“บิ๊กบัง” จี้ คสช. “เดินตามโรดแมป-ฟังประชาชน” เตือนเอาบทเรียนในอดีตเป็นตัวอย่าง บอก “รัฐประหาร” หมุนวนมาได้ เกิดขึ้นทุกชาติ

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นศส.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ตนอยากให้โรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินไปข้างหน้าและเป็นจริงตามนั้น ถ้าเดินไปได้ประชาชนก็พอใจ ส่วนกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เห็นชอบผู้สมัครกรรมการการเลือกตั้ง 7 คนนั้น ตนก็รู้สึกตกใจ ซึ่งปมดังกล่าวก็ทำให้เห็นแนวโน้มว่ามีโอกาสจะเลื่อนโรดแมปออกไปอีก อย่างไรก็ตาม ในระบอบประชาธิปไตย ยังเชื่อมั่นว่าจะต้องมีการเลือกตั้ง แต่จะเป็นช่วงเวลาใดนั้นตนยังตอบไม่ได้

เมื่อถามว่า ประเมินอย่างไรที่ คสช.จะเลื่อนโรดแมปการเลือกตั้งออกไป พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนคิดว่าเสียงประชาชนจะเป็นตัวบ่งชี้ จะเร็วหรือจะช้า และคิดว่า คสช.จะรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร

เมื่อถามว่า ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ประชาชนจะออกมากดดันรัฐบาลและ คสช.หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ทุกอย่างก็มีสิทธิที่จะเป็นเช่นนั้น ประวัติศาสตร์สอนให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่าง ตนจึงอยากฝากไปถึงรัฐบาลและ คสช. ขอให้นึกถึงโรดแมป และให้ทำตามโรดแมป

เมื่อถามว่า ถ้าประชาชนออกมากดดันจะนำไปสู่วงจรการรัฐประหารหรือไม่ อดีตประธาน คมช. กล่าวว่า การรัฐประหารเป็นธรรมชาติของวงจรที่จะเกิดขึ้นได้ของทุกชาติ ซึ่งประเทศเราก็หมุนอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ดังนั้นอยากขอให้ คสช.ฟังประชาชน

พล.อ.สนธิยังกล่าวถึงกระแสข่าว คสช. จัดตั้งพรรคทหารว่า พรรคการเมืองจะต้องมีผู้นำที่ดีและเป็นที่ศรัทธาของประชาชน ซึ่งการตั้งพรรคการเมือง ต้องดูทั้งตัวผู้นำพรรคและนโยบายของพรรค ซึ่งตนมองแล้วก็ยังไม่เห็นเท่าไหร่ ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงไม่ลงมาเล่นการเมือง

เมื่อถามต่อว่า หากไม่ลงมาเล่นการเมืองเอง จะใช้นอมินีเล่นแทนหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า อดีตให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว

พล.อ.สนธิกล่าวว่า สำหรับการเตรียมการพรรคมาตุภูมิเพื่อรองรับการเลือกตั้งนั้น พรรคเราเป็นพรรคเล็ก อนาคตยังไม่มั่นใจ ต้องดูรายละเอียดของกฎหมายก่อน ซึ่งสมาชิกและคณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ส่วนจะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่นั้นคงต้องดูก่อนเช่นกัน ตนคิดว่าคงต้องดูเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกพรรค ตอนนี้พรรคยังอยู่ “อันเดอร์กราวด์”