“คุณหญิงสุดารัตน์” ชี้ อภิปรายไม่ไว้วางใจคือกลไกถ่วงดุลรัฐบาล เผยชัยชนะไม่ได้วัดที่เสียงโหวต แต่ที่ “ศรัทธาประชาชน”

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เป็นกระบวนการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ที่ใช้เพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหาร แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากในสภาอย่างล้นหลาม โดยไม่ต้องพึ่งพา “งูเห่า” หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แปรพักตร์ แต่ชัยชนะที่แท้จริงจากการอภิปราย ไม่ได้อยู่ที่เสียงโหวต หากแต่อยู่ที่ความศรัทธาของประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ประชาชนต้องการเห็นนักการเมืองทำงานด้วยความสุจริตจริงใจ มีความสามารถและตั้งใจในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เข้ามาหาผลประโยชน์ส่วนตัวผ่านโครงการที่ซ่อนนโยบายแฝงผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพรรคพวก ซึ่งถือเป็น “ทุจริตเชิงนโยบาย”

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงกรณีของ “ส.ส.งูเห่า” ว่า เป็นผู้ที่ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน และทรยศต่อพรรคที่สร้างโอกาสให้ตนเองได้เข้ามามีบทบาทในฐานะ “ผู้ทรงเกียรติในสภา” แต่กลับเลือกเส้นทางที่ขาดจริยธรรม เพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัว มิใช่ผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้เป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตยอย่างรุนแรง

“งูเห่า” เหล่านี้ ควรถูกลงโทษจากประชาชน และถูกดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมในข้อหาผิดจริยธรรมร้ายแรง

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือกลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ถึงมือในสภาฝ่ายรัฐบาล จะชนะอย่างท่วมท้น โดยไม่ต้องอาศัยมือของสส.งูเห่า แต่ผลของการอภิปราย ไม่ได้ชนะกันที่มือที่ยกให้เป็นฝักถั่ว แต่ชนะกันที่“ศรัทธา”ของประชาชน

ที่ประชาชนอยากเห็นการทำงานการเมืองเพื่อประชาชนอย่างซื่อสัตย์สุจริต อยากได้รัฐบาลที่มีความสามารถ และมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างจริงใจ

ไม่ใช่เข้ามากอบโกย ผ่านโครงการต่างๆ ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงให้กับตนเองและพรรคพวก ซึ่งเป็นการ“ทุจริตเชิงนโยบาย”

ส่วนสส. งูเห่า ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกตนเข้ามา ทรยศต่อพรรคการเมืองที่สร้างให้ตัวเอง ได้มีวาสนาเข้ามาเป็น“ผู้ทรงเกียรติในสภา”

แต่กลับทำตัวไร้จริยธรรม

เพื่อแลกผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชน ทำลายระบบประชาธิปไตย
จะตัองถูกลงโทษโดยประชาชน และขบวนกระบวนการยุติธรรม

ฐานผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อไป