จาก ‘โคมแดง’ ถึง กระถางบัวสี ท่าที จาก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ความสนใจในเรื่อง “โคมแดง” และ “กระถางบัวสี” กระทั่งเรื่องของ”2 อีการุมจิก 1 พิราบ”

ล้วนเกิดขึ้นในพื้นที่ “ทำเนียบรัฐบาล”

ในกาลอดีต อาจสัมพันธ์กับ “ตัวเงินตัวทอง” ที่มาตามเส้นทางของคลองจากเขาดินมายังบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ อันสามารถติดต่อกันได้

แต่เมื่อ “ตัวเงินตัวทอง” เริ่มมีน้อย แสงแห่งสปอตไลต์ย่อมฉายจับไปยังสัตว์ปีก

ไม่ว่า “อีกา” ไม่ว่า “พิราบ”

คำถามจึงมิได้อยู่ที่ว่าเหตุใด “สื่อ”จึงให้ความสนใจกับข่าวอย่างนี้ทั้งๆที่อยู่ในสถานการณ์ “ไทยแลนด์ 4.0”

หากแต่อยู่ที่ว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงสนใจ

 

ถามว่าการปรากฏขึ้นของ “โคมแดง” บริเวณประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาลมีมูลเชื้อมาจากอะไร

เนื่องในเทศกาล”ตรุษจีน” กระนั้นหรือ

เคยมีการติด”โคมแดง”อย่างนี้หรือไม่ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หรือแม้กระทั่งในรัฐบาลของ นายชวน หลีกภัย ซึ่งถือว่ามีเชื้อสายจีน

ตอบได้เลยว่า ไม่มี และ ไม่เคยมี

“สื่อ”จึงต้องค้นหาสาเหตุและหาคำตอบได้ว่า สัมพันธ์กับกระถางบัวสีแตก ซึ่งความเชื่อแบบจีนว่าเข้าของแตกสลายเสียหายในห้วงเทศกาลตรุษจีนเป็นเรื่องไม่ดี

จำเป็นต้องแขวน”โคมแดง”เพื่อแก้เคล็ด

จาก”กระถางบัวสี”แตกลามไปถึง”กระถางต้นข่อย”ก็แตกร้าวพังทะลาย

และที่สุด “อีกา”ก็ไล่จิกตี”พิราบ”จนไส้ทะลัก

 

ความจริง หากมองเป็นเรื่องของ”ธรรมชาติ” ไม่ว่ากรณี”กระถางบัว สี” ไม่ว่ากรณี”กระถางต้นข่อย”ล้วนดำรงอยู่ภายใต้กฎแห่ง “อนิจจัง”

แต่ที่เรื่องเหล่านี้กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะการปรากฏขึ้นของ “โคมแดง” เพราะการปรากฏขึ้นของ “ธูป 36 ดอก”

และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการแถลงข่าว

ในกระแส”ขาลง” ในกระแส CREDIT ที่เสื่อมทรุด ตกต่ำ