“บิ๊กตู่” ยันให้กลไกตรวจสอบ “บิ๊กป้อม” เผยเรียกหอการค้าแจงผลโพล คอร์รัปชันพุ่ง ชี้ไม่ชัดเจน

บิ๊กตู่” ตอกกลับ “ต่อตระกูล” อย่าทำให้มีปัญหาวุ่นวาย ยุเอา “บิ๊กป้อม”ออกจาก คตช. บอก ให้กลไกตรวจสอบ เผย เรียกหอการค้าแจงผลโพล คอร์รัปชันพุ่ง ชี้ ไม่ชัดเจน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายต่อตระกูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติด้านการป้องกันการทุจริต ในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ได้ทำหนังสือถึงประธาน คตช. แสดงความกังวลต่อบทบาทของคตช. ในสถานการณ์วิกฤติปัจจุบัน กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรู ว่า เป็นเรื่องของคตช. ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ ไม่อยากให้มาพูดจนวุ่นวายไปหมด

“ทำเรื่องการทุจริต แต่ก็อย่าทำให้มันวุ่นวาย ให้มันมีปัญหา ให้มันสบสนอลม่านไปหมด ให้กลไกในการตรวจสอบทำไป และถ้าตรวจสอบมาแล้ว มีการทำความผิดจริง ก็เข้าไปสู่กระบวนการของศาลยุติธรรม ศาลตัดสินออกมา ก็เป็นเรื่องของศาล ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย”

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยสำรวจดัชนีสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่น พบว่าปี 2560 มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะสูงสุดในรอบ 3 ปี และสถานการณ์คอร์รัปชั่นในปี 2561 นี้จะรุนแรงมากขึ้นว่า เรื่องนี้ตนเช็คแล้ว ได้เรียกทางมหาวิทยาลัยหอการค้ามาพบ ซึ่งได้รับแจ้งว่าเป็นการชี้แจงทางหลักการวิชาการเฉยๆ ซึ่งไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน เพียงแต่ว่าเป็นการประมาณการณ์

“ถ้าเราจะจับให้ได้จริง ๆ ว่าทุจริตจริง ๆ เท่าไหร่ มันต้องไปหาคนให้หลักฐานมา แต่ถ้ากลัวกันหมด กลัวว่าวันหน้าจะไม่ได้ทำโครงการของรัฐ เพราะเป็นคนมาเปิดเผยข้อมูล แล้วเราจะสะอาดบริสุทธิ์กันได้เมื่อไหร่ แบบนี้ก็แก้ไม่ได้หรอก รัฐบาลก็แก้ไม่ได้ ต่อให้ 10 รัฐบาลก็แก้ไม่ได้ นายกฯ 100 นายกฯ ก็แก้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมมือกัน ข้อมูลต้องชัดเจน ซึ่งการนำเสนอลักษณะแบบนี้บางทีมันอาจจะมีผลเสียกับประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศจะมองว่าเรามีทุจริตมากขึ้น ก็จะมีผลต่อการลงทุนหรือไม่ ความจริงวันนี้เขาพร้อมลงทุนในประเทศเรา แต่พอข่าวแบบนี้ออกไปก็จะเสียหายได้แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะให้ปกปิดข้อเท็จจริง ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ถ้าใครทุจริต ผมไม่ละเว้นแน่ ด้วยขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะลงโทษใครก็ได้ ผมไม่เคยลงโทษแบบนั้น” นายกฯ กล่าวและว่าเรื่องนี้มีอาจารย์ที่ทำโพลแห่งหนึ่งมาอธิบายผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทยแล้ว ลองไปดูกัน ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะทำโครงการอะไรขึ้นมาแล้วจะต้องมีการทุจริตเท่านั้น เท่านี้ มันไม่ใช่บัญญัติตรายางนะ ไปคิดใหม่ ต้องดูว่าใครผิด ตรงไหน ก็ลงโทษตรงนั้น
//////////