‘สมชัย’ลั่นกกต.พร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไม่สบายใจ หวั่นต้องขึ้นศาลหลังพ้นตำแหน่ง

“สมชัย” ลั่น กกต.พร้อมเลือกตั้งท้องถิ่น 45 วันหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ ยอมรับแต่เป็นการทำงานแบบไม่สบายใจ เพราะต้องพ้นตำแหน่งหลังจากนั้น

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต. กล่าวถึงสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ว่า 1.กกต.มีอำนาจสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งชั่วคราว(ใบส้ม)ไม่เกิน 1 ปี, 2.ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.สามารถยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง(ใบดำ)หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง(ใบแดง), 3. กกต.แต่ละคน มีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ยกเลิกการเลือกตั้ง หรือสั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งใหม่ หากพบการกระทำความผิด, 4. ให้มีการแจ้งเบาะแส การคุ้มครองพยาน รวมทั้งรางวัลนำจับ, 5. ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นให้ถืออายุของสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นวาระในการดำรงตำแหน่ง, 6. ผู้บริหารท้องถิ่นลาออกก่อนครบวาระ หากมีการอนุมัติโครงการที่ใช้งบประมาณท้องถิ่น ภายใน 90 วันก่อนวันลาออก ให้ถือว่าผู้บริหารท้องถิ่นกระทำการฝ่าฝืน เว้นแต่โครงการดังกล่าวเป็นการบรรเทาทุกข์จากภัยธรรมชาติ หรือภัยพิบัติสาธารณะ, 7. ค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งและการหาเสียง กรณีเป็นการเลือกตั้งครบอายุของสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้คำนวณค่าใช้จ่ายหรือหาเสียงได้ตั้งแต่ 180 วันก่อนวันครบอายุของสภาฯ จนถึงวันเลือกตั้ง ในกรณีแทนตำแหน่งที่ว่างให้คำนวณค่าใช้จ่ายหรือหาเสียงเลือกตั้งได้ตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างจนถึงวันเลือกตั้ง, 8. การหาเสียงของผู้สมัครจะต้องปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเฉพาะในสถานที่ที่ กกต.กำหนด และต้องมีขนาดและจำนวนไม่เกินที่ กกต.กำหนด และถ้ามีการหาเสียงโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กกต.กำหนด, 9. เปลี่ยนแปลงระยะเวลาในการห้ามจำหน่ายสุราในวันเลือกตั้ง ระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง และ10. กำหนดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้ง เวลา 08.00 -16.00 น.

นายสมชัย กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดเมื่อใดขึ้นอยู่กับรัฐบาล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกกต.ชุดปัจจุบันหรือกกต.ชุดใหม่ แต่มีเงื่อนไขคือกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ อย่างไรก็ตาม คาดว่ากฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเข้าที่ประชุมสนช.พิจารณาได้ภายในต้นเดือนเมษายน หากเข้าพร้อมกันก็สามารถพิจารณาโดยใช้เวลาประมาณ 60 วัน ซึ่งก็จะเสร็จประมาณต้นเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นก็นำขึ้นทูลเกล้าคาดว่าใช้เวลาประมาณ 30 วัน แต่ในส่วนนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าจะใช้เวลา 3 เดือน ซึ่งอาจจะเป็นการบอกเวลาแบบเต็มพิกัด แต่หากดำเนินการจริงอาจจะเร็วกว่านั้น อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ กกต.ก็พร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่งหากคำนวณตามกรอบเวลาของตนก็คาดว่าจะเกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ภายในเดือนสิงหาคม แต่หากคำนวณตามกรอบเวลาของนายวิษณุการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ซึ่งจะกลายเป็นช่วงเวลาที่ใกล้กับการเลือกตั้ง ส.ส.และรัฐบาลอาจจะเห็นว่าการเลือกตั้งกระชั้นกันเกิดไป และอาจยังไม่ให้มีการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น คงไม่ใช่การเลือกตั้งท้องถิ่นทุกประเภทพร้อมกัน เพราะจะเป็นภาระมากเกินไป และในส่วนของ อบต. เทศบาล มีการยุบรวม ดังนั้นน่าจะเป็นการเลือกตั้ง อบจ.ในส่วนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้ง

“ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะสั่งให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อใด เพราะเรื่องนี้ไม่มีคำมั่นสัญญาใดๆ จากทุกฝ่าย แต่กกต.ก็พร้อมหากรัฐบาลจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ชุดปัจจุบันคงเป็นการทำหน้าที่แบบไม่สบายใจอย่างยิ่ง เพราะจะต้องมาทำงานใหญ่ หลังจากนั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง หากจัดเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วมีการให้ใบแดง ใบเหลืองใคร พอพ้นจากตำแหน่งแล้ว ก็จะต้องไปขึ้นศาลในนามส่วนตัว ซึ่งเป็นการทำงานภายใต้ความไม่มั่นคง ทำให้เกิดความหวั่นไหวในการทำงานของ กกต.ทั้ง 5 คน ”นายสมชัย กล่าวและว่า ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น. ตนจะมีทางออกในเรื่องนี้ ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องใดขอให้ติดตาม แต่ไม่ได้เป็นการแถลงข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายสมชัยแถลงข่าวได้เกิดกระแสข่าวว่านายสมชัยอาจจะยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่อยากรับภาระดังกล่าว