22 ก.พ. 61 ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ , นายกาณฑ์ พงษ์ประพันธ์ และ นายสุกฤษณ์ เพียรสุวรรณ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อหายุยงปลุกปั่น ม.116 และฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป คดีจัดการชุมนุม “รวมพลคนอยากเลือกตั้ง” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดย ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ได้แจ้งกับทาง นายสิรวิชญ์, นายกาณฑ์ และนายสุกฤษณ์ ว่า จะนำตัวทั้งสาม ไปขออำนาจ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อฝากขัง และ คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดี “คนอยากเลือกตั้ง” นี้ เป็นคดีความมั่นคง มีอัตราโทษสูง

จากนั้น แกนนำทั้ง 3 ได้เดินมาให้สัมภาษณ์กับสื่อบริเวณหน้า สน.นางเลิ้ง โดยนายกาณฑ์กล่าวว่า ตามกำหนดการชุมนุมในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  ยังคงเช่นเดิม

ส่วนกรณีของน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรม ที่มารับทราบข้อหาด้วยตัวเองก่อนกำหนดนั้น นายกาณฑ์กล่าวโดยอ้างเหตุผลที่ทางตำรวจกล่าวว่า น.ส.ณัฏฐาเดินทางมายัง สน.นางเลิ้ง ซึ่งมาช่วงวันเสาร์ และตำรวจยังไม่ได้ออกหมายเรียก แต่ตำรวจได้บันทึกความข้อกล่าวหา และวันนั้นศาลปิดทำการ จึงไม่ต้องส่งตัวไปที่ศาล

“สองกรณีดังกล่าว หลายคนอาจมองว่าสองมาตรฐานหรือไม่ มันแล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน ส่วนถ้าตามกระบวนการยุติธรรม ตนก็ต้องดำเนินการต่อไป ทั้งที่เราทั้งสาม ไม่เข้าเงื่อนไขที่ต้องฝากขัง ซึ่งก็ต้องสู้กันต่อไปว่า เราไม่ได้ทำอะไรผิด” นายกาณฑ์ กล่าว

ด้าน น.ส.ณัฏฐา ได้โพสต์ข้อความว่า โบว์ได้ทราบข่าวการขอศาลฝากขังน้องกาณฑ์ นิว และง้วง (ที่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกครั้งแรกวันนี้) โดยพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้งในวันนี้ด้วยความรำคาญใจ เมื่อไหร่ตำรวจซึ่งเป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรมจะเข้าใจว่าการละเมิดสิทธิ์ผู้ต้องหา นอกจากจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบแล้ว ยังเป็นการเพิ่มภาระให้ศาลและบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมที่จ่ายด้วยภาษีประชาชนโดยไม่สมควร

เหตุที่จะออกหมายขังได้ คือการเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในชั้นสอบสวน ได้แก่
– ผู้ต้องหามีเจตนาหลบหนี
– ผู้ต้องหาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
– ผู้ต้องหาเป็นบุคคลอันตราย
เมื่อไม่เข้าเงื่อนไขเหล่านี้ หลักปฏิบัติของพนักงานสอบสวนอย่างซื่อตรงคือ “มาพบ สอบสวน ปล่อยตัวชั่วคราว”