ม็อบต้านถ่านหินเฮ! ศาลยกคำร้อง ตร.ขอเลิกชุมนุมหน้ายูเอ็น ชี้ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ห้องพิจารณา 601 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องคดีหมายเลขดำ ชส.2/2561 ที่ พ.ต.ต.อรรถวิท เรืองโภควิทย์ พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ยื่นคำร้องเรื่อง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ขอให้ผู้ชุมนุมคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ – เทพา ที่ชุมนุมอยู่บนทางเดินเท้าเกาะกลางถนนหน้าสำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถนนราชดำเนิน ให้ยกเลิกการชุมนุม

โดยวันนี้ พ.ต.ต.อรรถวิท พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ผู้ร้อง เดินทางมาศาลขึ้นไต่สวนเพียงปากเดียว ขณะที่ฝ่ายผู้ชุมนุมมีตัวแทน 2 คน เดินทางมาศาลพร้อมทีมทนายความ นำพยานฝ่ายผู้ชุมนุมขึ้นไต่สวนปากเดียวเช่นกัน

พ.ต.ต.อรรถวิท เบิกความทำนองว่า ผู้ชุมนุมยื่นคำร้องชุมนุมสาธารณะเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา จำนวนประมาณ 150 คน บริเวณทางเดินเท้าหน้าสำนักงานสหประชาชาติ มีการแจ้งตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ถูกต้อง แต่ทำให้ผู้สัญจรเดินไม่สะดวก จึงขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการชุมนุม

ขณะที่นายสมยศ โต๊ะหลัง พยานฝ่ายผู้ชุมนุม เบิกความทำนองว่า การชุมนุมมีความประสงค์ให้รัฐบาลยกเลิกโครงการดังกล่าว เนื่องจากกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จึงชุมนุมเพื่อส่งเสียงไปยังรัฐบาลให้ตัดสินใจยกเลิกโครงการ เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธและอดอาหาร เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมยังมีการรักษาความปลอดภัยและช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้สัญจร

หลังการไต่สวนพยานทั้งสองฝ่ายประมาณ 2 ชั่วโมงเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำสั่งคดีในวันนี้ (20 กุมภาพันธ์) เวลา 13.30 น.

นายสุรชัย ตรงงาม ทนายความมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ในฐานะทนายความผู้ชุมนุม เปิดเผยว่า การนัดไต่สวนในวันนี้ทีมทนายความได้ยื่นหนังสือจากสำนักงานสหประชาชาติ เพื่อยืนยันว่าเราชุมนุมเป็นไปตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองด้วย ในการไต่สวนเรายืนยันหลักการที่ประชาชนมาชุมนุมต้องการเรียกร้อง ตำรวจไม่มีอำนาจสั่งให้เลิกการชุมนุมโดยไร้เหตุผล ผลคำสั่งศาลในวันนี้จะทำให้เกิดบรรทัดฐานต่อไป ทั้งนี้ เห็นได้ว่าการบังคับใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ มีปัญหา เรื่องเล็กน้อยก็นำมาร้องศาลได้ ควรจะมีเกณฑ์ที่ชัดเจนขึ้น

ด้านนายสมยศ โต๊ะหลัก พยานฝ่ายผู้ชุมนุม เปิดเผยว่า เบิกความต่อศาลยืนยันว่าเป็นการชุมนุมอย่างสันติ เป็นเสรีภาพของประชาชน ที่ตำรวจอ้างว่ามีผลกระทบต่อการสัญจรนั้น เราบอกว่ามีการดูแลอำนวยความสะดวกแล้ว ส่วนการชุมนุมต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินครั้งก่อนนั้น รัฐบาลให้สัญญาไว้ว่าจะชะลอโครงการไป แต่ไม่มีเอกสารหลักฐาน ขณะที่ทางฝ่ายเสนอโครงการก็เดินหน้าต่อไป จึงไม่มีหลักประกันต่อผู้เสนอยกเลิกโครงการ ควรจะมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจน

ต่อมาเวลา 13.30น. ศาลมีคำสั่งว่าเมื่อพิจารณาแล้วการชุมนุมสาธารณะ บริเวณ ถนนราชดำเนิน ใกล้สำนักงานสหประชาชาติ มิได้เป็นการขัดขวางเจ้าหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะ แม้ประชาชนอาจจะได้รับความไม่สะดวกบ้าง แต่ไม่ได้เดือดร้อนเกินที่พึงคาดหมายได้ว่าเป็นไปตามเหตุอันควร อีกทั้งผู้จัดการชุมนุมดูแลการชุมนุมให้เป็นไปโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง

ภายหลัง นายสุรชัยกล่าวว่า ข้อสำคัญที่ศาลพิจารณาไว้ 2 ประเด็น คือ เป็นการชุมนุมโดยสงบที่ไม่ขัดกฎหมาย และไม่เป็นการสร้างความเดือดร้อนหรือขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.ชุมนุมฯ บัญญัติไว้