมอบโทรศัพท์ของนายเปรมชัยและพวกให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อตรวจสอบภาพถ่ายในโทรศัพท์ และตรวจสอบข้อมูลการติดต่อก่อนจะเข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ รวมถึงกำชับให้พนักงานสอบสวนสรุปผลการตรวจสอบชิ้นเนื้อที่พบในที่เกิดเหตุ ร้านจำหน่ายอาหารป่า และผลตรวจงาช้างภายในวันที่10มีนาคมนี้

ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พฐ. มีการตรวจพิสูจน์ที่ทองผาภูมิ มีการตรวจดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ อาวุธปืน 3 กระบอก ปลอกกระสุนปืน กระสุนลูกปลายที่ตรวจพบ ขณะนี้ตรวจรายงานจากที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นแล้วพร้อมที่จะส่งรายงานได้ ส่วนรายการที่ 2 เป็นการตรวจรถยนต์จากที่เกิดเหตุได้นำมาส่งตรวจในภายหลัง มีการตรวจดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และตรวจเขม่าปืนที่รถ ผลการตรวจไม่พบเขม่า ส่วนดีเอ็นเอและลายนิ้วมือพบว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา รายงานในส่วนนี้พร้อมส่งรายงานแล้วเช่นกัน ส่วนกรณีที่มีการตรวจค้นอาวุธปืนที่บ้านนายเปรมชัย จำนวน 43 กระบอก มีผลการตรวจแยกเป็นรายงาน10ชุด รายละเอียดตามที่มีการแถลงอาวุธปืนไม่ถูกต้อง6กระบอก ได้สรุปรายงานเรียบร้อยพร้อมส่งเช่นกัน

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ขณะที่ผลการตรวจซากเสือดำพบว่ามีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 20 มม. พบรอยที่ซากเสือดำ 8 รอย ตรงกับกระสุนปืนจากปืนที่พบในที่เกิดเหตุ ปืนกระบอกดังกล่าวพบดีเอ็นเอของนายเปรมชัยที่โก่งไกปืน แต่ยังยืนยันไม่ได่ว่าเป็นการยิงจากปืนขนายเปรมชัยหรือไม่ เนื่องจากซากเสือดำถูกชำแหละไปแล้ว ส่วนการตรวจรถยนต์ไม่พบว่ามีคราบเลือดของสัตว์ป่าแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้นายเปรมชัยมาให้ปากคำในวันที่ 5 มีนาคม หลังจากทนายความขอเลื่อนให้ปากคำครั้งก่อน โดยอ้างว่าติดธุระสำคัญ คาดว่าสำนวนคดีจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 มีนาคม ขณะนี้เหลือเพียงการสอบปากคำผู้ต้องหา พยาน และรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาตร์บางส่วนเท่านั้น ส่วนข้อกล่าวหาขณะนี้มีเพียง9ข้อหา ส่วนที่เจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มาแจ้งความในข้อหาทารุณกรรมสัตว์เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มาถอนแจ้งความเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เนื่องจากพิจารณานิยามคำว่า “สัตว์” แล้วพบว่าไม่เข้าตามคำนิยามของตามพ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์

สำหรับการเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักนายเปรมชัย กรรรณสูต เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบอาวุธปืนทั้งหมด43กระบอก และส่งให้พฐก.ตรวจพิสูจน์ จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนที่ไม่ถูกต้องจำนวน 6 กระบอก ดังนี้

1.อาวุธปืนยาวคาร์ไบน์ แบบกึ่งอัตโนมัติ (Marlin) ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก นายทะเบียน อาวุธปืน กรมการปกครองแจ้งว่า เป็นอาวุธที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้

2.อาวุธปืนยาวอัดลมแบบประกอบขึ้นเอง ไม่ปรากฏเครื่องหมายทะเบียน (ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต) จำนวน 1 กระบอก นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครองแจ้งว่า เป็นอาวุธปืนประกอบขึ้นเอง ไม่มีต้น ขั้ว ป.4

3.อาวุธปืนยาวแบบ 2 ลำกล้อง (Gardonevt) ขนาด 12 และขนาด .30-06 จำนวน 1 กระบอก ไม่ปรากฏเครื่องหมายทะเบียนปืนนายทะเบียนอาวุธปืนกรมการปกครองแจ้งว่าไม่มีต้นขั้วป.4

4.อาวุธปืนยาวไรเฟิล (Remington) .30-06 จำนวน 1 กระบอก เครื่องหมายทะเบียนปืนลบเลือน หมายเลขประจำปืนถูกขูดลบ นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครองแจ้งว่า หมายเลขทะเบียนปืนไม่ได้ตอกจากเหล็กตอกของทางราชการ

5.อาวุธปืนยาวแบบ 2 ลำกล้อง (Bernardelli) ขนาด 12 และขนาด .30-06 จำนวน 1 กระบอก ไม่ปรากฏเลขหมายประจำปืน นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครองตรวจสอบเครื่องหมายทะเบียนไม่ปรากฏ ไม่มีต้นขั้ว

และ6.อาวุธปืนยาวประจุปาก(ปืนคาบศิลา) จำนวน 1 กระบอก ไม่ปรากฏเลขหมายประจำปืน นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครองแจ้งว่า ไม่มีต้นขั้ว โดยพฐก. จะส่งผลการตรวจพิสูจน์ให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สอบสวนดำเนินคดีต่อไป