ผบก.ป.ขอเว้นระยะสื่อ ทำกองปราบเสียชื่อ ยันยังไม่สรุปเจ้าของหวย30ล.

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ กองบังคับการปราบปราม พหลโยธิน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ได้มีการแถลงถึงความคืบหน้าของคดีหวย 30 ล้าน ที่มีสื่อมวลชนบางสื่อ ได้มีการตัดสินบทสรุปของคดีหวย ว่าเป็นของใคร โดยชี้แจ้งว่าไม่เป็นความจริง

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า สำหรับคดีหวยเจ้าปัญหา 30 ล้าน ที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าประชาชนติดตามและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่งตอนเช้านี้มีสื่อบางช่องทาง สรุปข่าวในประเด็นที่ผิดซึ่งตนเห็นแล้วไม่สบายใจ มีการลงพาดหัวข่าว ว่าทางกองปราบปรามได้มีการสรุปแล้วว่าหวยเป็นของใคร ขออนุญาตชี้แจงว่าในเวลานี้คณะการทำงานกองปราบปรามและกองบังคับการสอบสวนกลาง ที่มี พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งทุกส่วนยังคงทำงานอย่างหนัก แม้กระทั่งวันนี้ก็ยังมีการนัดหมายเพื่อประชุมสรุป พยานหลักฐานที่แต่ละภาคส่วน ไปหามาไปสอบสวนมา

“ตนไม่เข้าใจว่าบางสื่อเอาไปสรุปได้อย่างไร ตนขอยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่มีการสรุปผลใดๆทั้งสิ้นว่าใครเป็นเจ้าของหวย นอกจากนั้นยังมีการที่มีการพาดพิงว่าจะมีการออกหมายจับพร้อมกับตำรวจหนึ่งนายขออนุญาตชี้แจงว่า ยังไม่มีข้อสรุปเช่นเดียวกัน “

“อยากเรียนพี่น้องสื่อมวลชนว่าที่ผ่านมาผมเป็นหัวหน้าองค์กรของกองปราบปราม ผมให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของท่านตลอด แต่เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ตนและหน่วยงานของผมเสียชื่อเสียง ต่อไปนี้ในเรื่องนี้ คงต้องเว้นระยะกับพวกท่านสักพักในจุดที่เหมาะสมมากกว่านี้ นอกจากนั้นเมื่อวานบางฉบับมีการลงข่าวว่าผมได้มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเรื่องของคดีหวยซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะผมไปสัมนาอยู่ที่ศูนย์ราชการทั้งวัน ซึ่งไม่มีใครได้พบผมเลย”

“ขอนะครับอย่าเอาชื่อผมไปอ้างหรือเอาหน่วยงานผมไปอ้างว่ามีการเปิดเผยในเรื่องของคดี รู้สึกว่ามันไม่แฟร์ ถ้าหากผมมาพูดในเชิงแถลง ผมถือว่าผมรับผิดชอบคำพูดของผม อย่าไปลงอะไรที่เกินความเป็นจริงเพราะสังคมกำลังจับตามองอยู่”

“ผู้บัญชาการสอบสวนกลางเน้นย้ำมาตลอด อะไรก็แล้วแต่ที่จะเป็นผลต่อรูปคดีเราเปิดเผยไม่ได้ อย่าลืมคดีนี้เป็นคดีที่มีคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย สรุปอะไรไปหรือพูดอะไรไปจะมีผลกระทบต่อรูปคดีทั้งสองฝ่าย จากทางกองปราบปรามได้ไปรับสำนวนคดี จากตำรวจภูธรภาค 7 ทั้งสองคดี เรื่องแรก คือเรื่องทางครูปรีชา ไปแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.ท.จรูญ ว่ายักยอกของตกหายหรือรับของโจร ส่วนเรื่องที่สอง คือ ร.ต.ท.จรูญ แจ้งความกล่าวหา ครูปรีชา ว่าแจ้งความเท็จ ตอนผมไปรับสำนวนมาด้วยตนเอง สำนวนในคดี ที่ ครูปรีชา กล่าวหา ร.ต.ท.จรูญ เอกสารเยอะมาก 4-5 แฟ้ม ในขณะเดียวกัน สำนวนที่ ร.ต.ท.จรูญ กล่าวหาครูปรีชา ว่าแจ้งความเท็จ นั้นแทบไม่ได้ทำอะไรไว้เลย “

“บทสรุปของทั้ง 2 เรื่อง นโยบายของกองบัญชาการสอบสวนกลาง ต้องเป็นบทสรุปที่พร้อมกันทั้ง 2 เรื่อง บางคนอาจจะมองว่าเราทำงานล่าช้า ไม่ช้าหรอก เราทำงานกันอย่างหนักทุกวัน อยากเรียนว่าท้ายที่สุด บทสรุปของเรื่องนี้จะจบลงอย่างไรทั้งสองคดีจะต้องมีบทสรุปที่พร้อมกัน มีพยานหลักฐานอะไรมารองรับและยืนยันโดยปราศจากข้อสงสัย”

“ขออนุญาตเรียนพี่น้องสื่อมวลชนว่าอย่าพึ่งนำเสนอข่าวใดๆที่มันทำให้คาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ในส่วนของเรื่องหวย 30 ล้าน ตนขอไม่ให้สัมภาษณ์ใดใด และในส่วนของประเด็นต่างๆ ให้ไป พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. หัวหน้าคณะทำงานเท่านั้น” พล.ต.ต.ไมตรี กล่าว