เผยแพร่ |
---|
“วิโรจน์” ท้า “วินธัย” แจงกมธ.ทหาร ปมคดี 112 “พอล แชมเบอร์ส” ไหนว่ากล้านัก อยากได้ไมค์แทงปาก สับสนตำแหน่งตัวเอง กฎหมายมหาชน กับ พ.ร.บ.กอ.รมน. ถาม หากเกี่ยวภาษีทรัมป์ ใคร ยศไหน กล้ารับผิดชอบ หายนะทางเศรษฐกิจคนไทยทั้งประเทศ – กระทบกระเทือนพระเกียรติยศสถาบัน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ออกมาชี้แจงเรื่องที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 (กอ.รมน.ภาค 3) แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี นายพอล แชมเบอร์ส อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ตอนนี้มีติดใจเยอะเลย พอได้อ่านการชี้แจง คำถามที่ผุดขึ้นทันทีคือ พล.ต.วินธัยมีตำแหน่งอะไรใน กอ.รมน. เพราะในข่าวเองระบุตำแหน่งว่าโฆษกกองทัพบก เขาสับสนต้นสังกัดและสายการบังคับบัญชาของตัวเองแล้วหรือไม่
ทบ.โต้กมธ.ทหาร มีอำนาจแจ้งจับ พอล 112 วอนสังคมพิจารณา กอ.รมน.ถูกด้อยค่า โง่แต่ขยัน
กมธ.ทหาร จ่อเรียก วินธัย แจง กรณีกอ.รมน.แจ้ง 112 ดร.พอล ข้องใจ ไม่แจ้งผู้โพสต์เฟซบุ๊กต้นทาง
นายวิโรจน์กล่าวว่า ได้อ่านข่าววันนี้ว่า พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. ตัวจริงได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว แต่เป็นลักษณะทำนองเดียวกันเหมือนคัดลอกกันมา ในเมื่อ พล.ต.วินธัยกล้าออกมาชี้แจงทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีตำแหน่งใน กอ.รมน. ทาง กมธ.การทหารคิดว่าท่านคงมีความรู้ทางด้านกฎหมายมหาชนจึงได้เชิญเข้าชี้แจงในวันที่ 8 พฤษภาคมด้วย
นายวิโรจน์กล่าวว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ประชาชนทั่วไปหากเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งตำรวจได้ แต่ กอ.รมน.เป็นหน่วยงานรัฐ ต้องยึดหลักกฎหมายมหาชน คือหากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ก่อนถึงถือว่ากระทำไม่ได้ แต่วันนี้ กอ.รมน.แยกตัวเองไม่ออกว่าเป็นบุคคลทั่วไป หรือเป็นหน่วนงานรัฐ จึงต้องตั้งคำถามว่าพระราชบัญญัติของ กอ.รมน.ได้ให้อำนาจไว้ในมาตราใด ตอนนี้มีแต่การชี้แจงว่าใช้มาตรา 7 ที่เกี่ยวกับการวางแผน แล้วใช้มาตราใดหากยึดหลักกฎหมายมหาชน ในวันที่ 8 พฤษภาคม ขอให้เชิญนายทหารพระธรรมนูญมาด้วยก็ได้ ตนจะได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายมารับฟัง ได้เข้าใจว่ากองทัพไม่สนใจหลักกฎหมายมหาชนแล้วใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นคณะนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ คงปั่นป่วนไปหมด
ส่วนที่มีการระบุว่ามีการไล่บี้กันในที่ประชุม กมธ.การทหารนั้น นายวิโรจน์ระบุว่า ถ้าไม่ผิดจะกลัวอะไร คำพูดนี้ กอ.รมน.ก็ชอบพูด หากใช้อำนาจโดยชอบ ไม่เข้าข่ายการประพฤติมิชอบ เคารพหลักกฎหมายมหาชนจะกลัวอะไร ที่ต้องตรวจสอบเพราะขนาดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ออกมายอมรับว่าการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้มีส่วนไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับการเจรจาภาษีกับประเทศสหรัฐอเมริกา หากการดำเนินการของ กอ.รมน.ไม่รอบคอบเพียงพออาจจะเป็นต้นเหตุของหายนะทางเศรษฐกิจที่กระทบต่อปากท้องของประชาชนทั้งประเทศใครจะรับผิดชอบ การแจ้งความในมาตรา 112 อยากจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเวทีโลกได้ว่า คุณกำลังนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าไปอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบถึงพระเกียรติยศของสถาบัน อาจจะเข้าข่ายการแอบอ้างความจงรักภักดีไปกลั่นแกล้งในบุคคลให้ต้องโทษคดีอาญา
“ผมถามไปที่ พล.ต.วินธัย และ พล.ต.ธรรมนูญ เลยว่า หากเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจของประชาชน เมื่อทราบภายหลังว่ามีการยกฟ้อง สั่งไม่ฟ้อง หรือมีคำพิพากษาว่านายพอล แชมเบอร์ส ไม่ผิด ใครรับผิดชอบ” นายวิโรจน์กล่าว
ส่วนที่กองทัพออกมาระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจนั้น นายวิโรจน์กล่าวว่า เขาก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้อง คุณอย่าตอบว่าไม่เกี่ยว คำถามที่ถาม กอ.รมน.คือถ้าเกี่ยวใครจะรับผิดชอบ
“ถ้าเกี่ยวใครจะรับผิดชอบ พูดชื่อมา พล.ต.วินธัยเห็นแสดงภาพยนตร์เก่งสมบทบาท พูดมาหากเกี่ยวหากมีผลกระทบต่อปากท้องของประชาชนต่อเศรษฐกิจ เกิดความทุกข์ยากของผู้ส่งออก และผู้ประกอบการตลอดจนพนักงานต่างๆ จนลามมาเป็นลูกโซ่ถึงประชาชนทั้งประเทศ ใครบุคคลใดใน กอ.รมน. กองทัพบก หรือกระทรวงกลาโหม ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ชื่ออะไร นามสกุลอะไร ชั้นยศอะไร จะรับผิดชอบที่สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกหยิบยกไปอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ต้องบอกว่าไม่เกี่ยว ผมถามว่าถ้าเกี่ยวไง ถ้าตอบไม่ได้ ก็เหมือนคุณแทงหวยว่าไม่เกี่ยวอย่างเดียว แสดงว่าถ้าเกี่ยวขึ้นมาจับมือใครดมไม่ได้ ไอ้ที่บอกว่าทหารหาญ กล้าทำกล้ารับ ไม่จริง บอกมาเลยไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ถ้าคิดว่าทำโดยชอบด้วยกฎหมายก็ทำไป แต่ถ้าสุดท้ายยกฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ใครรับผิดชอบ ไหนบอกว่ากล้าหาญไง นี่คือหาร ที่ยังไม่ใช่ ญ ขนาด หาร รอ เรือ คุณยังไม่กล้าหาญความรับผิดชอบกันเลย แหม พูดแล้ว ลม…ขึ้นจริงๆ” นายวิโรจน์กล่าว
เมื่อถามว่า หาก กอ.รมน.และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ไม่มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในสัปดาห์หน้าจะทำเช่นไร นายวิโรจน์กล่าวว่า จะเรียกจนกว่าจะมา ไหนว่ากล้านัก อยากได้ไมค์แทงปากไม่ใช่เหรอ และยืนยันต่อ พล.ต.วินธัย ที่ประชุมกรรมาธิการวันที่ 8 พฤษภาคมจะไม่มีปิดไมค์แน่นอน อย่าปิดไมค์และปิดกล้อง
“ผมอยากให้ พล.ต.วินธัยมาเอง เพราะอยากรู้ว่าไอ้ห้อยไอ้โหนที่คอยส่งโพยให้หน้าตาเป็นอย่างไร และอยากให้ พล.ต.วินธัยมาพร้อมกับหลักกฎหมายมหาชน และเตรียมอ่าน พ.ร.บ.กอ.รมน.ของตัวเองมาให้เรียบร้อยก่อน หลักกฎหมายมหาชน ฟังให้ดีทั้ง พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ และ พล.ต.วินธัย สุวารี ไปถามทหารพระธรรมนูญที่มีมีความรู้ด้านกฎหมายได้ หน่วยงานรัฐต้องยึดหลักกฎหมายมหาชน ถ้าไม่ให้อำนาจไว้ก่อน ให้ถือว่ากระทำไม่ได้ ซึ่งต่างจากกฎหมายเอกชน คือถ้ากฎหมายไม่ห้าม” นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์กล่าวว่า ในกรณีนี้ กอ.รมน.ตามพระราชบัญญัติของตัวเองให้อำนาจโดยที่มาตราใด อยู่ดีๆ จะตอบว่าเกี่ยวกับมาตรา 7 การทำแผน แล้วมาตราใด แล้วบอกว่าบุคคลทั่วไปธรรมดาสามารถแจ้งความได้ แยกไม่ออกหรือว่า กอ.รมน.เป็นบุคคลหรือหน่วยงาน ซึ่งจริงๆ ต้องการเชิญ พล.ต.วินธัย เพราะต้องการเชิญ พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ มากกว่า
“แต่ถ้าดูแล้วปากสั่นอยากจะมาตอบแทน กอ.รมน.ไง เลยคิดว่าท่านจะมีความรู้ ก็เลยเชิญมา อย่าบังอาจตอบว่าไม่ไม่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน. ถ้าตอบว่าไม่เกี่ยวข้อง เผยอหน้ามาให้สัมภาษณ์ทำไม สับสนในต้นสังกัดของตัวเองทำไม ในเมื่อกล้าให้สัมภาษณ์ก็ต้องกล้ามา ผมเชิญเลย มา มา ผมบอกอย่างนี้เลย แน่จริงมา ผมต้อนรับอย่างดี เดี๋ยวเตรียมอาหารรับรอง ขนม ถ้าไม่มากลัวนะ บอกก่อนวินธัย” นายวิโรจน์กล่าว